18 เค้นคำตอบ
***คำเตือน เนื้อหาในตอนนี้มีความรุนแรงของการทรมานทางกาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
“ใครมันมาอีกวะ!” เสียงปืนที่ดังมาแต่ใกล้ พร้อมกับเหล่าลูกน้องที่เดินมารายงานว่าคนของตนที่ล้อมภัครคิราไว้จากด้านหลังนั้นได้รับบาดเจ็บกันหลายราย ทำให้ศรุตถึงกับสบถอย่างหัวเสีย จะจัดการคนคนเดียว ทำไมมันถึงยากเย็นขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เวลามันฆ่าคนในครอบครัวของเขามันดูง่ายแสนง่ายเสียเหลือเกิน
เสียงปืนที่ดังระห่ำมาจากด้านหลังทำให้ภัครคิราต้องรีบพาตัวเองและหญิงสาวในอ้อมแขนหาที่หลบกำบัง โชคดีที่เหล่าลูกน้องของศรุตนั้นเริ่มอ่อนล้ากันบ้างแล้ว ทำให้ในการจะยิงปืนเพื่อทำร้ายคนของเขา หรือแม้แต่ตัวของเขาเองพลาดเป้าไปไกล และเวลาเข้าโจมตีต่อสู้ระยะประชิดตัวคนของเขาก็มีฝีมือที่เหนือชั้นกว่ามาก การหลบเลี่ยงฝ่าวงล้อมออกไปจึงทำได้อย่างราบรื่น แต่มันก็ไม่ทั้งหมดเพราะยังเหลือลูกน้องของเขาส่วนหนึ่งและรวมถึงตัวเขาเองด้วยที่ยังคงติดอยู่ในวงล้อมของศัตรู
เขารู้ดีว่าไม่มีลูกน้องคนไหนอยากทิ้งเขาแล้วพาตัวเองหนีรอดไปก่อน แต่เพราะถูกเขาตวาด พร้อมกับส่งแววตาดุดันขู่บังคับให้หาทางหลบหนีกันไปก่อน ไม่ต้องเป็นห่วงเขา แต่อย่างว่าลูกน้องของเขาก็ไม่ได้จะเชื่อฟังเขาเสียทั้งหมด มาช่วยกันยิงตอบโต้อีกฝ่าย ปล่อยวิชาหมัดมวยใส่คู่ใส่สู้เพื่อจะได้ออกไปด้วยกัน โดยไม่ยอมทิ้งข้างหลัง
การหาที่หลบภัยจากการโจมตีมาจากด้านหลังจึงเป็นไปได้โดยง่าย
แต่คิ้วหนาก็ต้องขมวดเข้าหากันเป็นปม เมื่อเสียงปืนที่ดังขึ้น ไม่มีนัดไหนเลย
ที่พุ่งเป้ามาทำร้ายคนของเขา
ดวงตาคู่คมกวาดสายตามองไปยังบริเวณด้านหลังเมื่อเสียงปืนค่อย ๆ สงบลง และเขาก็อยู่ในที่ที่ปลอดภัย ยากต่อการโจมตีของศัตรูแล้ว ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับใบหน้าที่คุ้นเคย เพราะถอดแบบมาจากเขาเกือบเสียจะทั้งหมด ไม่สิ เขาต่างหากที่ถอดแบบมาจากท่าน
“พ่อ!”
“มันอยู่ไหน” ไม่พูดพร่ำทำเพลงเมื่อเดินเข้ามาตามหาและเห็นว่าลูกชายปลอดภัยดีแล้ว แม้จะบาดเจ็บ ภาคิณก็ถามหาตัวต้นเหตุทันที
“ทางนั้นครับ”
ได้รับคำตอบจากลูกชายแล้วก็เตรียมพาเหล่าลูกน้องกลุ่มหนึ่งไปตามล่าตัวศรุตทันที โดยไม่ลืมที่จะทิ้งลูกน้องส่วนหนึ่งไว้กับลูกชายด้วย
“พ่อผมไปด้วย”
“หึ” เสียงดังในลำคอก่อนจะเบนสายตาไปยังหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดลูกชาย เป็นการบ่งบอกทางสายตาว่าอยู่ที่นี่ดูแลเธอให้ดี
พอถูกพ่อว่าแบบนี้ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาต้องอยู่ดูแลเธอ เพราะหากว่าเธอตื่นมาไม่เจอใครคงจะไม่ใช่เรื่องดี แถมยังพึ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้ายอย่างแสนสาหัสเมื่อครู่ อีกอย่างก็ไม่มีอะไรแน่นอน หากศัตรูจากแก๊งอื่นบุกเข้ามาอีก และเขาทิ้งเธอไว้ที่นี่กับลูกน้องเขาไม่ไว้ใจ แม้จะอยากตามไปล้างแค้นอีกฝ่ายมากแค่ไหน แต่เธอนั้นสำคัญกว่า
มือหนายกขึ้นปัดไรผมที่ตกลงมาบดบังใบหน้าหวานสวยออกแผ่วเบา แววตาอบอุ่นทอดมองคนในอ้อมแขนที่หลับตาพริ้มราวกับว่ากำลังฟันดี
“เคนขอโทษนะ ขอโทษที่ดูแลหญ้าไม่ดี ทำให้หญ้าเจ็บตัวแบบนี้ เคนขอโทษ”
“อือ” คิวเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันเป็นปมเมื่อจากฝันดี แปรเปลี่ยนเป็นฝันร้าย ฝันร้ายที่เธอต้องรีบตื่นขึ้นมาเพื่อหนีจากความเจ็บปวด
“เฮือก!”
