4 ไอศกรีมแห่งความหวัง
-กริ๊งๆ กริ๊งๆ -
“นี่มัน 07:40 แล้วนี่ ตายแล้วๆ สายอีกแล้วๆ หลับไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย จำได้ว่าเคนมาส่งนี่นา” คงเป็นเขาสินะที่อุ้มเธอขึ้นมา หลังจากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเสร็จเธอก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปโรงพยาบาล
เมื่ออาบน้ำแต่งตัวพร้อมแล้วสำหรับไปโรงพยาบาล พิมพ์นภาก็แวะเข้าไปหยิบนมในตู้เย็นเพื่อที่จะใช้มันทดแทนข้าวเช้า จะเวฟอาหารแช่แข็งที่ซื้อมาตุนไว้ก็กลัวว่าจะไม่ทัน
ก่อนจะเหลือบไปเห็นแซนด์วิชสองกล่องอยู่บนเคาน์เตอร์ พร้อมกับโพสต์อิท ที่เขียนข้อความของคนทำแซนด์วิชไว้
‘กินแซนด์วิชนี่ อย่ากินแต่อาหารแช่แข็ง’
“น่ารักจัง ทำแบบนี้แล้วจะให้หญ้าเปลี่ยนใจไปรักใครได้”
“หืมขมมปังกับแฮมยังอุ่นๆ อยู่เลย เคนพึ่งเข้ามาแล้วออกไป หรือว่าอยู่ห้องกับเราทั้งคืน” พิมพ์นภากัดแซนด์วิชไปพลางขบคิดไปพลาง ระหว่างที่เธอยืนรอรถไฟฟ้าที่สถานี แต่ก็น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า แต่อย่างไงก็ช่างเพียงแค่ได้กินอาหารที่เขาทำให้เธอก็พร้อมสู้กับทุกอย่างสำหรับวันนี้แล้ว
“วันนี้อารมณ์ดีเชียว ไปได้ของดีอะไรมาคะคุณกอหญ้าาาา” พรชิตาหรือพราวเอ่ยแซวเพื่อนสาวทันทีหลังจากหลายสัปดาห์มานี้เธอเห็นเพื่อนสีหน้าอมทุกข์ นัยน์ตาเศร้า แต่วันนี้กับสดใสไปทั้งใบหน้า ยิ้มไปถึงดวงตา นี่สิกอหญ้าเพื่อนเธอกลับมาแล้ว
“ก็ไม่มีอะไร ปกตินี่”
“ว่าแต่พราวเถอะไปกินข้าวกับพี่หมอเป็นไงบ้าง” เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับพี่หมอ แต่ว่าอย่างที่รู้กันพี่หมอมักจะมาคอยตามจีบเธอ ทั้งที่เธอก็พยายามจะปฏิเสธไปแล้ว แต่พี่หมอก็ยังคงพยายามอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ดีที่ไม่ทำให้เธออึดอัด จะรู้จังหวะการเข้าหาเธอเสมอ จะสงสารก็แต่เพื่อนรักของเธอ ที่ได้แต่รักเขาอยู่ฝ่ายเดียว ทำไมเธอกับเพื่อนต้องมีชะตากรรมเหมือนกันด้วยนะ สมแล้วที่เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งมัธยม
“ก็ไม่เป็นยังไงหรอก ไปกินข้าวแป๊บเดียวก็กลับ” เธอว่าอย่างเซ็ง ๆ ยังได้อาหารไม่ครบด้วยซ้ำ โทรศัพท์ของภาคภูมิหรือพี่หมอกรก็เข้ามาซะก่อน ก่อนที่เขาจะบอกกับเธอว่ามีเคสด่วน พี่หมอให้เธอเลือกว่าจะอยู่กินคนเดียวหรือจะไปด้วยกันกับเขาที่โรงพยาบาล แน่นอนอยู่แล้วว่าเธอเลือกไปกับเขา มื้ออาหารก็เลยล่มไปโดยปริยาย
“หืม ทำไมล่ะ” พิมพ์นภาถามด้วยความสงสัย พร้อมกับสังเกตสีหน้าเพื่อนที่ดูจะไม่ค่อยดีนัก
“พี่หมอมีเคสด่วนนะ”
