16 ทำร้าย
“ถ้าจะระเบิด นังนี่ก็ตายไปด้วย!!!” เสียงเข้มดังมาพร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มร่างสูงและหญิงสาวที่เขากุมตัวเธอไว้อยู่
“อย่าคิดจะทำอะไรวู่วาม เพราะปืนกูก็ลั่นได้ตลอดเหมือนกัน” กระบอกปืนมันวาวจ่อไปยังเอวบาง
“เอน” เสียงแหบแห้งเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก เธอกำลังจะกลับบ้าน โดยจะไปรอคุณพ่อที่บอกว่าจะมารับเธอ เดินไปเรื่อย ๆ เธอก็มาเจอกับศรันย์ซะก่อน เขายื่นช็อกโกแล็ตมิลให้เธอเหมือนอย่างเคย แต่ที่มันไม่ปกติ
คือเธอรู้สึกตัวอีกทีก็นั่งอยู่บนแล้ว แถมมือทั้งสองข้างยังถูกมันรวบไว้ด้านหลังอีก เธอพยายามขัดขืนและต่อต้านจนถูกพวกมันทำร้ายในที่สุด
“พวกแกเป็นใคร จับฉันมาทำไม”
“ไม่ต้องถามมาก นั่งอยู่เฉย ๆ ก็พอ”
“คะ คุณศรันย์”
“ตกใจหรอ หึ”
“ทำไมคุณถึงได้…” เธอแทบจะหาเสียงตัวเองไม่เจอ เมื่อถูกคนตรงหน้าทำตัวเหมือนจะลักพาตัวเธออย่างไงอย่างนั้น
“ไว้ไปถึง คุณก็ถามมันแล้วกัน”
“ฉันไม่เข้าใจ”
“นั่งอยู่นิ่ง ๆ ให้ความร่วมมือกับผมแล้วคุณจะปลอดภัยจนกว่าผมจะฆ่ามันเสร็จ”
“ฆะ ฆ่า คนงั้นหรอ”
“หึ ก็ไอเคนคนที่คุณแอบชอบมันนักหนาไง”
“ไม่นะ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้”
เพี้ยะ!
“กูบอกว่าอย่าขัดขืน แล้วให้ความร่วมมือ”
“กอหญ้า!!!” ดวงตาวูบไหวยามมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า แขนเรียวมีร้อยช้ำจากการบีบ แก้มขาวเนียนอมชมพูที่เขาชอบขโมยหอมบัดนี้กลับบวมช้ำมีรอยฝ่ามือแดงประทับอยู่ ดวงตาดู่สวยที่แดงก่ำ หยดน้ำตารินไหลไม่ขาดสายโดยไร้เสียงสะอื้น
มือหนาบีบเข้าหากันแน่น กรามแกร่งขบเข้าหากันจนเกินสันนูนขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าเขากำลังโกรธมากแค่ไหน ทั้งโกรธทั้งเจ็บที่ไม่สามารถดูแลปกป้องเธอได้ เป็นสาเหตุทำให้เธอถูกทำร้าย
“เมียมึงสวยไม่เบานี่หว่า น่าเอาจริง ๆ ว่ะ”
“หุ่นอย่างเอกซ์ แถมยังเป็นว่าที่คุณหมออีกด้วย แหม่ถ้าได้เป็นเมีย
คงดีไม่หยอก”
“ไม่ใช่เมียกู” กรอด กรามแกร่งขบเข้าหากันแน่นจนเกิดเสียงดังขึ้นเบา ๆ ภัครคิราพยายามระงับอารมณ์อย่างสุดความสามารถ ก่อนเขาว่าเสียงเรียบตอบอีกฝ่ายไป แต่ประโยคสั้น ๆ ที่เขาพูดมันออกมากลับสร้างรอยแผลบาดลึกในใจคนฟัง หยดน้ำตามากมายยังคนรินไหลออกมาไม่ขาดสาย สายตาตัดพ้อเจ็บปวดมองเขาอย่างไม่ปิดบัง
“ถ้าไม่ใช่ งั้นกูขอแล้วกัน”
“หึ ตามใจ” ปากก็พูดไปแบบนั้นแต่หัวใจกับบีบรัดเข้าหากันอย่างเจ็บปวด ยิ่งเห็นสายตาที่เธอมองมายามเขาพูดจบแล้ว เขาแทบอยากจะเอาปืนมายิงตัวตายเสียให้รู้แล้วรู้รอด มันเจ็บเสียจนเขแทบหายใจไม่ออก เขารู้ว่าการพูดไปแบบนั้นมันจะทำให้เธอเจ็บปวด แต่มันก็เป็นทางเดียวที่จะช่วยเธอได้ หัวใจหากใช้เวลาอาจจะพอเยียวยารักษาหายได้ แต่ชีวิตหากเขาเสียเธอไปแล้วเขาจะไปตามทวงคืนเธอได้จากที่ไหนกัน…
