บทที่ 2 เพลย์บอย (2)
“อยากเจอหน้าปัดน่ะ ตกลงมั้ย?”
ทอปัดเม้มปากเป็นเส้นตรง พอไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมรับปาก “ก็ได้ นัดเจอที่ไหนบอกด้วย”
“เดี๋ยวพี่ไปรับ แต่งตัวสวย ๆ ล่ะ”
“พี่เดียวมากี่...”
ไม่ทัน... อังกูรชิงวางสายไปก่อน
“ให้ได้อย่างนี้เถอะ!” ทอปัดงึมงำด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
ถึงอังกูรจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชาย ไม่สิ ต้องบอกว่าคู่ขาพี่ชายถึงจะถูก เธอก็ไม่ชอบพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างของเขา คงเพราะข่าวซุบซิบบนหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ทั้งพี่ชายและอังกูรหิ้วกันเข้าโรงแรม แล้วพวกนักข่าวปาปารัสซี่ก็ตามเก็บภาพไว้ได้
ทอปัดไม่เคยปักใจเชื่อเรื่องนี้เลย พี่ชายของเธอไม่มีวันเบี่ยงเบนทางเพศ อีกอย่างเทวินทร์ก็สนิทกับอังกูรมาก ทั้งสองเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยม กินเที่ยวด้วยกันเป็นประจำ
ทว่าหลังจากที่เธอเปิดประตูห้องนอนของพี่ชายแล้วเข้าไปเห็นทั้งสองคนนอนอาบน้ำด้วยกัน ความเชื่อที่ว่าพี่ชายไม่ใช่เกย์ก็อันตรธานหาย!
ตอนนั้นเธอช็อกมาก เพราะเธอเองก็แอบมีใจได้อังกูร นั่นเป็นการอกหักครั้งแรกใจชีวิตและเธอก็ขยาดความรักตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แต่ถึงจะจับได้แบบคาหนังคาเขา ทั้งสองกลับปฏิเสธเสียงแข็งว่า นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด!
เธอก็อยากจะเชื่อแบบนั้น แต่ผู้ชายที่ไหนอาบน้ำด้วยกัน ซ้ำยังแหย่กันเล่นในห้องน้ำ!!!
หลังจากถูกจับได้ว่าทั้งสองมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง พี่ชายของเธอก็มีปากมีเสียงกับคนในครอบครัว พอทนต่อแรงกดดันไม่ไหวเทวินทร์จึงพาลูกหมาที่หวานใจแฟนเก่ามอบให้แล้วหายเข้าป่าไป
ส่วนอังกูรก็เริ่มหันมาควงสาว ๆ เพื่อสยบข่าวฉาวที่ลือกันให้แซด เรื่องนี้เองที่ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงพฤติกรรมจอมลวงโลกของอังกูรจนไม่อยากเข้าใกล้เขา แต่ดูเหมือนค่ำนี้เธอจะหลบหน้าอังกูรไม่ได้ซะแล้ว!!
อิงกาญจน์ยิ้มอย่างมีความสุข หัวใจพองโตเมื่อยกแก้วไวน์ชนกับแก้วไวน์ของทรงวุฒิ สายตาหวานเชื่อมที่จ้องมายิ่งทำให้อิงกาญจน์ใจสั่นจนวางตัวไม่ถูกเพราะความเขินอาย
“รู้มั้ยพอได้อยู่ใกล้ ๆ อิง ผมมีความสุขมาก”
คำหวานของทรงวุฒิทำเอาอิงกาญจน์ยิ้มแก้มแทบปริ “ฉันก็รู้สึกแบบนั้น คุณทำให้ฉันมีความสุขจนไม่อยากอยู่ห่างจากคุณเลยค่ะ”
เพราะดื่มไวน์เข้าไปหลายแก้ว อิงกาญจน์ถึงเคลิ้มไปกับคำหวานของอีกฝ่ายง่ายดาย ซึ่งตอนนี้อิงกาญจน์ไม่สนใจผู้คนรอบข้างเลยนอกจากผู้ชายหน้าตาดีตรงหน้าซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนของเธอเท่านั้น
เธอรู้มาตลอดทั้งจากปากเพื่อนสนิท ทั้งจากข่าวสังคมว่าทรงวุฒิเป็นหนุ่มเนื้อหอม เสน่ห์ร้ายกาจของเขาสามารถละลายหัวใจสาว ๆ ได้ไม่ยาก แม้แต่เธอก็สยบให้เสน่ห์ที่น่าหลงใหลของเขา
ระหว่างคบกันอิงกาญจน์ก็คอยระมัดระวังตัวเองตลอด ถึงเธอจะเป็นสาวสมัยใหม่ไม่สนใจเรื่องอยู่ก่อนแต่ง แต่เธอก็ไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวถึงขนาดยอมขึ้นเตียงกับหนุ่มที่คบหาง่าย ๆ เธอเชื่ออย่างเดียวว่า ‘ของที่ได้มายาก มักมีคุณค่าเสมอ’
และเธอก็อยากให้ทรงวุฒิเห็นคุณค่าของเธอด้วย เธอไม่ต้องการเหมือนผู้หญิงคนเก่าของเขา แต่เธอจะหว่านเสน่ห์ให้เขาคลั่งไคล้ และยอมสยบให้กับเธอ
“ถ้างั้นกินข้าวเสร็จเราไปฟังเพลงกันต่อที่ห้องของผมนะ”
“จะดีเหรอคะ เดี๋ยวอิงถูกคุณแม่ดุ” อิงกาญจน์รีบหาเหตุผลมาอ้าง เพราะรู้ว่าทรงวุฒิต้องการอะไร
“อิงก็บอกคุณแม่ไปสิว่ามากับเพื่อน”
หญิงสาวนิ่วหน้า ไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่ทรงวุฒิหยิบยกมาให้เธอไว้สำหรับใช้แก้ตัวซะเท่าไหร่ “คุณยังไม่รู้จักคุณแม่ของฉันดี ฉันไม่อยากมีปัญหากับที่บ้านน่ะค่ะ เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่านะคะ”
“อิงไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ หรืออิงไม่ไว้ใจผม?” ชายหนุ่มชักสีหน้าไม่พอใจ
“ไม่ใช่นะ เราเป็นแฟนกัน ทำไมฉันจะไม่ไว้ใจคุณ” อิงกาญจน์รีบบอกก่อนที่ทรงวุฒิจะเข้าใจผิดมากไปกว่านี้
“ถ้างั้นไปต่อกับผมนะ ผมอยากอยู่กับอิงตามลำพังบ้าง”
พอถูกลูกอ้อนด้วยสายตาที่ชวนให้สงสารเข้าไป อิงกาญจน์จึงใจอ่อนยวบ “ก็ได้ค่ะ แต่ต้องไม่ดึกมากนะ ฉันไม่อยากมีปัญหากับคุณแม่”
“ครับ” ทรงวุฒิยิ้มกริ่ม
ลองผู้หญิงคนไหนยอมไปเหยียบถึงห้อง เขาไม่มีทางปล่อยให้สาวรายนั้นหลุดรอดเงื้อมมือไปได้ ที่สำคัญเขาให้เวลากับอิงกาญจน์มากไปแล้ว หนึ่งเดือนสำหรับการคบหา เขาหมดเงินค่าเหล้าไปกับผู้หญิงคนนี้มากมาย เพราะอิงกาญจน์ไม่ดื่มกินคนเดียว เจ้าหล่อนยังพาเพื่อน ๆ มาถล่มจนเขากระเป๋าแฟบ
