บท
ตั้งค่า

2 จูบแรก ?

“นี่ จะจ้องฉันอีกนานไหม ไอศกรีมละลายหมดแล้ว ดูสิหยดเปื้อนเสื้อหมดเลย เธอนี่นะ” ภัครคิราเอาสำลีเช็ดแผลเคาะหน้าผากเพื่อเรียกสติ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอรักเขา เขาก็รักเธอไม่ต่างกัน แต่มันยังเป็นตอนนี้ไม่ได้

ทุกอย่างมันอันตรายเกินไปสำหรับเธอ แค่ที่เธอหกล้มได้รับบาดเจ็บแค่นี้เขาก็เป็นห่วงเธอจะแย่แล้ว ในวันข้างหน้าเธอจะไม่เพียงแค่หกล้ม เธอจะต้องเจ็บปวดและได้อันตรายมากกว่านั้นกับสิ่งที่เขาทำอยู่ เขาขอเห็นเธอเจ็บใจเพราะคิดว่าเขาไม่รักดีกว่าเจ็บกายเพราะเขาเป็นต้นเหตุ แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้เธอมาเคียงข้างกาย แต่เขาก็ขอดูแลเธอแบบนี้ต่อไปจนกว่าทุกอย่างมันจะพร้อมและปลอดภัยสำหรับเธอ

‘รอฉันนะกอหญ้า’

“ชิห์ ใครใช้ให้หล่อน่ามองเองล่ะ ช่วยไม่ได้”

“พอลุกไหวไหม ให้ฉันประคองไปขึ้นรถ หรือจะให้อุ้ม”

“อะ โอ๊ย หญ้าว่าให้เคนอุ้มดีกว่า มันยังเจ็บ ๆ อยู่เลย” พิมพ์นพาบอกเขาทั้งที่มันเริ่มจะดีขึ้นบ้างแล้ว ถ้าให้เขาช่วยประคองแน่นอนว่ามันพอจะถึงรถ แต่เธอก็อยากให้เขาอุ้มมากกว่า แผ่นหลังของเขามันอบอุ่น จนเธออยากจะหยุดเวลานี้ไว้

“วร้าย นี่มาอุ้มหญ้าทำไม หญ้าจะขี่หลัง” เธอร้องโวยทันทีเพราะคิดว่าจะได้ขี่หลังเขาอีกครั้ง

“ก็เธอบอกให้อุ้ม” ภัครคิราว่าแค่นั้นก่อนจะก้าวขายาวๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงรถสปอร์ตคู่ใจ

“ขาดเข็มขัดด้วย”

“ค่าคุณพ่อ”

“จะให้ไปส่งที่บ้านหรือคอนโด”

“คอนโดแล้วกัน ถ้าไปที่บ้านพ่อต้องดุที่หญ้าซุ่มซ่ามไม่ระวังอีกแน่เลย”

“ถ้าหิวขนมอยู่ในนี้นะ” เขาเอื้อมตัวมาบอกเธอพร้อมกับตบไปที่ลิ้นชักหน้ารถ

“เคนรู้ใจหญ้าที่สุด มีแต่ขนมที่หญ้าชอบเลย นี่หญ้าแอบคิดเลยนะว่าเคยซื้อมาให้หญ้า ไม่ยักกะเคยเห็นว่าเคนจะชอบกินขนมพวกนี้” เธอบอกเขาอย่างอารมณ์ดี มันเหมือนกับว่าเขาเตรียมทุกอย่างไว้เพื่อเธอ

“ฉันเนี่ยนะเตรียมให้เธอ แม่ต่างหาก พอแม่รู้ว่าเธอรถเสียต้องนั่งรถมากับฉันหลายวันก็เอาใส่ไว้ให้ เหมือนจะมีคุกกี้ด้วยนะ ลองหาดูสิ” ภัครคิรารีบแก้ต่าง ใช่ทุกๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ทำแผลและขนม เขาล้วนเป็นคนเตรียมไว้ทั้งสิ้น เพราะรู้ว่าเธอมักจะหกล้มหรือซุ่มซ่ามจนได้แผลตั้งแต่เด็กจนโตกล่องอุปกรณ์ทำแผลจึงเป็นของติดรถของเขาไปโดยปริยายเพื่อวันใดมีเหตุจำเป็นต้องให้มัน จะได้ไม่ต้องลำบากหา อย่างวันนี้เธอก็หกล้มให้เขาต้องดูแลอีกจนได้

“กินขนมไหม อันนี้รสช็อกโกแลตเคนน่าจะชอบ”

“เธอกินเถอะ ฉันขับรถอยู่”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวหญ้าป้อน”

“เธอกินให้อิ่มเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน”

“คำเดียวก็ได้นะๆ หญ้าป้อน”

“เก่งมากกกก” เมื่อเห็นภัครคิรายอมรับขนมที่เธอป้อนเธอก็อมยิ้มดีใจ

“เป็นไง ขนมที่หญ้าป้อนหวานไหม”

“เค็ม”