“มีแค่นี้ใช่ไหมที่มึงจะพูดกับกู”
“มึงอุตส่าห์ยกเมียตัวเองให้กูแบบนี้แล้ว กูก็ต้องแสดงความเป็นเจ้าของหน่อยสิวะ”
“เรามาเล่นหนังสดโชว์ผัวเก่าของที่รัก กันหน่อยดีไหมครับหืมม” เสียงแหบพร่ากระซิบอยู่ที่ซอกคอขาวเนียน แต่มันก็ไม่ได้เบาจนคนที่เขาเผชิญหน้าอยู่นั้นไม่ได้ยิน
“อื้อออ อ่อยอันอะ” เพราะถูกอีกฝ่ายใช้ผ้าเทปปิดปากไว้อยู่ทำให้เธอไม่สามารถพูดอะไรได้ถนัดนัก แถมยังถูกตบมาก่อนหน้าการจะขยับพูดหรือส่งเสียงร้องจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ร่างบางสั่นเทาด้วยความกลัว และความรู้สึกขยะแขยงคนที่กอดเธอไว้อยู่เป็นอย่างมาก แต่เธอก็ไม่สามารถขัดขืนหรือทำอะไรได้เลย เพราะอีกฝ่ายมัดมือเธอไว้แน่นแถมยังเอาปืนมาจ่อไว้ที่เอวเธออยู่ตลอด ถัดไปจากนั้นก็ยังมีลูกน้องเขาที่หันปลายกระบอกปืนมาทางเธอและภัครคิราที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับไอสารเลวที่มันกำลังทำร้ายเธอ แม้จะเจ็บปวดกับการกระทำและคำพูด
ของเขา แต่เธอก็รู้สึกเป็นห่วงเขาอยู่ไม่น้อย เมื่อเขาต้องเผชิญหน้าอยู่กับเหล่าคนร้ายที่พร้อมใจหันปลายกระบอกปืนมาที่เขาแต่เพียงผู้เดียว
“ว่ายังไงนะครับที่รัก เร็ว ๆ เลยหรอครับ” มือหยาบกร้านยกขึ้นลูบไล้สะโพกมน ก่อนแสยะยิ้มหันไปมองภัครคิรา ที่ยืนกำหมัดและกระบอกปืนในมือแน่น ถ้าเป็นปืนที่ทำจากวัสดุธรรมดาเขาคิดว่าป่านนี้มันคงจะแหลกคามืออีกฝ่ายไปแล้ว
“ไอศรันย์!! มึงต้องการอะไรกันแน่ ถ้าอยากได้เมียก็ไปทำกันที่อื่น”
“ตอนนี้กูต้องการเคลียร์กับมึง ไม่ใช่มาดูมึงเล่นหนังสด”
“หรือถ้ามึงยังไม่พร้อม งั้นกูกลับก่อนก็ได้ จัดการเมียมึงให้เรียบร้อยแล้วเรามาคุยกันให้มันจบ ๆ”
“อ เอน อึก…”
“ถุย! ให้กูเอาเมียเหอะ ทำเป็นไม่หวงไม่ใส่ใจ มึงอย่าคิดว่ากูโง่นะ
ไอเคน กูไม่ได้โง่เหมือนพี่กู”
“มึงรักนังนี่ มึงพูดแบบนี้ก็เพื่อจะปกป้องเธอ หึ”
“กูบอกไปแล้วว่าเธอไม่ใช่เมียกู!!” เสียงเข้มตวาดลั่น จนพิมพ์นภาน้ำตารวง เธอรู้แล้ว เธอได้ยินแล้ว เธอเข้าใจแล้วว่าเขาไม่สามารถรักเธอได้
จริง ๆ ฮึก ยิ่งเขาพูดมันยิ่งตอกย้ำให้เธอเจ็บ เขาจะใจร้ายกับเธอไปถึงไหนกัน แม้ว่าคำพูดของศรันย์จะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่มันก็เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เมื่อเขาตอกกลับมาอย่างเน้นย้ำในคำพูด
“หึ ไม่ใช่เมีย แล้วไอรอยดูดที่คอมันของหมาตัวไหนวะ เมื่อวานก็มีแต่มึงที่เข้าไปช่วยเธอ หลายสัปดาห์ก่อนรอยที่คอก็ของมึง!!”
