ตอนที่ 18 เจ้าชายผู้ที่เอาแต่ใจ 100 %
"ต่อไปนี้ทุกเที่ยงวันเธอจะต้องมาทานอาหารมื้อกลางวันกับเราที่นี่ ห้ามไปอ่อยที่โรงอาหารอีก !
"อะไรกันทำไมฉันจะต้องมาทานที่นี่กับเจ้าชายด้วย ! หญิงสาวไม่พอใจเมื่อถูกออกคำสั่ง
"เธอจะให้พูดจะให้เราพูดสักกี่ครั้งว่าเราเป็นอะไรกันล่ะ !
เจ้าชายยังคงยิ้มกวน น้ำเสียงนั้นช่างดูเผด็จการนัก
"คุณจะต้องออกมากับผู้จัดการและมาทานข้าวกับเราที่นี่ทุกวัน !
"นี่คุณ... !
หัวคิ้วของรอล่าขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าชายพวกนี้ถึงได้พูดจาไม่รู้เรื่องแบบนี้นะ
"จะให้ฉันบอกคุณกี่ครั้งว่าฉันไม่แต่ง ! ไม่แต่ง ! ไม่แต่ง ! ไม่เข้าใจหรือยังไง ! ภาษาคนเนี่ยะรู้เรื่องไหม !
"เราก็อยากจะบอกกับเธอเหมือนกันว่าเราอยากแต่ง ! อยากแต่ง ! อยากแต่ง !ไม่เข้าใจหรือยังไง!
"แล้วไหนคุณบอกว่าไม่อยากจะแต่งไง !? แล้วทำไมวันนี้มาบอกว่าอยากจะแต่งแล้วล่ะ !?
"ก็ถ้าเธอไม่อยากแต่งงานกับเรามากเท่าไหร่เราก็ยิ่งอยากจะแต่งงานกับเธอมากเท่านั้นแหละ และการที่เราแต่งงานกับเธอไม่ใช่เพราะเราตกหลุมรักเธอนะ แต่เป็นเพราะเราต้องการรักษาราชบัลลังก์ของตัวเองเอาไว้มากกว่า เพื่อความมั่นคงของบัลลังก์เราจะยอมเสียสละแต่งงานกับเธอตามที่ท่านพ่อและท่านแม่ต้องการ !
ยิ่งเมื่อเจ้าชายพูดแบบนี้หญิงสาวก็ยิ่งเจ็บปวดในหัวใจเมื่อการแต่งงานของเธอเป็นเพียงเกมส์การเมืองเท่านั้น !
"แล้วตัวเธอเองก็จะต้องแต่งงานกับเราอย่างปฎิเสธไม่ได้ !
"ทำไมจะไม่ได้คะ ดิฉันบอกกับครอบครัวแล้วว่าไม่ต้องการจะแต่งงานกับเจ้าชาย !
"นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอว่าการที่เธอปฏิเสธการแต่งงานกับเรา ครอบครัวของเธอจะอยู่อย่างสุขสบายเหมือนเดิม ! เธอมองโลกนี้สวยงามเกินไปแล้วนะ !
"คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง !
หญิงสาวรีบถามเพราะอยากรู้ความหมายของมัน เจ้าชายกำลังจะบอกอะไรเธอกันแน่
"ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ "
ลอร่าได้แต่เม้มปากด้วยความโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หญิงสาวจึงได้แต่หยิบช้อนขึ้นมาแล้วทานอาหารในทันทีที่พนักงานยกมาเสิร์ฟ
"ถ้าฉันทานข้าวกับคุณเสร็จแล้วคุณจะให้ฉันไปทำงานต่อใช่ไหม !?
เจ้าชายพยักหน้า
"ดีงั้นฉันก็จะรีบทานแล้วก็รีบไปให้พ้นจากคุณเสียทีเบื่อขี้หน้าจะแย่ละ "
เมื่อพูดจบหญิงสาวก็รีบลงมือรับประทานอาหารในทันที เพราะเธอไม่อยากนั่งตรงนี้นานนาน เธอเกลียดสายตาของเขาที่มองเธอเธอเกลียดคำพูดทุกคำที่ออกมาจากปากของเจ้าชายผู้นี้ ทุกคำเต็มไปด้วยความข่มขู่ดูถูกและพูดจาเหยียดหยามศักดิ์ศรีของเธอเป็นอย่างมาก ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นหญิงสาวได้แต่เม้มปากด้วยความเจ็บปวดในใจ
"ฉันไปทำงานได้แล้วใช่ไหม!
