20 ฉันรักเธอ
“คุณเคนรักคุณกอหญ้าครับ”
“คะ?”
“ที่คุณเคนทำเป็นผลักไสทำเป็นไม่สนใจคุณกอหญ้าก็เพราะมีความจำเป็นบางอย่าง”
“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่เข้าใจ” อยู่ ๆ ก็มาบอกว่าเขารักเธอนี่นะ ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด
“คุณกอหญ้าคงจำเหตุการณ์วันนั้นได้ เอ่อ ผมขอโทษนะครับถ้ามันอาจจะทำให้คุณสะเทือนใจ แต่ในวันนั้นหลังจากที่คุณสลบไป นายก็สั่งให้จุดระเบิดขึ้น อันที่จริงพวกเราก็จะจุดกันอยู่แล้วแต่ตอนนั้นมันเป็นจังหวะที่จุดสลบไปพอดี แรงระเบิดทำให้ตัวอาคารถล่มลงมา นายจะเข้าไปช่วยคุณ…
แต่ผมห้ามไว้เพราะคิดว่ามันไม่ปลอดภัย ถ้าเข้าไปเกิดตัวอาคารถล่มขึ้นมาพอดี นายก็จะ… แต่นายก็ไม่ยอม จะไปช่วยคุณเสียให้นาย และนายก็ช่วยคุณออกมาได้ แต่ในตอนสุดท้ายคานเหล็กก็ถล่มลงมาพอดี…พวกผมเข้าไปช่วยกันตามหานายกับคุณกอหญ้าในกองเศษซากปรักหักพัง ก็เห็นว่าคุณปลอดภัยดีทุกอย่างไม่รับอันตรายจากการถล่มของตัวอาคารเลยแม้แต่น้อย
จะมีก็แต่นายที่ถูกท่อนเหล็กทับอยู่เพราะนายเอาตัวเองเป็นกำบังให้คุณ” เมื่อเห็นว่าภายในห้องเงียบฟังสิ่งที่เขาพูดอยู่ เขาจึงเริ่มเล่ามันต่อ
“พอเราออกมาจากที่นั่นก็เป็นอย่างที่ผมกับนายคาดการณ์ไว้” เขาเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยละเอียด และยิ่งเน้นย้ำเมื่อถึงฉากที่เจ้านายเขาให้ตัวเองรับกระสุนแทน หรือเวลามีคนเข้ามาทำร้ายเจ้านายเข้าปกป้องเธอยังไง รวมไปถึงตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้านายเขาให้พวกเขาทำอะไรบ้างเพื่อติดตามดูแลเธอ รวมถึงเหตุผลที่แท้จริงด้วยว่าทำไมเจ้านายของต้องทำเป็นไม่รักไม่สนใจ ทั้งที่จริงแล้วทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งห่วง
"ถ้าคุณกอหญ้าไม่เชื่อผม ลองถามคุณพ่อคุณดูก็ได้ครับ”
“ฮึก จะ จริง หรอคะคุณพ่อ” ได้ฟังสิ่งที่ไม้พูดแล้วเธอถึงกับน้ำตาร่วงทันทีอย่างไม่อาจห้าม
ธนนนท์พยักหน้าน้อย ๆ เป็นการตอบลูกสาวไป เรื่องที่ไม้เล่ามานั้นเขาก็พอรู้มาบ้าง แต่ไม่คิดว่าภัครคิราจะทำอะไรตั้งมากมายเพื่อลูกสาวเขาขนาดนี้
“ละ แล้วทำไมคุณถึงมาบอกฉันละคะ” นั่นคือสิ่งที่เธอสงสัย
