1 อย่าทิ้งไว้คนเดียว
“เคน”
“เคน...เดี๋ยวรอหญ้าด้วย เดี๋ยวก่อนนนนน”
“โอ๊ย” ด้วยความที่รีบร้อนที่จะตามภัครคิราให้ทัน ทำให้เธอไม่ได้มองทางจึงสะดุดล้มกับทางต่างระดับข้างหน้า
“อะ..โอ๊ย หายไปไหนของเค้านะ ขาบ้านี่ก็ดันมาเจ็บ บ้าชะมัด ฮือ ไอพื้นบ้า ฮึก” เธอพยายามที่จะพยุงตัวลุกขึ้น แต่ก็ทำไม่ได้ แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีมือที่แสนคุ้นเคยยื่นมาตรงหน้าเธอ
“มาฉันช่วย”
“ลุกไหว ไหม”
“ขอบคุณนะ หญ้าคิดว่าเคนจะกลับบ้านไปก่อนแล้วซะอีก”
“อ โอ๊ย “เธอยื่นมือไปจับกับมือเขาเพื่อให้เขาช่วยพยุง แต่แล้วก็ต้องคิดผิด
เมื่อขาเจ้ากรรมมันเจ็บจี๊ดขึ้นมาจนน้ำตาซึมออกจากหางตาคู่งาม
“ขึ้นมาบนหลังฉันก็แล้วกัน ขึ้นไหวไหม” เขาบอกพร้อมย่อตัวลงข้าง ๆ เธอ
“เมื่อกี้หญ้าเห็นเคนเดินหายไปแล้ว หญ้าคิดว่าเคนขับรถกลับบ้านไปแล้วซะอีก ทำไมถึงมาช่วยหญ้าได้ละ” หลังจากที่ขึ้นขี่หลังภัครคิราได้แล้ว เธอก็เอ่ยถามเขาเสียงเจื้อยแจ้ว จนลืมไปว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเจ็บขามากเพียงใด
“ลืมของ เดินกลับมาก็เห็นเด็กขี้แงหกล้มอยู่ ป้ายเค้าก็เขียนบอกว่าทางต่างระดับ เธอไม่ได้ดูหรือไงกอหญ้า เธอจะรีบไปไหนของเธอ” เขาว่าเธอเสียงดุ ทั้งที่รู้ว่าเธอเป็นแบบนี้เพราะรีบวิ่งตามเขามาให้ทัน
เธอมักจะหกล้มบ่อย บ่อยมากๆ เขาไม่อยากให้เธอต้องเจ็บตัว ไม่อยากที่จะเห็นหยดน้ำตาจากใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มสดใสให้ ยิ่งสาเหตุมันเป็นเพราะเขา เขายิ่งได้แต่โทษตัวเองที่ไม่ยอมรอเธอ เพราะอยากจะแกล้งเธอเท่านั้น เขาไม่คิดว่าเธอจะได้รับอุบัติเหตุจากการวิ่งตามเขา
“ฮึก ก็เคนนั่นแหละที่ไม่ยอมรอ ไม่รู้จะรีบเดินไปไหน หญ้าเรียกแล้วก็ไม่ยอมหยุด ฮือ ไม่ต้องมาดุหญ้าเลยนะ หญ้าจะฟ้องคุณลุง”
“นี่ ถ้าเธอไม่หยุดร้องไห้แล้วก็ไม่หยุดบ่น ฉันจะโยนเธอลงจากหลังแล้วนะกอหญ้า”
“นั่งรอตรงนี้ อย่าไปไหน เดี๋ยวฉันมา” เมื่อเดินมาถึงม้านั่งเขาก็ว่างเธอลงอย่างเบามือ
“แล้วเคนจะไปไหน ไม่เอาหญ้าทิ้งหญ้าไว้คนเดียว หญ้าจะไปด้วย” เธอบอกเขาเสียงเริ่มสั่นขึ้นมาอีกรอบ ถึงที่นี่จะเป็นสวนสาธารณะของมหาลัย แต่มันก็เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว คนผ่านไปผ่านมาก็น้อย ถึงที่ที่เธอนั่งอยู่ไฟ
จะเปิดสว่างก็เถอะ แต่ถ้ามองไปทางอื่นมันกลับวังเวงและน่ากลัวในความรู้สึกของเธอ
“รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันกลับมา” ภัครคิราบอกเธอเสียงเข้ม ทำให้เธอไม่กล้าที่จะโต้ตอบออกไปอีก ได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้
“รีบกลับมานะ”
“อืม”
พิมพ์นภานั่งรอเขาอย่างร้อนใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขาก็เจ็บโทรศัพท์จากที่แบต 20% เธอก็เล่นรอเขาจนตอนนี้เครื่องดับไปแล้ว เมื่อความกลัวเริ่มเข้าปกคลุมเธอทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่ร้องไห้และบ่นเขาออกมา
“ฮึก เคนนะเคน ไหนบอกว่าจะรีบกลับมา นี่ก็ครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ฮือถ้าไม่รักกันก็อย่าแกล้งอย่าหลอกกันอย่างงี้สิ ฮือ คนบ้า คนใจร้าย”
แกร๊บ (เสียงรถเหยียบกระป๋องน้ำอัดลม)