“ว่าแต่หญ้าเถอะ ทำไมอารมณ์ดีได้ พราวไม่เชื่อที่หญ้าบอกหรอกนะว่าปกติดี หลายสัปดาห์มานี้ สีหน้าอมทุกข์เหมือนกับแบกโลกไว้ทั้งใบ จะบอกว่าปกติดีพราวไม่เชื่อเด็ดขาด หรือว่าเรื่องเคน ต้องเป็นเคนแน่ๆ ที่ทำให้หญ้าอารมณ์ดีแบบนี้” พรชิตาถามถึงหนุ่มคนที่เพื่อนแอบรักทันที เธอพอจะเคยเห็นภัครคิราอยู่บ้างแต่ไม่ถึงกับบ่อย รายนั้นมักจะมารอรับเพื่อนเธอเสมอถ้าเรียนแล้วเลิกดึกมาก ๆ หรือไม่ก็ถ้ามหาลัยมีกิจกรรมที่ต้องเลิกดึก ถึงเพื่อนเธอจะขับรถเป็นแต่เพราะรถติดบวกกับถ้าขับมาก็จะไม่มีข้ออ้างให้ชายหนุ่มมารับ เธอก็งงกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่เหมือนกัน ดูภัครคิราจะรักและดูเพื่อนของเธอเป็นอย่างดี ถึงจะมีทำเพื่อนเธอเสียใจบ้างก็เหอะ แต่ก็ไม่เห็นตกลงปลงใจกันสักที เธอรอลุ้นมาตั้งแต่ ม.ต้น ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเหตุการณ์นั้นมันจะเกิดขึ้น นี่เพื่อนเธอจะเรียนจบหมออยู่แล้ว ก็ยังคงสถานะเดิมอยู่ ทั้งที่ก็ดูจะรักกันดี ยิ่งคิดยิ่งงงกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ก่อนจะหยุดคิดแล้วหันมาสนใจเพื่อนรักต่อ
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก เมื่อวานเคนมาหาน่ะเราไปกินข้าวแล้วก็ไปเลือกซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตด้วยกัน แล้วเคนก็ไปส่ง แล้วก็ทำนี่ให้กินด้วย” ไม่ว่าเปล่าเธอยังโชว์กล่องแซนด์วิชหน้าตาน่าทานอวดพรชิตา พร้อมกับรอยยิ้มสดใส บ่งบอกได้อย่างดีว่าเธอกำลังมีความสุขมากเพียงใด
“งั้นเที่ยงนี้พราวจะกินข้าวกับใครล่ะเนี่ย หญ้ามีแซนด์วิชแล้ว เห้อ น่าน้อยใจจริงๆ กว่าจะได้มีเวลาพักเที่ยงตรงกัน แต่เพื่อนกับมีอาหารจากหนุ่มหล่อในดวงใจมากิน สาวโสดสุดเหงาแล้วเปล่าเปลี่ยวอย่างฉันคนต้องไปหาที่เงียบๆ นั่งกินคนเดียว พูดแล้วก็เศร้าใจ ฮึก” พรชิตาเล่นละคร น้อยใจและเสียใจฉากใหญ่ จนพิมพ์นภาอดที่จะยิ้มขำไม่ได้
“พอแล้วๆ หญ้าไปนั่งด้วยก็ได้ อืม...หรือไม่ดี” เมื่อยังเห็นว่าเพื่อนรักยังคงแสดงละครไม่เลิก จึงนึกอยากจะแกล้งเอาคืน
“ไม่ได้นะ หญ้าบอกไปก็ต้องไป พราวไม่ยอมจริงๆ ด้วย”
“อ้าวพี่หมอ สวัสดีค่ะ” พรชิตาหันรีหันขวางทันทีที่เพื่อนสาวเอ่ยถึงชายหนุ่มที่ตนแอบชอบ ก่อนจะพบว่าตัวเองนั้นถูกหลอก
“กอหญ้านี่แกล้งพราวหรอ” ไม่ว่าเปล่ามือเรียวก็ฟาดไปที่ไหล่เพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก
“โอ๊ย ก็พราวน่าแกล้งนี่ ช่วยไม่ได้ 555”
“อยู่แผนกนี้คนไข้น้อย ค่อยได้หายใจโล่งหน่อย อยู่ฉุกเฉินกับพี่หมอแล้วไม่ไหว แต่พี่หมอนี่ก็เก่งเนอะทั้งโรงพยาบาลทั้งคลินิกตัวเอง ทั้งๆ ที่งานโรงพยาบาลก็ยุ่งจนแทบจะไม่ค่อยมีเวลาอยู่แล้ว”