“เพราะว่าหลังจากช่วยคุณในครั้งนี้ดูเหมือนว่านายจะได้รับบาดเจ็บ นายยอมไปรับการตรวจกับคุณหมอก็จริงครับ แต่หลังจากนั้นก็กลับไปทำงานต่อ เมื่อเช้าลูกน้องผมรายงานมาว่านายดูป่วย ๆ คุณคิณเลยให้กลับไปพัก ตอนนี้ก็น่าจะอยู่ที่คอนโด นายน่าจะอยู่คนเดียวและไม่มีคนดูแล แถมเอ่อ เมื่อสองวันก่อนผมเองก็ได้ยินที่คุณกอหญ้าพูด ขอโทษนะครับที่เสียมารยาท แต่เพราะตอนนั้นผมเองก็อยู่ในห้องด้วย…ถึงจะเห็นนายหน้านิ่ง ๆ ไม่แสดงความรู้สึกอะไร แต่จริง ๆ แล้ว นายเสียใจและเป็นห่วงคุณมากนะครับ กำชับให้พวกผมดูแลคุณให้ดี ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็ให้รีบติดต่อไปทันที”
“ผมไม่อยากให้คุณกับนายผิดใจกันแบบนี้ อย่างน้อย ๆ ก็อยากให้คุณกอหญ้าเข้าใจว่าที่นายทำไปทั้งหมดก็เพราะรักคุณ”
“ฮึก ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะคะที่บอกฉัน ขอบคุณจริง ๆ” เป็นเธอเองที่งี่เง่า เป็นเธอเองที่มองไม่เห็นความรักที่เขามีให้ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็รักเธอไม่ต่างกันอาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำไป เขาทำเพื่อเธอมาโดยตลอด แต่เธอนี่สิเคยทำอะไรให้เขาบ้าง นอกจากจะคอยเป็นภาระให้เขา ‘ฮึกเคน หญ้าขอโทษ ฮือ ๆ’
“นั่นลูกจะไปไหน” เสียงทุ้มของธนนนท์เอ่ยถามลูกสาวที่อยู่ ๆ ก็ดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟาเดินดุ่ม ๆ ไปที่ประตูโดยไม่พูดไม่จา
“หญ้าจะไปหาเคนค่ะ” สองมือไขว้หลังเอาไว้ก่อนที่เท้าจะเขี่ยที่พื้นไปมาอย่างแก้เก้อ เพราะเธอดีใจไปหน่อยที่รู้ถึงความรู้สึกที่เขามีให้ รวมถึงเป็นห่วงเขาด้วยที่เขาไม่สบายและอยู่คนเดียว ก็เลยรีบเดินออกมาโดยลืมไปเสียสนิทว่าพ่อกับแม่ก็อยู่ด้วย
“มีรถหรือไง”
“ทะ แท็กซี่ก็ได้ค่ะ แฮะๆ”
“เดี๋ยวพ่อกับแม่จะไปส่ง”
“ฮือ ขอบคุณนะคะ คุณพ่อของก็หญ้าน่ารักที่สุดเลย แบบนี้ต้องบอกให้คุณแม่ให้รางวัลซะแล้ว”
“กอหญ้า!” เสียงนภาพัชรแห้วใส่ลูกสาวตัวแสบทันที ที่เอาเธอไปเอี่ยวด้วย
“ได้ยินที่ลูกพูดแล้วใช่ไหม พี่ขอชุดใหญ่เลยนะ”
“พ่อลูกคู่นี้อยู่กันสองคนไปเลย แม่ไม่คุยด้วยแล้ว”
…
อ๊อด อ๊อด
เสียงออดหน้าห้องที่ดังขึ้นทำให้ร่างสูงที่กำลังนั่งทานข้าวต้มที่ผู้เป็นแม่หิ้วปิ่นโตมาฝากชะงักไป ก่อนจะสาวเท้าเดินไปเปิดประตู เพราะคิดว่าแม่อาจจะลืมของไว้
“แม่ลืมอะไรรึเปล่าคระ…กอหญ้า…”
หมับ
“เคน ฮึก หญ้าขอโทษ” พิมพ์นภาโผเข้ากอดเขาทันทีที่เขาเปิดประตูออกมา
“ทำอะไรของเธอ จะตัดใจจากฉันไม่ใช่หรือไง ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปซะ...”
