บทที่ 1 อิงกาญจน์ (4)
หญิงสาวส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “หนูโตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วนะคะ หนูไม่อยากให้คุณแม่เอาหนูใส่พานถวายให้พี่ป่า อีกอย่างตอนนี้หนูมีแฟนแล้ว หนูแต่งงานกับพี่ป่าไม่ได้หรอก”
คุณนายธารดาวทำตาโตทันที “แม่ไม่เคยเห็นเราคบหากับใครเลย”
“หนูพูดจริง ๆ หนูมีแฟนแล้วแต่ยังไม่ได้พามาบ้านให้คุณแม่รู้จักเท่านั้น”
“เราคบหาอยู่กับใคร แม่รู้จักมั้ย?”
“คิดว่ารู้ เอาไว้ถึงเวลาหนูจะพามากราบคุณแม่เอง”
“ตายล่ะ แบบนี้เรื่องตาป่าจะทำยังไง?” คุณนายธารดาวทำหน้ากลุ้มใจ นอกจากลูกสาวจะไม่อยู่ในโอวาทแล้วซ้ำยังขยันก่อเรื่องให้นางได้หนักใจไม่เว้นแต่ละวัน
“คุณแม่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นเลยค่ะ เรื่องหนูกับพี่ป่าเดี๋ยวหนูจัดการเอง” อิงกาญจน์ยิ้มหน้าระรื่นเมื่อเห็นมารดาไม่คัดค้านเรื่องที่เธอมีแฟน
“เราจะจัดการยังไง? นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ” คุณธารดาวถามเสียงเครียด
“ง่ายมากหนูก็จะถอนหมั้นกับพี่ป่าไง ในเมื่อหมั้นได้ก็ต้องถอนหมั้นได้ เห็นมั้ยเรื่องนี้แก้ไขได้ง่ายนิดเดียว” อิงกาญจน์ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงอิสระที่จะได้รับหลังจากการหมั้นหมายปิดฉากลง
“แม่ไม่ยอมนะยัยอิง เราจะทำแบบนี้ไม่ได้!!”
หญิงสาวไหวไหล่เมื่อถูกทักท้วง “หนูไม่สน ยังไงหนูต้องถอนหมั้น คุณแม่ห้ามหนูไม่ได้หรอก”
คุณนายธารดาวถอนหายใจอีกเฮือกกับความดื้อรั้นของลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน “ฟังแม่นะยัยอิงถ้าเราถอนหมั้นกับตาป่า แม่ก็จะเข้าหน้าคุณหญิงป้าไม่ติด
แม่กับคุณหญิงป้ารักใคร่ชอบพอกันมานานแม่ไม่อยากมีปัญหา อีกอย่างแม่ไม่อยากให้ครอบครัวของเรามีข่าวซุบซิบบนหน้าหนังสือพิมพ์ แม่หวังว่าหนูจะเข้าใจนะ”
คราวนี้เป็นอิงกาญจน์ที่ถอนหายใจออกมา “หนูเข้าใจคุณแม่ค่ะ เข้าใจคุณหญิงป้าด้วย หนูเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์นักหรอก แต่คุณแม่จะให้หนูแต่งงานกับคนที่หนูไม่ได้รักอยู่นะคะ คุณแม่คิดว่าหนูจะมีความสุข ทนใช้ชีวิตคู่กับคนที่ครอบครัวเลือกให้ได้งั้นเหรอคะ? นี่มันพ.ศ.ไหนแล้ว หมดยุคผู้ใหญ่จับลูกหลานคลุมถุงชนแล้วนะคะ”
“แต่แม่มั่นใจว่าตาป่าเป็นคนดี หนูจะรักพี่เขาได้ไม่ยาก”
อิงกาญจน์กลอกตาไปมา “หนูว่าเราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ หนูขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวก่อนยัยอิง เราจะไปไหน?”
อิงกาญจน์ที่ลุกจากโซฟาหยุดชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองมารดา “ไปหายัยปัดค่ะ”
คุณนายธารดาวพยักหน้า “ฝากความคิดถึงให้คุณหญิงป้าด้วยล่ะ บอกว่าถ้ามีเวลาแม่จะแวะไปหา”
“ค่ะ” อิงกาญจน์ตอบรับเสียงเรียบ คว้ากุญแจรถ กระเป๋าสะพายก่อนออกจากบ้าน โดยที่เธอไม่ได้บอกกับแม่ไปว่าทอปัดไม่ได้พักอยู่ที่คฤหาสน์หลังงามนั่นแล้ว!!!
##### บทที่ 2
เพลย์บอย
ถึงคอนโดฯหรูกลางใจเมืองย่านศูนย์การค้าอิงกาญจน์ที่หอบของกินจากร้านสะดวกซื้อจึงตรงดิ่งขึ้นมายังห้องพักของเพื่อนสาวซึ่งอยู่ชั้น 16 ทันที
“โอ้โห ตัวนิดเดียวหอบเสบียงมาเยอะขนาดนี้กินหมดเหรอยะ?” ทอปัดยืนคาประตูเท้าสะเอวมองเพื่อนสาวที่บุกมาถึงห้องซ้ำยังหอบข้าวของพลุงพลังด้วยความขบขัน
“หมดสิ หิวชะมัด ตั้งแต่ตื่นยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย” อิงกาญจน์บ่นอุบเดินเข้ามาในห้อง แล้วจัดการนำอาหารกล่องเข้าตู้ไมโครเวฟเสร็จสรรพ จากนั้นจึงแกะขนมปังกินเล่นรองท้องไปพลาง ๆ
“ที่บ้านไม่หุงข้าวหรือไง?”
“หุง ยังไม่ทันได้กินคุณแม่ก็เลกเชอร์ฉันก่อนน่ะ โดนเยอะหูชาเลย” อิงกาญจน์ทำหน้ามุ่ยเอานิ้วก้อยแหย่หูตัวเอง
คนฟังอมยิ้ม “เรื่องที่แกเมาหัวราน้ำกลับบ้านน่ะเหรอ?”
“รู้แล้วยังจะถามอีก” อิงกาญจน์ทำหน้าเซ็ง ค้อนคมใส่เพื่อนสาวที่รู้ไส้รู้พุงกันหมด “เรื่องเดียวก็เซ็งไม่รู้จะเซ็งไงแล้ว นี่แม่ฉันพูดเรื่องแต่งงานด้วยนะ”
“จริงดิ!” ทอปัดทำตาโต
“เออสิ คุณแม่จะให้ฉันแต่งงานกับพี่ป่า”
“เฮ้ย จัดไปเลยยัยอิง แกจะได้มาเป็นพี่สะใภ้ของฉัน” ทอปัดยุส่ง
“ก็อยากอยู่หรอก แต่พี่ชายของแกไม่ใช่ผู้ชายนี่สิปัญหา”
ทอปัดหัวเราะกับสีหน้าของเพื่อน “เออว่ะ ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ไม่แน่นะพี่ชายฉันอาจเปลี่ยนใจกลับมาชอบผู้หญิงแล้วก็ได้”
“ถึงกลับมาชอบผู้หญิงฉันก็ไม่เล่นด้วยหรอก พูดแล้วขนลุก อี๋” อิงกาญจน์ยื่นแขนให้เพื่อนรักดู ก่อนหยิบขนมปังใส่ปากเคี้ยวตุ้ย “ชอบไม้ป่าเดียวกันแล้วยังหายตัวเข้าป่าเข้ารกอีก พี่ชายแกทำตัวพิลึกคนจริง ๆ”