“จ้าาา พี่หมอคนเก่งของพราว”
“บ้า ของพราวที่ไหนยังไม่ได้เป็นไรกันสักหน่อย” พรชิตาว่าอย่างเขินอาย พานให้นึกไปถึงเมื่อคืน
“อ้าวพี่หมอ สวัสดีค่ะ” พิมพ์นภาเอ่ยสวัสดีพี่หมอด้วยรอยยิ้มสดใส เมื่อเห็นเขาเดินมาอยู่ข้างหลังเพื่อนของเธอ
“ไม่ต้องมาแกล้งกันเลยนะ ไม่น่าบอกหญ้าเลยว่าชอบพี่หมอ เอามาแกล้งกันแบบนี้พราวไม่คุยด้วยแล่ว” เธอบอกพร้อมกับทำหน้าอย่างงอนๆ ทำให้คุณหมอหนุ่มที่เดินเข้ามาถึงกับทำตัวไม่ถูก เมื่อถูกบอกชอบอ้อมๆ แบบนี้ อยู่ๆ ใจมันก็สั่นๆ อย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“พราว พ พี่หมอ อยู่ ข้างหลังเธอ” เธอบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะเพื่อนได้เผยความในใจออกไปแล้ว จะห้ามก็ไม่ทันเสียแล้ว
“อย่ามาหลอกกันให้ยากเลยน่า พราวดูไม่เชื่อหรอก... พ พี่ หมอ “เธอว่าให้เพื่อนอย่างขำๆ ก่อนจะหันไปมองข้างหลังอย่างที่พิมพ์นภาบอก กับต้องผงะ พี่หมออยู่ข้างหลังเธอจริง ๆ ด้วย ตายแล้ว ๆ ยัยพราวแกพูดอะไรออกไปเนี่ย
“พี่หมอสวัสดีค่ะ พราวขอตัวก่อนนะคะ ไปนะกอหญ้า พราวขอไปดูคนไข้ก่อน” ว่าเสร็จก็รีบเดินออกไปด้วยความรวดเร็ว โดยไม่รอคำตอบรับจากใครทั้งสิ้น
“พี่ก็จะไปหากาแฟกินเหมือนกัน หญ้าเอาด้วยไหม” คุณหมอหนุ่มก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันที่มาโดนบอกชอบโดยบังเอิญแบบนี้ ไม่เคยจะมีใครมาบอกชอบเขาแบบนี้มาก่อน ทั้งวงชีวิตก็อยู่แต่กับหนังสือกับคนไข้ จะมีก็แต่หญิงสาวตรงหน้าที่เขาตามจีบอยู่ แต่ก็เริ่มตัดใจได้แล้วเมื่อรู้ว่าเธอคงให้สถานะกับเขาได้เพียงพี่ชาย
ทั้งที่พยายามตามจีบอยู่นาน รู้ว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้วแต่ก็หวังว่าสักวันจะทำให้เธอหันมามองได้ แต่แล้วก็เปล่าประโยชน์ ถึงไอหนุ่มนักเรียนบริการนั้นมันจะทำให้เธอร้องไห้เสียใจ ทำเป็นไม่รักเธอ แต่เขาก็ยังเห็นว่าเธอยังคงจะรักมันไม่เปลี่ยนแปลง จึงยอมถอยออกมา
“ไม่ดีกว่าค่ะ เชิญพี่หมอตามสบาย พี่หมอไม่สบายรึเปล่าค่ะทำไมหน้าแดง ๆ” เธอเอ่ยแซว ความน่ารักสดใสของเพื่อนเธอ คงจะเข้าไปอยู่ในใจของพี่หมอแล้วล่ะ เธอคิดพร้อมกับอมยิ้มน้อย ๆ วันนี้มีแต่เรื่องดี ๆ จริง ๆ
“ส สงสัยอากาศร้อนน่ะ เมื่อกี้พี่ออกไปของที่รถ น่าจะเป็นเพราะแดด ใช่เป็นเพราะแดดแน่ ๆ เลย”
“อื้มคงจะอย่างงั้นนะคะ คงจะไม่ได้เขินยัยพราว” เธอว่าอย่างยิ้มๆ ด้วยท่าทีล้อเลียน
“พี่ไปนะ” เขาต้องพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ก่อนที่จะถูกนักศึกษาแพทย์อย่างพิมพ์นภาแกล้งจนไปต่อไม่ได้
“ค๊าาาา”
LINE
KOHYA : เย็นนี้ว่างไหม มารับหญ้าหน่อย
KOHYA : สติกเกอร์อ้อน
.
.