“ไม่หญ้าไม่กลับ หญ้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฮึก” ใบหน้าสวยส่ายไปมาทั้งหน้าตาอยู่กับอกแกร่งของเขา แขนเรียวกอดเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จนเขาต้องขยับตัวเข้ามาในห้องเพื่อที่จะปิดประตู
“…” เขายืนให้เธอกอดอยู่แบบนั้น โดยที่ไม่ได้กอดตอบเธอ ได้แต่ก้มมองเธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ ความรู้สึกแน่นอนว่ามันต้องดีอยู่แล้วที่ถูกเธอกอด แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีทำไมเธอถึงมากอดเขาแบบนี้ แถมยังมาหาเขาถึงที่คอนโดอีก แล้วเธอรู้ได้อย่างไรกันว่าเขาอยู่ที่นี่
“ฮรือ!!” คนที่กอดเอวสอบเขาร้องไห้เหมือนพึ่งจะรู้ตัวว่าใบหน้าที่ตัวเองซุกซบเป็นหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมันกล้ามของเขา พอได้สติก็รีบผละออกทันที
“มาทำไม”
“คิดถึง” เธอบอกเขาเสียงเบา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา ได้แต่ก้มมองพื้นอยู่แบบนี้ด้วยความเขินอาย อายที่ไปกอดเขาก่อนแถมเขาไม่ได้ใส่เสื้อ เขินที่อยู่ ๆ ก็ปากไวไปบอกคิดถึงเขาแบบนั้น ก็คนมันคิดถึงจริง ๆ นี่นา ในเวลาปกติ หรือแม้แต่ตอนที่คิดจะตัดใจจากเขาและเธอยังคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา พอรู้ความจริงว่าเขารักเธอเช่นกัน เธอก็ไม่ต้องเก็บมันไว้อีกแล้ว เธออยากบอกให้เขาได้ยิน อยากบอกให้เขารับรู้ว่าตอนที่เขาไม่อยู่นั้นมันทำให้เธอคิดถึงขนาดไหน
“…” คนที่อยู่ ๆ ก็มาถูกหญิงสาวที่บอกว่าจะตัดใจจากเขาบุกมาหาถึงห้อง โผลเข้ากอดเขาก่อน และยังมาบอกคิดถึงเขา ยืนนิ่งไม่ได้พูดอะไรตอบกลับออกไปทั้งที่ใจเขาเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ
"คนบ้าหญ้าบอกว่าคิดถึงไม่ได้ยินหรือไง" กำปั้นน้อย ๆ ยกขึ้นทุบหน้าอกของเขาเมื่อเธอพูดถึงขนาดนี้แล้วก็ยังยืนเฉยอยู่อีก
หมับ
"อืม ฉันรู้แล้ว" ไม่พูดอะไรให้มากความ วงแขนแกร่งคว้าเอาเธอเข้ามากอด ก่อนจะเชยคางมนขึ้นรับจุมพิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความโหยหาจากเขา ความหอมหวานแผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจของกันและกัน ลิ้นร้อนไล่หวัดชิมความหอมหวานภายในโพรงปากนุ่มอย่างไม่รู้เบื่อ แขนเรียวยกขึ้นกอดรอบลำคอแกร่งเขาไว้ ก่อนจะจูบตอบเขาเช่นกัน
"พะ พอแล้ว" มือบางเลื่อนลงมาผลักเขาให้ออกห่าง ก่อนจะเอ่ยบอกเขาเสียงเบา เมื่อเขาไม่มีทีท่าว่าจะผละออกเลยแม้แต่น้อย
"อืม"
"คุณไม้บอกว่าเคนไม่สบาย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ขอหญ้าดูอาการหน่อยได้ไหม"
"ฉันไม่เป็นไร" ที่เธอมาหาเขาแบบนี้ฝีมือเหล่าลูกน้องเขาสินะ หึ
"ไม่เอา มานั่งนี่เลยเดี๋ยวหญ้าจะดูให้" คนตัวเล็กจับจูงมือของเขาให้เดินตามเธอมานั่งที่โซฟา ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปหยิบกล่องพยาบาล แต่ก็ไม่วายหันหลังมาพูดกับเขาด้วยกลัวว่าเขาจะหนีไม่ให้เธอตรวจ
"ห้ามหนีหญ้าไปไหนล่ะ ไม่งั้นหญ้าจะโทรฟ้องคุณลุง!"