“มึงเอาอะไรมาพูด เพื่อนกันก็เอากันได้ คนไม่รู้จักกันก็เอากันได้
หรือมึงไม่เคย”
“ไม่รักก็คือไม่รัก กูต้องรักทุกคนที่กูเอาเลยงั้นหรอ หึ”
“มึงพูดไปก็เปล่าประโยชน์ บอกแล้วว่ากูไม่ได้โง่เหมือนพี่กู”
“เพราะไอศรันย์มันโง่! ถูกมึงต้มจนเปื่อยว่าเป็นคนเย็นชา
ไร้ความรู้สึก จนต้องตายอย่างอนาถ ทั้ง ๆ จุดอ่อนมึงก็อยู่ที่นังนี่!!” เสียงตวาดดังลั่นไปทั่วบริเวณอย่างไม่ยอมเช่นกัน เพราะมันเขาถึงได้สูญเสียพี่ชายอันเป็นที่รักไป ถึงจะพูดว่าพี่ชายไปอย่างนั้น แต่เขาก็รักพี่เขามาก พี่เขายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างคนปกติ แต่ก็ได้ไม่นาน เพราะการมีเส้นทางเดินชีวิตในธุรกิจสีดำแบบนี้ชีวิตย่อมไม่แน่นอน แต่ถ้าไม่มีมันสักคน พี่และพ่อเขาก็ไม่ต้องมาตายแบบนี้ ถึงฝ่ายเขาจะเป็นคนเริ่มก่อนก็เถอะ แต่เขาก็จะไม่ยอมให้พี่ชายและพ่อตายเปล่าแน่
“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง อย่าบอกนะว่าไอศรันย์มันมีแฝด หึ กูว่าแล้วคนตายอย่างมันต่อให้เรียกหมอมาทั้งประเทศก็ไม่มีทางจะฟื้นขึ้นมาได้”
“ดี ในเมื่อมึงมันรนหาที่ กูก็จะช่วยสงเคราะห์มึงให้ไปอยู่กับพ่อและพี่ชายของมึงในนรก!!” เขาว่าเสียงเหี้ยม
“กูหรือมึงกันแน่ที่จะตกนรก หึ แต่ที่แน่ ๆ เมียมึงได้ตกนรกทั้งเป็นแน่!”
“จะทำอะไร!!”