10 นาทีผ่านไป
KAN : ไม่
KOHYA : ชิห์ ใจร้าย หญ้านั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้
KAN : (read)
เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงานก็ข้อความหาเขาทันทีหวังว่าเขาจะมารับและพาไปกินของอร่อย แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อคำตอบที่ได้คือ ‘ไม่’
“เมื่อไหร่จะเลิกเย็นชาใส่กันสักที ไอคนไม่มีหัวใจ” เธอบ่นอย่างไม่จริงจังนัก โดนเขาปฏิเสธก็บ่อย แต่ก็ยังไม่ชินเสียที ก็ได้แต่หวังว่าสักวันเขาจะหันมามองบ้าง ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไหร่ ก็ได้แต่รอ
ด้านภัครคิรา ที่เห็นข้อความจากเธอก็จำใจต้องปฏิเสธออกไป ถ้าเขาเข้าหาเธอมากไปมันจะไม่ดีต่อตัวเธอ ช่วงนี้เขาเหมือนถูกสะกดรอยตามตั้งแต่มีเรื่องให้เจ็บตัวจนต้องพักฟื้นไปเป็นเดือน ก็รู้สึกว่ายิ่งต้องระวังมากขึ้น วันนี้เลยทำได้เพียงคอยตามเธอเหมือนอย่างที่เคยทำอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เหลือเกิน
-ก๊อก ก๊อก-
“เข้ามาได้”
“นี่เป็นเอกสารเกี่ยวกับโครงการที่มีปัญหา แล้วนี่ก็เป็นรายชื่อของหนอนในบริษัทที่ร่วมมือกับพวกไปชนินท์ครับ”
“ขอบใจมาก เดี๋ยวชั้นจะเอาไปปรึกษาพ่ออีกทีว่าควรจะตัดการยังไง ส่วนเรื่องไอชนินท์ช่วงนี้มันยังให้คนมาตามกอหญ้าอยู่รึเปล่า” เรื่องหนอนในบริษัทมันจัดการไม่อยากหรอก แค่หาหรือกับพ่อว่าจะเอายังไงกับพวกคิดทรยศพวกนี้ดี ตัดขาดไม่ให้มีที่ยืนเลยหรือใช้เป็นหมากในการจัดการพวกไอชนินท์ แบบไหนเขาก็ไม่ซีเรียสแต่ก็ต้องปรึกษาพ่อก่อน ถึงท่านจะวางมือไปแล้วแต่ก็ยังคงมีประสบการณ์และเจนสนามมากกว่า แต่เรื่องที่ต้องคิดหนักเลยก็คือเรื่องของเธอ ที่ดูจะไม่ปลอดภัย ถ้ามันรู้ว่าเธอเป็นคนที่เขารัก เรื่องมันคงไม่จบง่ายๆ แน่ มันคือจุดอ่อนเดียวที่เขามีให้มันเล่นงานได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยแม้แต่จะแสดงจุดอ่อนให้พวกศัตรูได้เห็นเลย พยายามเลี่ยงที่จะแสดงออกกับเธอ แต่ก็อย่างว่าเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะเอาตัวเองไปใกล้ชิดหญิงที่ตนรัก ยิ่งโตเธอก็ยิ่งสวย รอยยิ้มก็สดใส ถึงมันจะมีบางครั้งที่เศร้าหมองบ้าง นั่นมันก็เป็นเพราะเขาที่ทำให้รอยยิ้มนั้นหายไป แต่ไม่นานก็มักจะยิ้มสดใส และมอบมันให้เขาได้อีกครั้งเสมอ และต่อให้ใครต่อใครเข้ามาจีบ เธอก็ไม่เคยจะสนใจเลย ข้อนี้ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกกับความรักที่เธอมีให้เขาและไม่มองใครอีก เขาไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เธอจะรักมั่น กับผู้ชายที่มักทำให้เธอต้องเสียใจได้ถึงเมื่อไหร่ ก็ได้แต่หวังว่าความรักที่เธอมีให้เขามันจะมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ถึงมันจะฟังดูเห็นแก่ตัว แต่เขาก็ทำใจไม่ได้ถ้าต้องเห็นเธอไปรักคนอื่น มีใจให้ชายอื่นที่ไม่ใช่เขา คิดถึงตรงนี้ใจมันก็เจ็บ
แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็จะปกป้องเธอ ใครหน้าไหนก็อย่าหวังว่าจะมาแตะต้องดวงใจของเขาได้
“วันนี้นายจะขับรถไปดูแลคุณกอหญ้าเอง หรือจะส่งคนไปครับ” ที่เขาถามแบบนี้ก็เพราะว่าคนตรงหน้ามักจะคอยสะกดรอยตาม คอยดูแลหญิงสาวอยู่เสมอ เขาก็เห็นใจเจ้านายเหมือนกัน ต้องทำหลบๆ ซ่อนๆ เพื่อปกป้องคนที่ตนรัก เพราะหากปรากฏตัวว่าอยู่ด้วยกันมากเกินไปจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีกับฝ่ายหญิง เห็นแบบนี้ก็อดสงสารเจ้าได้ไม่ได้ รักแต่ไม่สามารถเคียงข้างกันได้
“เดี๋ยวชั้นขับไปเองดีว่า เสร็จแล้วจะแวะไปหาพ่อกับแม่ด้วย”
เมื่อถึงเวลาใกล้เลิกงานของหญิงสาวหนึ่งเดียวในดวงใจแล้ว ภัครคิราก็ไม่รอช้า เข้าไปสั่งงานลูกน้องอีกนิดหน่อย ก็บึงรถไปหาเธอทันที ด้านพิมพ์นภาที่รู้ว่าเขาไม่มาหาก็นั่งหน้าเศร้าต่างจากเมื่อเช้าลิบลับ
“หญ้า หญ้า กอหญ้า!”