"หึ"
"ฮึก คนบ้าแผลช้ำเต็มตัวขนาดนี้ทำไมไม่ไปหาหมอ ทำไมไม่หาคนมาดูแล ทำไมถึงเอาแต่ขลุกอยู่คนเดียวแบบนี้ แล้วมันจะหายไหม ฮือ ๆ" ระหว่างที่ทำแผลทายาให้เขา หยดน้ำตาก็รินไหลออกมาไม่หยุด รอยแผลฟกช้ำเต็มตัวเขาไปหมด โดยเฉพาะหลังที่ช้ำเป็นทางยาว คงจะเป็นเหล็กทับมาอย่างที่ไม้บอกสินะ ส่วนที่แขนก็มีรอยแผลที่น่าจะเป็นแผลจากการถูกยิง ดู ๆ ไปแล้วเหมือนมันจะอักเสบด้วย คาดว่าที่เขามีไข้ตัวรุม ๆ จนคุณลุงคิณไล่กลับมาก็คงจะเป็นเพราะอาการจากแผลอักเสบนี่
"ฉันไม่เป็นไร" เสียงทุ้มเอ่ยปลอบใจคนที่นั่งอยู่ด้านหลังทำแผลให้เขาอยู่ เขาเจ็บแบบนี้จนชินแล้ว
"หยุดพูดว่าไม่เป็นไรสักทีได้ไหม ฮือ ๆ เจ็บก็บอกมาสิว่าเจ็บ รักกันคิดถึงกันก็พูดออกมาสิ ฮือ จะเก็บมันไว้คนเดียวทำไม" เมื่อพูดจบ ก็ทายาให้เขาเสร็จพอดี กล่องยาถูกวางไว้อย่างไม่รู้ทิศทาง แขนเรียวยกขึ้นกอดเขาแน่นจากด้านหลัง เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ดังมาไม่หยุด พาให้หัวใจแกร่งกระตุก เธอต้องเจ็บปวดเสียใจเพราะเขาอีกแล้ว
"ฉันไม่เป็นไร หยุดร้องไห้เป็นเด็ก ๆ ได้แล้ว" ภัครคิราหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับเธอ ก่อนจะดึงเอาเธอเข้ามากอด มือหน้ายกขึ้นลูบหลังให้คนตัวเล็กแผ่วเบา
"ฮึก ก็หญ้าเป็นห่วงเคนนี่ แผลเต็มตัวแบบนี้ยังมาบอกว่าไม่เป็นไรอีก" เสียงพูดอู้อี้อยู่กับอกเขา แขนเรียวยกขึ้นกอดเขาเช่นกัน
"ฉันชินแล้ว"
"แต่หญ้าไม่ชินนี่"
"ถ้าเคนเป็นอะไรขึ้นมาหญ้าจะอยู่ยังไง"
"ก็อยู่กับพ่อแม่เธอไง คุณยายเธอก็ยังอยู่ อีกอย่างเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน เธอจะมาคิดเสียใจทำไม จะตัดใจจากฉันไม่ใช่หรือไง"
"แค่พูดว่ารักกันมันยากมากหรือไง" เสียงเล็ก ๆ แห้วใส่เขาอย่างหัวเสีย เธอมาหาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้อีก
"?"