“กรี๊ดดดดดดดดด ฮือ อย่าเข้ามานะ หนูกลัวแล้ว ฮือ” จากที่กลัวอยู่แล้วเมื่อได้ยินเสียงดังของอะไรสักอย่างทำให้เธอกรีดร้องลั่น น้ำหูน้ำตาไหลด้วยความกลัว โดยไม่แม้แต่จะลืมตามองว่าเสียงที่ได้ยินมันมีที่มาจากอะไร
“กอหญ้าๆ นี่ฉันเอง ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่นี่แล้ว” ภาพที่เธอเอามือปิดหูกรีดร้อง ทำให้เขาต้องรีบจอดรถลงมาดู ก่อนจะดึงเธอเข้ามากอดเพื่อ
ปลอบขวัญ เขาผิดเองที่ปล่อยเธอไว้ที่นี่คนเดียว ด้วยรถที่อยู่ไกล แล้วคิดว่าเธอต้องหิวแล้วจึงแวะซื้อขนมกับไอศกรีมรสโปรดมาให้เธอ แต่ไม่คิดว่ามันจะกินเวลาจนบริเวณนี้เริ่มที่จะมืด แต่ก็ยังดีที่ ที่เธอนั่งรอเขาอยู่นั่นสว่าง ถึงเขาจะมองว่ามันไม่ได้น่ากลัวและปลอดภัย แต่สำหรับเธอมันไม่ใช่อย่างที่เขาคิดเลย เธอคงจะกลัวและขวัญเสียมากถึงได้กอดเขาแน่นไม่ปล่อยอย่างนี้
“ฮึก เคนอย่าทิ้งหญ้าไว้คนเดียวอย่างนี้อีกนะ หญ้ากลัว”
“ฉันขอโทษ” ภัครคิราลูบหลังเธอแผ่วเบา ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบกลุ่มผมนุ่มบริเวณศีรษะอย่างปลอบโยน“รอตรงนี้นะ เดี๋ยวฉันมา” เขาบอกเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มสงบลงแล้ว
“ไม่เอา หญ้าจะไปด้วย” พิมพ์นภาบอกเสียงอ้อน เธอกอดเขาแน่นพร้อมกับส่ายหัวที่อกแกร่ง เธอจะไม่ยอมให้เขาไปแล้วทิ้งเธอไว้อีกแล้ว
“ฉันจะไปเอาอุปกรณ์ทำแผลที่รถ แล้วก็ขนมมาให้ เมื่อกี้ที่เธอล้มหัวเขาถลอก ไม่ได้สังเกตตัวเองรึไง” เขาบอกพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หัวเข่า ทำให้เธอเลิกกระโปรงทรงพลีทขึ้นเล็กน้อย และก็เป็นอย่างที่เขาบอกมันมีเลือดซิบออกมาจากแผลที่ถลอก จากที่ตอนแรกเหมือนจะหายเจ็บแล้ว แต่พอเห็นแผลมันกับรู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
“โอ๊ย..”
“แล้วทีนี้จะปล่อยฉันได้รึยัง”
“โห เคนนี่พกอุปกรณ์ทำแผลเป็นเซตขนาดนี้ติดรถไว้เลยหรอเนี่ย” เธอร้องออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าในรถเขาจะมีอะไรแบบนี้ ถ้าเป็นปลาสเตอร์เธอก็ไม่ค่อยจะแปลกใจเท่าไหร่ถ้าเขาจะพก แต่ส่วนมากเขาจะไม่ค่อยได้ใช้มันเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่เด็กจนโต ปลาสเตอร์ของเขาจะมีเธอเป็นลูกค้าประจำเสมอ เธอเคยคิดเข้าข้างตัวเองว่า ไม่เห็นเขาจะซุ่มซ่ามหรือทำอะไรที่มันจะได้รับบาดเจ็บหรือบาดแผลเหมือนกับเธอเลย ทำไมเขาต้องพกมันไว้ติดตัวเสมอ เหมือนกับว่าเขาเตรียมมันมาให้เธอใช้อย่างไงอย่างงั้น แต่ก็ต้องฝันสลายเมื่อเขาบอกว่า แม่คอยเอาใส่กระเป๋าเพิ่มให้เมื่อเห็นว่ามันหมด ไว้เผื่อคราวจำเป็น
“แม่เตรียมให้น่ะ” นั่นไงเธอว่าแล้วไม่มีผิด เขาไม่มีทางที่จะเตรียมของแบบนี้ไว้เพื่อเธอ ก็เขาน่ะมันคนเย็นชา ไร้หัวใจ
“งั้นหรอ”
“แสบนิดนึงนะ”
“ซี๊ด” พิมพ์นภามองเขาบรรจงทำแผลให้อย่างเบามือ เพราะแบบนี้
จะไม่ให้เธอรักเขาได้ยังไง ถึงเขาจะเย็นชาทำเหมือนไม่สนใจเธอ แต่ยามเธอมีปัญหา เดือดร้อน หรือเสียใจ เขาคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ถึงจะดุบ้างก็เถอะ
“นี่ จะจ้องฉันอีกนานไหม ไอศกรีมละลายหมดแล้ว ดูสิหยดเปื้อนเสื้อหมดเลย เธอนี่นะ” ภัครคิราเอาสำลีเช็ดแผลเคาะหน้าผากเพื่อเรียกสติ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่า ...