“ห๊ะ พราวมีอะไรรึเปล่า”
“เป็นอะไรของเธออีกเนี่ย เมื่อเช้ายังดี ๆ อยู่เลย” เธอว่าพรางสำรวจเพื่อนสาวที่ดูจะอมทุกข์อีกแล้ว คนที่ทำให้เพื่อนเธอเป็นแบบนี้ได้ก็มีอยู่คนเดียวเท่านั้น ‘เคน’!
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่พราวมีอะไรรึเปล่า”
“จะชวนไปกินปิ้งย่างด้วยกันน่ะ นี่ก็เลิกงานแล้ว ไปนะ พี่หมอก็ไปด้วย”
“หือ ไปชวนกันตอนไหนเนี่ย ชักจะยังไง ๆ แล้วนะ พราวไปเถอะวันนี้หญ้าว่าจะไปเดินเล่นที่ ที่หนึ่งหน่อย”
“งั้นก็ได้ เธอโอเคนะ” เมื่อเห็นสีหน้าเศร้า ๆ ของเพื่อนเธอก็ไม่อยากที่จะเซ้าซี้ต่อ คงจะไปหาที่เงียบ ๆ ระบายอารมณ์เหมือนเคย
“โอเคสิ รีบไปเถอะเดี๋ยวพี่หมอรอนาน อย่ารุกพี่หมอเยอะล่ะ”
“พูดแบบนี้พราวเสียหายนะ รุกเลิ่กอะไรกันเล่า” เธอว่าอย่างยิ้ม ๆ ไม่ได้รุกสักหน่อย แค่ชวนไปกินปิ้งย่างแค่นี้เอง รุกของจริงมันจะเริ่มหลังจากนี้ต่างหากล่ะ เมื่อเห็นว่าภาคภูมิเริ่มตัดใจจากเพื่อนเธอได้แล้ว เธอก็พร้อมที่จะดามหัวใจพี่หมอสุดหล่อ พร้อมเธอพร้อมเสมอถ้าเป็นพี่หมอ!