"หญ้ารู้ความจริงหมดแล้ว ว่าที่เคนทำไปทำหมดก็เพื่อหญ้า แล้วก็รู้อีกด้วยว่าเคนก็รักหญ้าเหมือนกัน"
"หึ พูดอะไรของเธอ ฉันไม่ตลกด้วยนะ"
"หญ้าก็ไม่ตลกด้วยเหมือนกัน" พิมพ์นภาละออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนจะจ้องมองเขาตอบ
"หญ้ารักเคนนะ รักมาตั้งนานแล้ว เคนเองก็รู้ แล้วเคนล่ะ รักหญ้ารึเปล่า" ดวงตาคู่สวยมองลึกลงไปในดวงตาคู่คมของเขา ดวงตาที่แน่นิ่งไม่มีความไหวหวั่นในดวงตาคู่นั้นเลยแม้แต่น้อย
"ฉันไม่ อุบ"
"อื้ม" พิมพ์นภาเอื้อมตัวไปจูบเขาในทันที ก่อนที่เขาจะพูดว่าไม่รักเธอออกมา
"อย่าพูดมันออกมานะ เลิกปากแข็งสักทีได้ไหม รักหญ้าก็พูดมาสิว่ารัก เคนจะปกปิดความรู้สึกของตัวเองไปทำไมกัน ถ้ามันอันตรายก็บอกหญ้าสิ บอกหญ้า ไม่ใช่ทำตัวเย็นชาไร้ความรู้สึก ฮึก ผลักไสกันแบบนี้ รู้ไหมว่าหญ้าเจ็บปวดขนาดไหน เจ็บจนบางครั้งหญ้าก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เคนอยากมาก็มา อยากหายก็หาย โดยไม่บอกอะไรหญ้าเลย หญ้าเลือกอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำได้แต่ทนยอมรับมันอยู่แบบนั้น ฮือ" ความรู้สึกที่มีพรั่งพรูออกมาจนหมด จากตอนแรกที่ดุ ๆ เขาอยู่ดี ๆ ให้เขายอมพูดว่ารักเธออก แต่มากลายเป็นว่าได้มานั่งร้องไห้พูดกับเขาแทน ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็เวลาพูดถึงเรื่องพวกนั้นเธอก็อ่อนไหวตลอด "เคนรู้บ้างไหมว่าคนรอมันทรมานมากขนาดไหน แล้วยังมาพูดจาทำร้ายจิตใจกันอีก ฮึก เคนไม่สงสารหญ้าบ้างหรืองะ อื้ออ"
ริมฝีปากหนาทาบทับลงบนริมฝีปากบางตรงหน้าทันที ไม่ปล่อยให้เธอได้พูดอะไรต่ออีก ความรู้สึกที่มีถูกถ่ายทอดผ่านจูบที่แสนหอมหวานและเร่าร้อน เธออดทนรอเขา คอยรับความเจ็บปวดจากเขามามากพอแล้ว และตอนนี้ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลายแล้ว เหลือเพียงอีกนิดเดียวเท่านั้นทุกอย่างจะจบลง
"ฉันขอโทษ...ฉันรักเธอ" เขาว่าทั้งที่ริมฝีปากยังคงแนบชิดอยู่กับริมฝีปากบางของเธอ เมื่อเอ่ยคำรักเสร็จเขาก็ประกบจูบเธออีกครั้ง หัวใจสองดวงถูกเปิดเปลือยความรู้สึกที่มีต่อกันและกันจนหมดสิ้น การกระทำต่าง ๆ พวกเขาเพียงใช้นำทางให้ร่างกายตอบสนองตามเท่านั้น แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะถลำลึก เสียงท้องร้องของใครบางคนก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
"แฮะ ๆ พอดีว่าเมื่อกี้ ออกจากโรงพยาบาลหญ้าก็มาที่นี่เลย" ตอนแรกเธอตั้งใจจะไปกินข้าวเที่ยงที่บ้าน แต่พอมารับรู้เรื่องของเขาก่อน เธอก็รีบมาที่นี่ทันที ลืมเรื่องกินไปเสียสนิท จนร่างกายต้องร้องประท้วงออกมาแบบนี้
คนฟังได้แต่ส่ายหัวให้กับท่าทางของเธอ แม้จะเสียดายที่ไม่ได้จับเธอกิน แต่ขุนเธอก่อนแล้วค่อยกินมันก็ยังไม่สาย หึ
"ตามฉันมา"