“ไม่เป็นไรนะ เธอปลอดภัยแล้ว ฉันอยู่ตรงนี้” ภัครคิรากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นให้เธอ อย่างที่เธอมักจะร้องขอเขาอยู่บ่อย ๆ แต่เขาก็ไม่ค่อยจะทำตามที่เธอขอเท่าไรนัก เมื่อเห็นเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาสีหน้าแสดงถึงความหวาดกลัวและเศร้าหมองชัดเจน
พิมพ์นภาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองตามเสียงที่ดังขึ้นอยู่ใกล้ ๆ ก่อนที่ภาพในฝันและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จะฉายชัดเขามาในหัว แม้ว่าอ้อมกอดนี้เขาจะอบอุ่น แต่เธอก็ไม่อยากได้รับมันอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อมันไม่มีวันที่จะเป็นของเธอได้…
“ปล่อยหญ้า” มือบางยกขึ้นดันหนาอกเขาให้ออกห่าง ก่อนจะเอ่ยบอกเขาเสียงเรียบ ทั้งที่ใจเธออยากจะร้องไห้ออกมาดัง ๆ อยากกอดเขาไว้ให้แน่นให้เขาช่วยปลอบขวัญ อยากอ้อนเขาให้เขาอยู่เฝ้าอยู่ดูแล แต่การทำแบบนั้นมันจะเป็นการให้ความหวังตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม้มันจะเป็นการต่อลมหายใจแห่งความสุขให้เธอก็ตาม
“กอหญ้าลูก!”
“คุณพ่อ ฮือ ๆ” เสียงทุ้มที่คุ้นหูพร้อมกับการปรากฏตัวของร่างสูงที่คุ้นตา ทำให้น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ ไหลรินออกมาไม่ขาดสายทันที ความเข้มแข็งที่พยายามสร้างมาเพื่อเป็นกำแพงในการขับไล่เขา ผังทลายลงเมื่อเห็นบุคคลอันเป็นที่รัก ที่มักจะคอยปลอบ คอยโอ๋เธออยู่เสมอ
“ไม่เป็นไรแล้วนะลูก พ่ออยู่ตรงนี้แล้ว พ่อจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายกอหญ้าของพ่ออีกแล้ว” ภัครคิรายอมผละออกจากพิมพ์นภาแต่โดยดีเมื่อเห็นว่าคุณอาจะเข้ามาปลอบโยนเธอ หัวใจแกร่งบีบรัดเข้าหากันอย่างเจ็บปวด
เมื่อเห็นเธอผลักไส ไม่ออดอ้อนให้เขาคอยอยู่ดูแลยามที่เธอเจ็บปวดเหมือนอย่างเคย เธอคงจะเกลียดเขาแล้วสินะ หึ
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปหาพ่อนะครับ” เมื่อเห็นว่าเธอมีคนดูแลที่ดีแล้ว เขาจึงเอ่ยขอตัวออกไปทันที อยู่ไปก็มีแต่พาให้เธอเจ็บปวดใจเปล่า ๆ สู้เขาไปให้พ้น ๆ เสีย ตามคำขอของเธอคงจะดีกว่า
“อืม ไปเถอะ เดี๋ยวอาดูแลกอหญ้าเอง”
ภัครคิราหันมองคนตัวเล็กที่กอดคุณอาเขาเพียงครู่เดียวก่อนจะตัดใจเดินออกไปหาผู้เป็นพ่อ
“เป็นห่วงเขาหรือไง” เสียงทุ้มของธนนนท์ว่าขึ้น เมื่อเห็นลูกสาวของตัวเองมองตามภัครคิราจนสุดสายตา
ใบหน้าสวยพยักหน้าตอบผู้เป็นพ่อไปโดยที่ใจยังคงเลื่อนลอย ก่อนจะรีบส่ายหัวเป็นพัลวันเมื่อได้สติ
“ปะ เปล่าซะหน่อย ใครจะไปเป็นห่วงคนใจร้ายแบบนั้นกันคะ”
“แต่เขาเป็นคนช่วยเราไม่ใช่หรือไง”
“เหอะ ช่วยหรอคะ กอหญ้าว่าไม่ใช่หรอก”
“หืม?” ใบหน้าธนนนท์ขึ้นเครื่องหมายคำถามทันที วันนี้ลูกสาวเขาเป็นอะไรกัน ถึงได้พูดออกมาแบบนั้น ปกติจะชื่นชมภัครคิราอย่างกับอะไรดี
“กอหญ้าไม่คุยกับคุณพ่อแล้วดีกว่า”
“พากอหญ้าออกไปจากที่นี่นะคะ กอหญ้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ฮึก กอหญ้าอยากกลับบ้าน” อยู่ ๆ ภาพเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นก็ฉายซ้ำเขามาในหัวเธออีกครั้ง จากที่เมื่อครู่ถูกผู้เป็นพ่อปลอบจนรู้สึกดีขึ้นแล้วแท้ เสียงหวานสั่นเอ่ยบอกพ่อทันทีด้วยความหวาดกลัว