หญิงสาวถามก่อนที่จะลุกขึ้น
"อืม ได้สิ ทานอิ่มแล้วนิ !
เจ้าชายคามินผายมือให้กับเธอเพื่อบอกว่าเธอสามารถออกไปจากห้องอาหารแห่งนี้ได้แล้ว
หญิงสาวจึงรีบคว้ากระเป๋าสะพายแล้วเดินจำ้อ้าวออกไปในทันที แล้วมองหาผู้จัดการของตัวเองซึ่งเธอจะต้องเดินทางกลับไปพร้อมกับเขา
"มองหาใครอยู่เหรอ"
เสียงของเจ้าชายดังอยู่ที่ข้างใบหูของหญิงสาวเธอถึงกับสะดุ้ง
"อุ้ย ! พูดเฉยเฉยก็ได้ไม่ต้องยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้หรอก "
หญิงสาวย่นจมูกใส่เจ้าชาย
"ป่ะ อิ่มแล้วก็กลับไปทำงานต่อได้"
เจ้าชายคามินไม่พูดเปล่ากลับคว้าข้อมือของหญิงสาวให้เดินตามไป
เมื่อเธอจะดึงมือกลับเจ้าชายกลับเพิ่มแรงที่ข้อมือหนาบีบมันให้กระชับมากกว่าเดิม ไม่มีทางให้คนร่างบางได้ดึงมือกลับโดยง่าย
"เอ๊ะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ฉันเดินเองได้ โตมาขนาดนี้แล้วไม่ต้องมีใครมาจับมาจูง "
หญิงสาวประท้วง
"ไอ้ที่จับอยู่แบบนี้ก็กลัวว่าจะหนีไง ไม่ได้กลัวว่าจะหลงทางเสียหน่อย ไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทันเวลาทำงาน"
เจ้าชายพูดพร้อมกับกระชากร่างบางให้เดินตามหลังตัวเองอัตโนมัติ แต่ร่างงามฝืนใว้ไม่ยอมเดินตามเขาโดยง่ายจนเจ้าชายหันกลับมามอง
"เดิน !
"ไม่ ... คุณจะบังคับฉันไม่ได้" หญิงสาวหน้าบึ้ง
"จะเดินมาดีๆหรือจะให้อุ้ม"
"ฉันเดินเองได้แต่คุณต้องปล่อยมือฉันก่อน !
"จับนิดจับหน่อยทำเป็นหวงตัว หึ ! เจ้าชายสบถในลำคอ
"ปล่อยยยย ! หญิงสาวล่กเสียงยาว
"จะเดินไหม"
"ไม่ ! ลอร่ากอดอก
"ดี งั้นเราอุ้มไปก็ได้" เจ้าชายมองตาเธอแข็งกร้าว
"คุณไม่กล้าหรอก" หญิงสาวท้าทาย
ทันใดนั้นเข้าชายก็อุ้มหญิงสาวตัวลอยมาพาดใว้ที่บ่าพร้อมกับตีก้นเธอหนึ่งทีด้วยความหมั่นเขี้ยวเด็กดื้ออย่างเธอ
หญิงสาวดิ้นพล่านในขณะที่ตัวเองอยู่ที่ไล่กว้างของเจ้าชาย
"ปล่อยฉันลง ฉันยอมเดินแล้ว ปล่อยฉันลงก่อนอายคนอื่นเขา คนอื่นมองใหญ่แล้ว ปล่อยๆๆๆ"
"แน่ใจนะที่พูดอะ" เจ้าชายคามินถามในขณะที่อุ้มหญิงสาวพาดบ่า
"เเน่ใจ ฉันเดินเองได้จริงๆ"
เมื่อได้ยินแบบนี้เเล้วเจ้าชายคามินถึงกับยิ้มออก ท่านย่อตัวแล้ววางหญิงสาวลงเบื้องหน้าท่านยังคงจับข้อมือบางเอาใว้ไม่ให้วิ่งหนี แล้วทั้งสองคนก็จูงมือกันออกจากห้องอาหาร หญิงสาวเดินตามแบบไม่ค่อยเต็มใจ
"อ้าว รถคันนี้อีกแล้วเหรอ!