“อย่าขยับอย่าคิดตุกติก หรือคิดจะสั่งลูกน้องมึงให้ซุ่มยิงกู เพราะทันทีที่กูตายระเบิดที่ตัวกูก็จะเริ่มทำงานทันที และเมียหมอของมึงก็จะตายไปด้วย” ว่าจบก็ผลักพิมพ์นภาลงพื้นทันที ก่อนที่เขาจะตามมาคร่อมตัวเธอไว้ มือหนาดึงเอาผ้าเทปที่ปิดปากบางออก เพื่อให้เธอได้ส่งเสียงร้องออกมา
“โอ้ยย”
“ปล่อยฉันนะ ฮือ อย่าทำอะไรฉันเลยได้โปรด” เสียงสั่นเอ่ยขอร้องคนตรงหน้าด้วยความกลัว ด้วยสติที่มีอยู่ทำให้เธอรับรู้ว่าตอนนี้มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เพราะหากรอให้ภัครคิรามาช่วยเหลือ เธอคงจะถูกไอสารเลวตรงหน้าย่ำยีไปก่อนแล้ว เพราะนอกจากคำว่าไม่รักของเขามันก็ทำให้เธอรู้แล้วว่า เขาไม่มีทางที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อเธออย่างแน่นอน
“ถ้าปล่อยเธอไปคงไม่ได้ แต่ปล่อยใน หึ ไม่แน่” เขาว่าเสียงทะเล้นก่อนจะออกแรงกระฉากชุดกาวน์สั้นที่เธอสวมอยู่ออกไปให้พ้นทาง แต่ความหนาของผ้าก็ไม่สามารถทำให้มันขาดติดมือเขาได้ดั่งใจหวัง
มือหนาออกแรงกระชากให้เธอลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะใช่ปืนขู่บังคับให้เธอเป็นคนถอดมันเอง และยิ่งหันไปมองภัครคิราแล้วเห็นท่าทางโกรธจัดจนแทบจะควบคุม อารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้วเขายิ่งสะใจ ‘ไม่รักหรอหึ กูจะรอดู ว่ามึงจะทนดูได้อีกสักกี่น้ำ’ จากที่เหมือนจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะถูกอีกฝ่ายตามถล่มโกดังและรังลับเขาจนเละไปหลายแห่ง แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกเหนือกว่ามันหลายเท่า มันเท่าอะไรเขาไม่ได้เลยได้แต่ยืนตัวสั่นอย่างควบคุมอารมณ์โกรธ ‘ซะใจจริงโว้ย’
ปัง!
“กูบอกให้ถอดเสื้อออก!!” กระสุนหนึ่งนัดยิงไปที่พื้น ๆ ข้างตัวของร่างบางที่นั่งสั่นด้วยความกลัวทันที ที่เธอไม่ยอมทำตามที่เขาบอกสักที
“ฮือ ฉะ ฉันยอมแล้ว” แม้ในใจจะอยากให้อีกฝ่ายยิงเธอทิ้งให้ตาย ๆ ไปเสีย ให้รู้แล้วรู้รอด เธอจะได้หลุดพ้นกับความอัปยศที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้สักที แต่พอนึกไปนึกหน้าคุณพ่อคุณแม่และคุณยายอันเป็นที่รักแล้ว เธอก็ได้แต่กัดฟันทำตามอีกฝ่ายด้วยใจที่กลัดเลือด
มือบางค่อย ๆ ถอดเสื้อกาวน์สีขาวตัวเองออกอย่างช้า ทั้งน้ำตาที่ยังคงรินไหลไม่ขาดสาย
“เร็ว ๆ สิวะ!!”
ภัครคิราที่ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้า กระชับด้ามปืนในมือให้อยู่ในท่าที่ถนัด ก่อนจะขึ้นนกปืนเพื่อเตรียมพร้อม เขามีโอกาสเพียงครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ถ้าพลาดนั่นหมายถึงชีวิตของลูกน้องทุกคน รวมถึงเธอด้วย…
“ถึงว่าทำไมมันถึงได้ทั้งรักทั้งหวงคุณขนาดนี้” ทันทีที่เสื้อตัวนอกถูกถอดออก ถ้อยคำที่ไม่เข้าหูก็ดังขึ้นมาทันที พร้อมแววตาที่มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความหื่นกระหายอย่างไม่ปิดบัง