“ถ้าอย่างนั้นกับบ้านเรานะลูก คุณแม่รอกับคุณยายรออยู่” เห็นน้ำตาและรอยแผล รอยแดงจากการถูกทำร้ายบนตัวของลูกสาวคนเป็นพ่อมีหรือจะไม่เจ็บปวด โธ่ เจ้าหญิงตัวน้อยของเธอ พ่อเฝ้ารักเฝ้าทะนุถนอมมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ไอสารเลวคนไหนที่มันทำกับลูกพ่อแบบนี้ พ่อไม่ปล่อยมันไว้แน่ พ่อสัญญา แต่ถึงเขาจะไม่ทำอะไรก็ใช่ว่าหลานชายเขาจะปล่อยให้มันลอยนวล สายตาวาวโรจน์ของภัครคิราก่อนเดินจากไปเขาจำได้ดี หึ ทำร้ายใครไม่ทำร้ายมาทำร้ายลูกสาวเขา ไม่รู้หรือไงว่าลูกสาวเขามีเสือคอยเฝ้าดูแลอยู่ และมันพร้อมจะฉีกศัตรูออกเป็นชิ้น ๆ ทุกเมื่อ ถ้าใครมาแตะต้องคนของมัน
“ฮึก ค่ะ”
“เดินไหวไหม ให้พ่ออุ้มหรือเปล่า”
“กอหญ้าไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ แค่นี้สบายมากค่ะ” ร่างบางค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้นโดยมีผู้เป็นพ่อคอยประคองอยู่ไม่ห่าง
“แน่ใจนะ” เห็นใบหน้าซีด ๆ ของลูกสาวแล้วเขาก็รับรู้ได้ทันทีว่าเจ้าตัวไม่ได้ไหวอย่างที่พูด
“แน่ใจขะ…” พรึบ
“กอหญ้า!!”
…
ผลั๊วะ
“นี่ที่มึงเข้าใกล้เธอ”
ผลั๊วะ
“นี่ที่มึงผลักเธอ”
ฉึก
“และนี่ที่มึงแตะต้องตัวเธอ”
“อ้ากกกกก”
หมัดหนัก ๆ ชกเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่าย ก่อนที่เท้าจะถีบเข้าที่หน้าท้องของมันเหมือนกับที่มันทำกับเธอ ตามมาด้วยใบมีดแหลมคมที่กรีดลึกลงบนฝ่ามือของอีกฝ่าย ข้อหาที่มันแตะต้องตัวเธอ
“พอก่อนไอเสือเดี๋ยวมันจะตายซะก่อน” เสียงเรียบของภาคิณเอ่ยห้ามลูกชาย เมื่อเขายืนดูลูกชายทรมานอีกฝ่ายมานานพอสมควร หลังจากที่เขาจับกุมศรุตได้แล้ว พึ่งจะสั่งให้ลูกน้องมัดมันเข้ากับเสา ชายหนุ่มรูปหล่อที่มีใบหน้าถอดแบบมาจากเขาไม่ผิดเพี้ยนก็เดินเข้ามาเสียก่อน
มาถึงก็ไม่พูดอะไรกับพ่อสักคำ เขาไปปล่อยหมัดหนัก ๆ ใส่อีกฝ่ายจนมันร้องโอดครวญไม่หยุด
“แค่นี้มันยังไม่สาสมกับพี่มันทำกับกอหญ้าเลยนะพ่อ”
“เคน” เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อกดต่ำลงทันที เมื่อเห็นว่าลูกชายตัวดีนั้นไม่ยอมหยุด ทั้งยังจะกรีดฝ่ามืออีกข้างของศรุตอีก หึ ถ้าหากมันยอมสงบศึกแต่โดยดีตั้งแต่ทีแรก ก็ไม่ต้องมาตายกันเกือบจะยกครัวแบบนี้ จะว่าพวกเขาโหดร้ายฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะถ้าไม่ใช่พวกมันที่ตาย ก็จะเป็นครอบครัวของเขา… ซึ่งมีหรือว่าคนอย่างเขาและลูกชายจะยอม
ส่วนที่เขาห้ามนั้นก็ไม่ใช่เพราะสงสาร แต่เพราะอีกฝ่ายยังเป็นประโยชน์อยู่เท่านั้น จึงไม่อยากให้ลูกชายฆ่ามันให้ตายเปล่า มันทำร้ายหลานรักของเขาแถมยังเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของเขาอีก โดนแค่นี้มันยังน้อยไปอย่างที่ลูกชายว่า แต่หลังจากใช้ประโยชน์มันเสร็จแล้ว เจ้าลูกชายมันอยากจะทำอะไรเขาก็จะไม่ห้ามมันอีก
“นอกจากไนท์แล้วยังมีแก๊งไหนอีกที่มาช่วยมึงวันนี้”
“…”
“กูถามว่ายังมีใครอีก!!”