หญิงสาวรู้ในทันทีเมื่อมาถึงที่หน้าโรงแรมแห่งนี้ เจ้าชายเปิดประตูให้กับหญิงสาวก่อนที่ตัวเองจะม้วนตัวกลับมาอีกด้านซึ่งมีคนเปิดประตูเอาไว้ให้อยู่แล้ว เจ้าชายกระโดดขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับแล้วรถยนต์ก็พุ่งทะยานออกไปที่บริษัทเคเอ็มเฮ้าส์ในทันที
"ฉันว่าคุณไม่ต้องลำบากเดินมาส่งก็ได้นะคะ ใกล้แค่นี้เองนั่งรถไฟฟ้าสถานีเดียวก็ถึงแล้วไม่รู้จักลดภาวะโลกร้อนบ้างเลย "
หญิงสาวกอดอกและยังคงทำหน้าเคร่งเครียดไม่พอใจ
"ก็ไม่เห็นจะลำบากอะไรก็แค่คอยรับส่งคอยพาว่าที่พระชายาของตัวเองมาทานอาหารก็แค่นั้นเอง" เจ้าชายพูดอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้แกล้งหญิงสาว
"แต่ดิฉันไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองคือใครไม่อย่างนั้นฉันจะปลอมตัวโดยใช้บัตประชาชนคนธรรมดาไม่มีหม่อมราชวงศ์อยู่ข้างหน้าแบบนี้หรอคะ คุณยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าที่ฉันทำทุกอย่างแบบนี้ไปทำไม ! ฉันต้องการอยู่อย่างสงบแบบปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป ดิฉันไม่ต้องการเป็นคนโด่งดังแบบคุณหรอกนะคะ "
หญิงสาวถอนหายใจออกมาและชักสีน่ารำคาญเจ้าชายคนนี้เสียเหลือเกินที่เหมือนเธอพูดอะไรไปแต่เหมือนไม่เข้าหูหรือหัวเขาเลยแม้แต่น้อย
"จอดก่อนที่จะถึงบริษัทนะคะดิฉันไม่อยากตกเป็นข่าวว่ากระโดดขึ้นรถผู้จัดการตอนไป แล้วตอนกลับมีเจ้าชายคามินผู้หล่อเหลาแบบนี้มาส่งถึงที่หน้าบริษัทอีก ดิฉันกลัวค่ะกลัวว่าสาวโสดพวกนั้นจะฆาตกรรมฉันคาบริษัทค่ะ "
"ทำไมจะต้องแคร์"
"ฉันไม่เหมือนคุณนะคะที่เกิดมามีทุกอย่างไม่ต้องกลัวใครในประเทศนี้เลยยกเว้นพ่อกับแม่ของตัวเอง ชิส์ !
"อืม คิดอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันถ้ายังงั้นก็กลับไปหาพ่อกับแม่ของตัวเองบ้างนะว่าระหว่างที่เธอไม่อยู่ท่านปวดหัวหนักขนาดไหนเมื่อพระราชาและพระราชินีบีบบังคับให้ท่านทั้งสองส่งตัวลูกสาวเข้าวัง "
เมื่อได้ยินแบบนี้รร่าถึงกับเบิกตาโตด้วยความตกใจไม่คิดว่าตัวเองจะสร้างปัญหาให้พ่อกับแม่ได้ถึงเพียงนี้
"ถ้ายังงั้นสิ่งที่คุณบอกก็คือเรื่องจริงหรอคะที่คุณบอกว่าพ่อของฉันกำลังจะเดือดร้อน !
"อิืม !
เจ้าชายบอก ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หญิงสาวได้แต่ครุ่นคิดว่าเธอจะเอายังไงต่อไปดี เธอจะทำตามความฝันของตัวเองหรือเธอจะช่วยไม่ให้พ่อกับแม่ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของตัวเองเดือดร้อนจากการเห็นแก่ตัวของเธอ
หญิงสาวคิดอะไรอยู่เพียงไม่นานรถยนต์คันงามก็ได้มาจอดเทียบที่หน้าบริษัทเคเอ็มเฮ้าส์ หญิงสาวก็ต้องต่อว่าเจ้าชายอีกครั้งด้วยความไม่พอใจ
"ตะกี้ที่ฉันบอกคุณมันไม่เข้าไปในหัวสมองเลยหรือยังไงฮะมันเคยเข้าหูคุณหรือเปล่า ! ฉันบอกว่าจะลงก่อนถึงบริษัทไม่ใช่ลงตรงนี้ แล้วคุณจะมาจอดตรงนี้ทำไมเนี่ยฮะ ! เดี๋ยวคนอื่นก็ฆ่าฉันตายพอดีที่กลับมากับคุณแบบนี้"
"นั่นมันคือสถานการณ์ของเธอที่จะต้องแก้ต่างให้กับตัวเองซึ่งไม่ใช่เรา !