เมื่อเพื่อนเดินออกไปแล้ว เธอก็เก็บของเตรียมจะกลับบ้าง เมื่อออกมาถึงหน้าโรงพยาบาลก็โบกมือเรียกแท็กซี่ พร้อมกับบอกจุดหมายที่ต้องการจะไป เธอนั่งมองหน้าต่างดูรถที่ผ่านไปผ่านมาอย่างเหม่อลอยพร้อมกับคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ‘เคนจะทำอะไรอยู่นะ จะคิดถึงหญ้าบ้างรึเปล่า’
“คุณครับ คุณครับ ถึงแล้วครับ”
“ค่ะ คะ ขอบคุณนะคะ ที่ค่ะเงิน”
“ไปซื้อไอศกรีมก่อนดีกว่าค่อยไปเดินเล่นแล้วกัน” เมื่อคิดได้ว่าจะทำอะไรดีก่อน ก็ตรงไปยังร้านไอศกรีมเจ้าประจำทันที ก่อนที่อมยิ้มน้อย ๆ จะปรากฏขึ้นบนใบหน้างาม
“เคนหญ้าอยากกินไอศกรีม พาไปซื้อหน่อย”
“บอกอานนท์สิบอกชั้นทำไม” ภัครคิราบอกด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ
“ก็หญ้าในเคนพาไปนี่ น้า นะ นะๆๆๆๆๆ” เธอทำท่าทางออกอ้อนน่ารัก จนเขายอมใจอ่อน
“อืม ไปก็ไป คุณอาครับผมพากอหญ้าไปซื้อไอศกรีมตรงนู้นนะครับ พ่อกับแม่แล้วก็คุณอาจะฝากซื้ออะไรไหมครับ”
“อาไม่เอาครับ ฝากดูก็หญ้าด้วยนะ รายนี้น่ะชอบสะดุดล้มอยู่เรื่อย เผลอไม่ได้เชียว”
“พ่อกับแม่ก็ไม่เอาจ้ะ เคนไปเถอะ กลับมาเดี๋ยวแม่เตรียมอาหารไว้ให้ นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว” ครอบครัวของเธอแล้วก็ฟ้าลดามักจะมาปิ๊กนิกด้วยกันแบบนี้บ่อย ฝั่งนั้นโดนรบเร้าจากลูกสาว ฝั่งนี้ก็โดนรบเร้าจากลูกชาย แต่ลูกชายตัวดีเธอก็ไม่ยอมให้บอกว่าตนนั้นอยากจะมา ให้แต่บอกว่าเป็นความต้องการพักผ่อนของพ่อเท่านั้น ซึ่งพ่อก็เออออตามลูกชายไม่เคยคัด เธอรู้ว่าลูกชายเธอชอบหนูกอหญ้า แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำเย็นชาหรือไม่สนใจ ทั้งที่ก็รักก็ชอบเขาเสียขนาดนั้น สงสัยคงจะติดนิสัยพ่อมาล่ะมั้ง เธอก็ได้แต่คิด
“เอา วนิลลากับสตรอว์เบอร์รี่อย่างละสคูปค่ะ”
“เคนเอาด้วยไหม”
“ไม่ล่ะ เธอกินเถอะ”
“ไม่เอามาแล้วก็ต้องกินสิ เอาช็อกโกแลตอีก 1 โคนค่ะ” เธอหาได้สนใจเขาไม่ หันไปบอกพี่พนักงานหน้าตาเฉย
“นี่ค่ะ ช็อกโกแลต แล้วก็สตรอว์เบอร์รี่วนิลลา” เธอมองหนุ่มสาวที่เหมือนจะเริ่มเข้ารุ่นกันยิ้ม ๆ อีกคนก็หล่อ อีกคนก็สวยหวานน่ารัก คงจะมาเดทกันสินะ
“ขอบคุณค่ะ”
“กินดี ๆ สิกอหญ้า เลอะหมดแล้ว” เขาว่าเสียงดุ จะมีสักครั้งไหมที่เธอจะทำอะไรให้มันดี ไม่ให้เขาต้องปวดหัว
“เลอะเคนก็เช็ดให้หญ้าหน่อยสิ มือไม่ว่าง ไอศกรีมกำลังอร่อยเลย เดี๋ยวมันละลายหมดก่อน”
“นิ่ง ๆ สิ ขยับแบบนี้ชั้นจะเช็ดยังไง” เขาว่าขณะกำลังปากให้คนตรงหน้าเธอก็ยังกินไอศกรีมไม่หยุด
“หญ้าหยุดกินก่อนก็ได้ เช็ดเสร็จยัง หญ้าจะกินต่อแล้ว มันจะละลายหมดแล้ว วว” พิมพ์นภาบ่นเสร็จเธอก็เงยหน้าขึ้นมาจากไอศกรีมแสนอร่อย ก่อนจะสบเข้ากับดวงตาคู่คม
“ส เสร็จแล้ว อะนี่กระดาษทิชชู ฝากทิ้งด้วยนะ” ไม่ว่าเปล่าเธอดึงมือเธอมาก่อนจะยัดกระดาษทิชชูใส่มือ แล้วเดินนำออกไป
“รอกันด้วยสิ รู้ก็รู้ว่าหญ้าขาสั้นกว่าแล้วยังเดินไวอีก รอหญ้าก่อนสิ”
“โอ๊ย จะหยุดก็ไม่บอกกันบ้าง” เพราะมัวแต่บ่ให้เขาก็ไม่ได้มองว่าเขาหยุดรอเธอแล้ว ทำให้หน้าผากมนชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างอย่างจัง
“เลิกบ่น แล้วก็รีบเดิน”