“ชิห์ ถ้าเค็มงั้นก็กินไปเยอะๆ เลย” ไม่พูดเปล่าพิมพ์นภาหยิบขนมเต็มกำมือ ยัดใส่ปากเขาทันที

“นี่กอหญ้า เธอทำบ้าอะไรเนี่ย” หลังกลืนขนมเสร็จก็ว่าเธอเสียงดุ แต่คนโดนดุหาได้สะทกสะท้านไม่ กลับทำหน้าอมยิ้มแลบลิ้นตาปลิ้นใส่เขา

“ช่วยไม่ได้ มาหาว่าขนมที่หญ้าป้อนด้วยใจแสนหวานว่าเค็มเอง แบร่”

“หลับไปซะงั้น เมื่อกี้ยังพูดแจ้ว ๆ อยู่เลย” เมื่อเห็นว่าเธอหลับไปแล้ว ภัครคิราเลยตีไฟเลี้ยวรถเข้าข้างทางเพื่อปรับเบาะแล้วเอื้อมไปหยิบผ้าห่มจากเบาะหลังมาห่มให้เธอ พร้อมกับปรับเบาะให้เธอได้นอนสบายขึ้น เขาไม่เคยเบื่อหรือรำคาญเลยที่ต้องมาดูแลเธอแบบนี้ แม้กระทั่งเวลาที่เธอคอยตามเขา เขาก็ไม่เคยรำคาญ กับชอบซะอีกที่มีเธออยู่ใกล้ ๆ กันแบบนี้

“จุ๊บ หลับฝันดีอมยิ้มเชียวนะ ยัยบ๋องเอ้ย” เขาขโมยจูบริมฝีปากบางแผ่วเบา หลังจากที่ฟังเสียงใส ๆ คอยพูดนั่นนี่ตลอดทั้งวัน ทำให้อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจูบปากบางที่พูดเก่งราวนกแก้วนกขุนทอง

“ปากนี่ ทำไมถึงได้พูดเก่งจังเลยหึ” ก่อนจะบีบจมูกเธอเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว

“อือ จะนอน อย่ากวน”

“หึ”

คอนโดกอหญ้า

“ขี้เซาแบบนี้ ถ้ามีใครมาลักหลับเธอ จะรู้เรื่องไม่เนี่ย” ภัครคิราส่ายหัวให้กับความเป็นเธอ ก่อนจะค่อย ๆ อุ้มเธอเข้าไปในคอนโด คอนโดที่เธออยู่มีความปลอดภัยสูงก็จริง แต่ถ้าเป็นเขาสามารถเข้าออกที่นี่ได้ตลอด เพราะเขา

ก็มีห้องที่นี่เหมือนกันเพียงแต่เธอไม่เคยรู้เท่านั้น

“อื้อเคน ที่นี่ที่ไหน” พิมพ์นภางัวเงียตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดเขา เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหนก็รีบคล้องคอเขาไว้ทันที ด้วยว่ากลัวตกพร้อมกับขยับตัวหามุมซุกอกอุ่นๆ ของเขา

“อย่าดิ้นเดี๋ยวตก”

“ทำไมใจเคนเต้นจัง เขินหญ้าอยู่ใช่ไหมล้า” เธอเอานิ้วจิ้มไปยังหัวใจของเขาหลังจากที่หามุมซุกอกอุ่นได้แล้ว กลับได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเขา

“เมื่อกี้ฝนตก เลยต้องรีบอุ้มเด็กขี้เซาฝ่าฝนเข้ามาข้างใน” เขาบอกออกไปทั้งที่จริง ๆ แล้ว ที่ใจสั่นแบบนี้ก็เพราะเธอ ยิ่งเธอทำตาแป๋วถามเขาแล้วยังซุกตัวเขาหาเขาอีก เขาเป็นผู้ชายนะ มีผู้หญิงมาทำแบบนี้ใครบ้างจะไม่ใจเต้น ยิ่งเป็นเธอแล้วด้วยนั้น

“งั้นหรอ หว่าเสียดายจัง แต่ก็ช่างเถอะ” เธอว่าเสียงหงอยๆ ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาอกแกร่งแสนอบอุ่นตามเดิม

“กอหญ้า ถึงห้องเธอแล้ว” ภัครคิราเอ่ยปลุกเธอเมื่อกี้ยังพูดกับเขาแจ๋ว ๆ อยู่ตรงล็อบบี้อยู่เลย พาเดินขึ้นลิฟต์ไม่ถึง 5 นาที ก็หลับไปอีกซะละ

“อือ รหัสห้องเป็นวันเกิดหญ้าไล่จากปี”

“ฉันไม่รู้ วันเกิดเธอ”

“970914 นี่แหนะ แค่นี้ก็จำไม่ได้ มันน่าน้อยใจ” ไม่ว่าเปล่ามือเรียวสวยตีไปที่อกแกร่งอย่างไม่ออมแรง

“นี่ เจ็บนะ ตีมาได้” เขาว่า ทำไมจะจำไม่ได้ ทุกอย่างที่เป็นเธอและเกี่ยวกับเธอเขาจดจำมันไว้เสมอ เพียงแค่อยากแกล้งเธอเท่านั้น