เจ้าชายบอกแถมยังเดินลงจากประตูแล้วเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อเปิดประตูให้กับลอร่าอีกต่างหาก หญิงสาวรู้สึกปี๊ดมากสำหรับการทำงานสัปดาห์แรกของเธอ
เมื่อเจ้าชายคามินเปิดประตูให้กับหญิงสาวนิรนาม ตอนนี้ผู้คนที่กำลังเดินอยู่หน้าบริษัทซึ่งกลับจากการรับประทานอาหารกลางวันตอนนี้จะมีคนเดินเข้าออกมากเป็นพิเศษทุกคนล้วนแต่จับจ้องมาที่ประตูด้านข้างของคนขับที่กำลังเปิดอยู่ ลอร่ารวบรวมสติแล้วหญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีแมสอยู่ในกระเป๋าหญิงสาวหยิบมันขึ้นมาในทันทีแล้วใช้ผ้าคลุมไหล่ของตัวเองเอามาคลุมที่ศรีษะยาวไปจนถึงไหล่ราวกับผู้หญิงอิสลามก็ไม่ปาน
เมื่อเดินลงจากรถยนต์คันงามได้เธอก็ตรงไปที่ห้องน้ำในทันที ส่วนคนที่อยากรู้อยากเห็นอยากจะยุ่งเรื่องของคนอื่นก็ได้รีบวิ่งตามหญิงสาวเข้าไปที่ในห้องน้ำด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ลอร่าเอาป้ายทำความสะอาดมาขวางเอาใว้แล้วเข้าห้องน้ำลงกลอนทันที สาวคนอื่นๆที่ตามมาจึงสงสัยว่าหายไปไหน
"เอ้า !! ผู้หญิงคนนั้นหายไปไหนแล้วอะ"
"เฮ้ย !! ต้องรู้ให้ได้ว่าผู้หญิงที่เจ้าชายมาส่งคือใคร!!
สาวๆคุยกันหน้าห้องน้ำหญิง
..............................
ด้านในห้องน้ำหญิง
"คุณป้าแม่บ้านคะพอดีดิฉันทำชุดเลอะไปทั้งตัวเลยค่ะ คุณป้าแม่บ้านพอจะมีชุดสำรองให้ดิฉันยืมใส่ไหมคะ "
เมื่อเดินไปที่ห้องน้ำลอร่าก็ได้เอาป้ายมาติดที่ห้องน้ำว่ากำลังซ่อมแซมในทันทีและไปขอชุดจากป้าแม่บ้านซึ่งเป็นพนักงานทำความสะอาดมาใส่แค่นี้ก็ไม่มีใครจำชุดและจำหน้าเธอได้แล้วหญิงสาวได้แต่สบายใจ แล้วก็รีบกลับไปทำงานประจำตำแหน่งของตัวเอง
" อ้าวทำไมใส่ชุดแม่บ้านแบบนี้ล่ะ ?
คิมเบอร์ลี่ทักขึ้น
"อ๋อ พอดีตอนทานอาหารกลางวันค่ะที่ไปพบลูกค้ากับผู้จัดการมาหนูซุ่มซ่ามค่ะ สปาเกตตี้เลอะเทอะเต็มตัวไปหมดเลยค่ะ ขอใส่ชุดนี้แค่แป๊บเดียวนะคะ ตอนนี้สั่งออนไลน์มาแล้วค่ะ แบบส่งด่วนร้านที่อยู่ใกล้กันกับออฟฟิศเราค่ะ ไม่นานเดี๋ยวก็คงมาส่งแล้วล่ะค่ะ"
ลอร่ารีบโกหกบางเรื่องออกไปเพื่อต้องการเอาตัวรอด เธอไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องราวของเธอกับเจ้าชายคามินเลยแม้แต่น้อย และไม่นานหญิงสาวก็ได้รับข้อความทาง LINE จากป้าแม่บ้านว่าที่ร้านได้มาส่งชุดแล้วเรียบร้อยและให้เธอลงมาเปลี่ยน
