บทที่ 1 อิงกาญจน์ (3)
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงอ่อย คุณนายธารดาวเม้มปากจนเห็นลักยิ้มข้างแก้ม
“ถ้าหนูไม่อยากทำงาน งั้นก็แต่งงานซะ”
“อะไรนะคะ?!!” คราวนี้อิงกาญจน์ทำหน้าตกอกตกใจกับเรื่องที่หลุดจากปากของมารดา
“ไม่เห็นต้องทำหน้าตกอกตกใจแบบนั้นเลย หนูหมั้นหมายกับตาป่ามาตั้งหลายปีแล้ว ไหน ๆ หนูก็ไม่อยากทำงาน งั้นก็ไปเป็นแม่บ้านให้พี่เขาซะ”
อิงกาญจน์ทำหน้ายุ่งกว่าเก่า ถึงแม่ของเธอจะพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับเธอ นี่คือการคลุมถุงชนชัด ๆ!!!
“แม่คะตั้งแต่กลับจากฝรั่งเศส หนูยังไม่เจอหน้าพี่ป่าเลย ป่านนี้พี่เขามีเมียไปแล้วมั้ง”
“ยัยอิง พูดจาให้เพราะ ๆ หน่อย”
“ก็จริงนี่คะ หนูว่าพี่ป่าไม่อยากแต่งงานกับหนูหรอก มีแต่ผู้ใหญ่นั่นแหละที่บ้าจี้กันไปเอง” อิงกาญจน์ไม่วายเถียง
ตั้งแต่จำความได้เธอก็รู้ว่าตัวเองมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เทวินทร์เป็นพี่ชายของทอปัดซึ่งมีอายุมากกว่าเธอเกือบสิบปี การหมั้นหมายในครั้งนั้นเป็นการหมั้นเพื่อดองสองตระกูลใหญ่เข้าด้วยกัน ซึ่งตัวผู้ถูกจับหมั้นทั้งเธอและเทวินทร์ต่างขัดใจผู้ใหญ่ไม่ได้ หรือถ้าพูดให้ถูก ตอนที่การหมั้นหมายเกิดขึ้นเธอยังเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาเลยด้วยซ้ำ!!!
“ไม่รู้ล่ะคุณหญิงป้าเร่งรัดเรื่องนี้มาแล้ว ยังไงแม่ต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด”
“คุณแม่!!!” อิงกาญจน์ทำหน้ายุ่งเมื่อถูกจับคลุมถุงชนดื้อ ๆ “หนูไม่ยอมเด็ดขาด ยังไงหนูก็ไม่แต่ง คุณแม่จะจับหนูแต่งงานกับคนที่หนูไม่รักไม่ได้นะคะ!!”
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยยัยอิง เดี๋ยวนี้หัดเถียงแม่แล้วเหรอ?” คุณนายธารดาวทำหน้าดุ “ตาป่าเป็นคนดี แม่เชื่อว่าถ้าหนูได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ หนูจะมีความสุขตลอดชีวิต”
“ตกนรกสิไม่ว่า” อิงกาญจน์บ่นพึมพำแล้วย่นจมูก
“หนูพูดว่าอะไรนะ?”
“หนูอยากถอนหมั้นค่ะ หนูว่าพี่ป่าไม่อยากแต่งงานกับหนูหรอก เท่าที่ได้ข่าวมาพี่ป่าเป็นเกย์ไม่ใช่เหรอคะ?”
“ตายแล้ว ไปเอาเรื่องบัดสีบัดเถลิงนี้มาจากไหนยัยอิง” คุณนายธารดาวทำตาดุ
“หนูรู้ก็แล้วกัน แหมคุณแม่เรื่องแบบนี้ปิดกันไม่ได้หรอก สื่อมีทั่วโลก ถึงหนูอยู่ต่างประเทศหนูก็ตามข่าวที่เมืองไทยบ้างนะคะ คุณแม่ดูเอาเองเถอะ พี่ป่าไม่เคยสนใจไยดีหนูเลย เขาควรโผล่หน้ามาหาหนูบ้าง
นี่หนูกลับจากฝรั่งเศสจะครึ่งปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นหน้าพี่ป่าสักครั้ง อีกอย่างก่อนที่จะบินไปฝรั่งเศส หนูกับพี่ป่าก็แทบไม่ได้พูดคุยกัน เหมือนคนแปลกหน้า แบบนี้เราสองคนจะแต่งงานกันได้ไง”
เหตุผลของลูกสาวจอมดื้อทำเอาผู้เป็นแม่เงียบไป เพราะนี่คือเรื่องจริงทุกประการ!
นางรู้ดีว่าตัวเทวินทร์เองก็ไม่สนใจเรื่องหมั้นหมายกับลูกสาวของนางสักเท่าไหร่ หรือบางทีเทวินทร์อาจจะไม่ใส่ใจเรื่องนี้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ก็แค่ตามน้ำ ตามใจพวกผู้ใหญ่ไป
ขนาดเทวินทร์มีคู่หมั้นอยู่แล้วเขายังคบกับสาวไฮโซอยู่เลย แต่คบหาได้ไม่นานเท่าไหร่ทั้งสองก็เลิกรากันไป หลังจากนั้นก็มีข่าวซุบซิบตามหน้าหนังสือพิมพ์หน้าบันเทิงว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณหญิงพิมพ์ประพายเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน!!!
นางเองหวั่นใจกับข่าวลือเรื่องนี้ไม่น้อยเพราะไม่อยากมีลูกเขยวิปริตผิดเพศ แต่เมื่อคุณหญิงพิมพ์ประพายยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้นนางจึงโล่งใจไปเปาะหนึ่ง
แต่หลังจากมีข่าวว่าเทวินทร์เลิกกับสาวไฮโซว่าที่ลูกเขยของนางก็หายหน้าหายตาไปจากสังคม ซึ่งข่าวที่นางรู้จากปากของคุณหญิงพิมพ์ประพายก็คือ เทวินทร์หนีไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษในป่าในเขา!! และถ้านับระยะเวลาก็ล่วงมาจะสองปีแล้ว
“ตอนนี้ตาป่าไปดูพื้นที่สร้างรีสอร์ตในต่างจังหวัดน่ะ” คุณนายธารดาวไม่วายหาข้อแก้ตัวแทนว่าที่ลูกเขย
“คุณแม่คะข้อแก้ตัวนี้ฟังไม่ขึ้น หนูกับพี่ป่าหมั้นกันมาจะยี่สิบปีแล้ว แต่หนูไม่เคยปฏิสัมพันธ์กับพี่เขาเลย เจอหน้าก็นับครั้งได้ เอาจริงคือหนูจำหน้าพี่ป่าไม่ได้ด้วยซ้ำ คุณแม่ก็รู้ว่าพี่ป่าไม่สนใจหนูสักนิด”
“คิดมากน่ายัยอิง แม่ว่าหนูกับตาป่าไม่เคยจูนเข้าหากันมากกว่า”