“ฮึก เขาไม่ได้รักฉัน เลิกพูดมันสักที!! คุณอยากจะทำอะไรก็ทำ แล้วก็ปล่อยฉันไปได้แล้ว ฮือ ๆ”
“ถ้าคุณให้ความร่วมมือแบบนี้ผมก็ไม่ขัด” ปากหนาพูดชิดอยู่ใกล้ ๆ ใบหน้าสวยที่พยายามก็หันหนีเขาไปอีกทาง
แควก มือหนากระชากเสื้อกรามสีขาวตัวบางออก ก่อนจะบีบเข้าที่คางวีมนให้เธอหันหน้ามามองเขา
เมื่อสิ่งห่อหุ้มสิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอยู่บ้างขาดติดมือเขาไป แขนเรียวก็ยกขึ้นกอดตัวเองไว้ทันที
“อ่อยอะ อันเอ็บ อือ อือ” พิมพ์นภาพยายามขัดขืนเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่พอถูกสัมผัสหยาบโลนของเขาเธอก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที ทำไมชีวิตเธอถึงได้น่าสมเพชขนาดนี้กัน
ศรุตน้องชายฝาแฝดของศรันย์หาได้ฟังเสียงร้องเจ็บปวดของหญิงสาวใต้ร่างไม่ เขาหันมาจัดการเธอต่ออย่างเลือดเย็น
“หันมามองว่าที่ผัวคุณหน่อยสิ! แล้วก็มองไปรอบ ๆ สิที่รักว่าพยานรักเรามากแค่ไหน มีผัวเก่าคุณด้วยนะ ดูสิมันกำลังยืนมองเราอยู่เลย แถมยังเล็งปืนมาที่ผมซะด้วย”
“แต่ผมไม่กลัวหรอกนะ ถ้าผมตายคุณก็ตาย ทุก ๆ คนที่นี่ก็จะตายกันหมดไม่เว้นแม้แต่มัน ฮ่า ๆ”
เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งสร้างความเจ็บแค้นในใจคนฟังได้เป็นอย่างดี ไหนจะใบหน้าสวยหวานที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา และรอยแดงช้ำจากการถูกอีกฝ่ายทำร้าย มันชักจะมากเกินไปแล้ว ไม่ว่ามันจะเป็นใครชื่ออะไร
เขาสาบานเลยว่าถ้ามันกล้าแตะต้องเธอหรือทำร้ายเธออีกแม้ติดนิดเดียวมันจะไม่ตายดี!
“ข้างนอกยังขาวเนียนขนาดนี้ ข้างไหนจะสวยขนาดไหน หึ”
“พวกมึงรอดูของสวยงามกันได้เลย ไว้เสร็จแล้วกูจะแบ่งให้พวกมึงได้ชมเชยบ้าง ผัวมันยังไม่สนใจดูแล พวกมึงก็เต็มที่ได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ไม่สิ
มันบอกว่านังนี่ไม่ใช่เมียมัน” มือหยาบกร้านเลือนไปปลดตะขอบราเซียสีดำตรงหน้า โดยมีแรงดิ้นขัดขืนจากคนใต้ร่างไม่หยุด จนเขาต้องประเคนหมัด
หนัก ๆ ให้เธอเลิกต่อต้าน
ฮุก
“หึ อยู่รับความสุขดี ๆ ไม่ชอบ ก็อย่าหาว่าผมใจร้ายก็แล้วกัน!”
คลิก
“มะ ไม่นะ” เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบาด้วยความอ่อนแรง
จากหมัดหนัก ๆ ของเขาเมื่อครู่ การชกท้องที่เป็นจุดอ่อนไหวแบบนี้มันทำให้เธอเจ็บจุก จนตัวงอ แทบจะไร้เรี่ยวแรงขัดขืนเขาได้อีก เสียงคลิกที่ดังขึ้นเบา ๆ บ่งบอกว่าเขาปลดซะขอบราของเธอจากด้านหลังสำเร็จแล้ว
“ชักอดใจไม่ไหวแล้วสิ หึ”
“ไม่นะ กรี๊ด!!!!” เสียงหวานกรีดร้องขึ้นมาเสียงดังด้วยแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ เมื่อเธอเห็นลาง ๆ ว่าเขากำลังเลื่อนมือมาข้างหน้าและกำลังกระชากบราที่เป็นปราการด้านบนชิ้นสุดท้ายออก แค่นี้เธอก็รู้สึกรังเกียจตัวเองจะแย่แล้วที่ถูกอีกฝ่ายสัมผัสไปทั่ว ถ้าเธอต้องมาเปิดเผยส่วนสงวนให้เหล่าชายฉกรรย์นับสิบ เธอขอไม่รับรู้อะไรเสียยังจะดีกว่า…