“อ้ากกกก”
“ตอบ!” มีดปลายแหลมปักลงบนผิวหนังบริเวณต้นขาอีกฝ่าย ก่อนจะค่อย ๆ กดลากลงมาเป็นทางยาว ครั้งนี้เขายังไม่ได้กดลงลึกมาก แต่ก็สร้างความเจ็บปวดให้อีกฝ่ายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างจะรู้เหมือนกันว่ามันจะทนได้อีกสักกี่น้ำ
“มะ ไม่” เสียงเริ่มอ่อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหตุจากการถูกทำร้ายมาเกือบครึ่งชั่วโมง รู้อย่างนี้เขาฆ่าเธอตายพร้อมกับกดระเบิดที่นี่ตอนที่มันยังอยู่ไปก็สิ้นเรื่อง เขาไม่น่าอยากเห็นมันทรมานด้วยตาตัวเองเลย พอเป็นแบบนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่ทรมานอย่างแสนสาหัส
ระเบิดที่ติดตัวไว้ก็ถูกภัครคิราตัดสายเพื่อตัดวงจรและโยนมันทิ้งอย่างไม่ทราบทิศทาง ตั้งแต่ที่พุ่งมาทำร้ายเขาในช่วงแรก ทีนี้เขาก็ไม่เหลืออะไรไว้ป้องกันตัวแล้ว มีแต่ความตายเท่านั้นที่เขาจะได้รับจากพวกมันเขารู้ดี
ฉึก
“มึงอยากได้เธอเป็นเมียงั้นหรอ หึ” ปลายมีดที่มีเลือดติดอยู่เขี่ย ๆ ไปที่เป้ากางเกงของศรุต สีหน้านิ่งเรียบไร้ความรู้สึกจ้องมองความเรียบแบนตรงหน้า ก่อนจะหันไปพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเย้ยหยั่น
“มีแค่นี้ หึ ยังมีหน้าอยากได้ผู้หญิงกู”
“อั๊ก”
“ฝันไปเถอะมึง”
“อย่า อย่าตัดมัน กูยอมแล้ว อ้าก ยอมแล้ว”
“พ พอร์น มีพอร์น” เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมหยุดกดปลายมีดลงไปยังบริเวณจุดอ่อนไหวของเขา ทำให้เขาต้องยอมพูดสิ่งที่อีกฝ่ายอยากรู้ออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่พูดไปแล้วมันก็ยังไปยอมหยุดที่จะตัดลูกชายเขาเสียที ซึ่งอีกนิดเดียวเท่านั้นปลายมีดก็จะเฉือนโดนหนอนชาเขียวของเขาแล้ว
“กูบอกไปแล้ว อรึก หยุดมันได้แล้ว”
“มึงยังพูดมาไม่หมด กูจะให้โอกาสมึงเป็นครั้งสุดท้าย ไม่งั้นมึงก็บอกลาลูกชายมึงไปได้เลย”
“ม มีลุค” หากภัครคิราเอาปืนมาจ่อหัวเพื่อคู่ให้เขาพูดสิ่งที่มันอยากรู้ออกมาเขาไม่มีทางจะหลุดปากพูดมันออกมาแน่ เพราะถ้าหากตาย ก็ไม่ต้องมารับรู้ความเจ็บปวดอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ มันเจ็บปวดทรมานกว่าการถูกยิงให้ตาย ๆ ไปเป็นไหน ๆ แบบนี้สินะ มันถึงไม่เลือกขู่ฆ่าเขาตั้งแต่แรก หึ
“ลุค หึ”