“เชอะ ปล่อยหญ้าลงตรงโซฟานี่แหละ แล้วจะไปไหนก็ไปเลย” เธอบอก แล้วพยายามดิ้นลงจากตัวเขา

ไม่รู้ว่าเขาทรงตัวไม่ดีหรือเธอที่ดิ้นแรงเกินไป ร่างสองร่างค่อยเซถลาลงมาทาบทับกันบนโซฟาตัวนุ่ม โดยที่ภัครคิราเบี่ยงให้ตัวเธอคล่อมอยู่ด้านบนตัวเขา เพื่อให้ตัวเองรับแรงกระแทกแทนร่างบอบบางที่เขาอุ้มอยู่ก่อนหน้า

“อั๊ก”

“เคนเจ็บตรงไหน หญ้าขอโทษนะ”

“กอหญ้า อย่าดิ้น” เขากัดพูดออกไป แต่เธอก็ไม่ยอมหยุด ยังคงจับนั้นจับนี่สำรวจบนตัวเขาไม่หยุด ร่างนุ่มนิ่มกลิ่นกายหอมกรุ่นตรงหน้า ‘ฉันต้องพยายามข่มอารมณ์ตัวเองมากแค่ไหน เธอจะรู้บ้างไหมกอหญ้า’

“กอหญ้าฉันบอกให้หยุด” เขาว่าเสียงดุลอดไรฟัน

“หญ้ากลัวเคนจะเจ็บนี่ เมื่อกี้หญ้าขอโทษนะ ถ้าหญ้าไม่ดิ้นแรงเกินไปเคนก็ไม่ต้องมาเจ็บแบบนี้” พิมพ์นภาบอกเขาด้วยน้ำเสียงปนเศร้า ลืมเรื่องราวก่อนหน้าที่เขาลืมวันเกิดเธอไปหมด เหลือแต่ความเป็นห่วงให้เขา

“ฉันไม่เป็นไร ลุกไหวไหม” เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เป็นห่วงเขากับดวงหน้าเศร้าๆ เขาก็ดุเธอต่อไม่ลง

“พอไหวอยู่” เธอบอกก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวขึ้น โดยที่เขาคอยประคองอยู่ไม่ห่าง แต่เมื่อกำลังจะลุกขึ้นได้อาการปวดแปล๊บที่ข้อเข้าก็เล่นงาน ทำให้เซถลาไปหาเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ใบหน้างามไม่ได้ซบที่อกเขาอย่างเคย กลับล้มลงมาจูบเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาหวานเบิกกว้างกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ เขาก็ฉกฉวยขโมยจูบที่แสนหวาน ลิ้นหนาเกี่ยวตวัดไล่ชิมความหอมหวานที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน พิมพ์นภาที่ยังคงงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ลิ้นเล็กก็พยายามที่จะโต้ตอบเขาอย่างไม่ประสา สองร่างยังคงมอบจูบที่หอมหวานส่งผ่านความรักถึงกันและกันก่อนที่เธอจะทุบอกเขาเมื่อเริ่มที่จะหายใจไม่ออก เมื่อได้สติเขาจึงผละออกจากริมฝีปากอมชมพูที่ตอนนี้แดงระเรื่อและบวมเล็กน้อยจากการกระทำของเขาอย่างเสียดาย ก่อนที่จะประคองเธอลุกขึ้นนั่งในเวลาอันรวดเร็ว จนเธอเองก็ยังคงงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แล้วหน้านวลก็เห่อร้อนทันทีเมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอกับเขาทำไปเมื่อสักครู่

“ขอโทษนะ”

“ข ขอโทษทำไม”

“ที่เมื่อกี้”

“เคนคงจะไม่ได้ตั้งใจ ไม่เป็นไรหญ้าเข้าใจ” พิมพ์นภารีบพูดตัดบทสนทนาก่อนที่จะได้ยินคำพูดจากปากเขา เธอกลัวว่ามันจะทำให้เธอต้องเจ็บปวดใจ

“งั้นเธอพักผ่อนเถอะ ฉันกลับเลยแล้วกัน” เขาว่าแค่นั้นก่อนจะรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอมันเกิดจากความตั้งใจ ไม่ใช่แบบที่เธอคิด แต่ให้เธอคิดแบบนี้มันก็ดีแล้ว มันเป็นผลดีกับตัวเธอ

“เดี๋ยวสิ” เธอร้องเรียกเขาไว้ เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูออกไป

“มะ เมื่อกี้เป็นจูบแรกของเราใช่ไหม” เธอตะโกนถามออกไปอย่างเขินอาย

‘จูบที่สามแล้วต่างหาก ยัยบ๊องเอ้ย’ เขาอมยิ้มหันหลังไม่ตอบเธอแล้วเดินออกไป ปล่อยให้พิมพ์นภานั่งม้วน เขินอายกับสิ่งที่เขาทำกับเธอเมื่อสักครู่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel