12 ตกอยู่ในอันตราย
“อ้าว คุณกอหญ้า จะกลับแล้วหรอครับ ถ้าอย่างงั้นช็อกโกแลตมิลผมก็เป็นหมันสิครับแบบนี้” ชายหนุ่มหน้าตาดีที่แนะนำตัวกับเธอว่าชื่อศรันย์ ชูแก้วที่บรรจุช็อกโกแลตมิลของโปรดของเธอในมือขึ้น อย่างที่เขามักทำประจำยามที่มาหาเธอ ในตอนแรกที่เขาช่วยเธอไว้เธอก็คิดว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วแต่ในวันถัดมาเธอกลับเจอเขาอยู่หน้าทางเดินที่เธอใช้เดินกลับหลังเลิกงาน เขาเดินมาพร้อมช่อดอกไม้และขนมในมือ และที่เธอตกใจไปกว่านั้นคือเขามอบมันให้เธอ พร้อมกับสารภาพรักและขออนุญาตจีบเธอ
“ผมชอบคุณกอหญ้านะครับ ตกหลุมรักตั้งแต่วันนั้น หรือจะเรียกว่ารักแรกพบก็ได้”
“…”
“ผมขออนุญาตจีบคุณกอหญ้าได้ไหมครับ ถ้าเกิดว่าคุณกอหญ้ายังไม่มีใคร”
“คือฉัน คือฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วน่ะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“มีคนที่ชอบอยู่แล้วแสดงว่าเขาไม่ได้ชอบคุณกอหญ้าใช่ไหมครับ…เอ่อผมขอโทษนะครับที่เสียมารยาท แต่เราจะรักคนที่ไม่รักเราให้เจ็บปวดเสียใจไปทำไมกันครับ ในเมื่อยังมีคนที่รักเราพร้อมจะดูแลเราอยู่”
“แต่ว่า” แต่ว่าฉันรักเขามาก ๆ จนคิดว่าฉันจะรักใครไม่ได้อีกแล้วล่ะค่ะ ประโยคต่อมาเธอได้แต่ต่อมันในใจ เห็นสีหน้ามุ่งมั่นและจริงใจของอีกฝ่ายแล้วเธอก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธไปตรง ๆ แต่ก็ไม่อยากให้ความหวัง เพราะเธอรู้ดีว่าถูกให้ความหวังทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายดูจะไม่มีใจให้เลยมันเจ็บปวดมากขนาดไหน
“นะครับ ถ้าภายในสามเดือนผมทำให้คุณกอหญ้ามีความรู้สึกดี ๆ ในตัวผมไม่ได้ ผมจะเป็นฝ่ายไปเองครับ จะไม่มากวนใจคุณอีก”
“แต่ฉันอาจจะให้ได้แค่สถานะเพื่อนนะคะ มากกว่านั้นฉัน…”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเชื่อว่าผมสามารถทำให้คุณเปลี่ยนใจมารักผมได้”
“ถ้าคุณศรันย์ว่าอย่างนั้น ก็ตามใจแล้วกันค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” แม้อีกฝ่ายจะพูดจาดีกับเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่ดี ไม่รู้ว่าทำไม ‘คิดมากน่ากอหญ้า เค้าแค่มาขอจีบเธอเฉย ๆ’
“คุณกอหญ้าจะกลับแล้วหรอครับ ถ้าอย่างนั้นให้ผมเดินไปส่งไหมครับ ไปคนเดียวมืดค่ำแบบนี้มันอันตรายนะครับ”
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ ฉันเดินไปโบกแท็กซี่ข้างหน้านี้เอง”
“ถ้างั้นวันหลังผมขอเดินไปส่งนะครับ”
“กินไปเดินไปก็ได้ค่ะ” ยิ้มตาหยีถูกส่งให้อีกฝ่าย ใครจะไปพลาดของโปรดกันเล่า มองเครื่องดื่มในมือก็อดคิดถึงใครอีกคนไม่ได้เพราะใครคนนั้นก็ชอบดื่มเครื่องดื่มช็อกโกแลตเช่นเดียวกันกับเธอ แต่เขาจะชอบแบบเข้ม ๆ มากกว่า ส่วนเธอชอบนุ่มลิ้นเบา ๆ
เขาหายไปไม่ติดต่อเธอกลับมาเลย และเธอเองก็ไม่ได้ติดต่อเขาไปเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะชอบเปิดช่องแชทที่คุยกับเขามาดู และเผลอพิมพ์ข้อความจะส่งหาเขาอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ไม่กล้ากดส่งมันไปหาเขาสักที…
อีกอย่างหลายครั้งที่เธอไปเล่นบ้านคุณลุงเธอก็ไม่ได้ยินน้ามีนพูดถึงเขาให้ฟังเลย แถมยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของเขาอยู่ที่บ้านด้วย ก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน ‘เคนรู้ไหมว่าการที่เคนทำแบบนี้ หญ้าคิดถึงเคนจนจะบ้าตายอยู่แล้ว’
“แล้ววันนี้ผมจะได้เดินไปส่งคุณกอหญ้า ที่ที่รอรถแท็กซี่อีกรึเปล่าครับ” เสียงทุ้มถามขึ้นด้วยหวังว่าจะได้เดินไปส่งเธอและได้พูดคุยกับเธอระหว่างทางเหมือนที่เขาชอบทำมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา
“ไม่แล้วค่ะ วันนี้ฉันเอารถมา พอดีต้องซื้อของเข้าคอนโดน่ะค่ะ” และก็พอดีว่าเมื่อวานรถเธอพึ่งซ่อมเสร็จด้วย ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะให้เอารถอีกคันที่บ้านมาใช้ แต่เธอก็ไม่ยอม เธอยอมนั่งรถประจำทางกลับถ้าวันไหนเธอเลิกเวรทันรถเที่ยวสุดท้าย หรือบางครั้งคุณพ่อกับคุณแม่ก็มารับเพราะไม่อยากให้เธอกลับแท็กซี่
“ถ้าอย่างนั้นคุณกอหญ้าอยากได้คนช่วยถือของไหมครับ”
“ถ้าอย่างนั้นรบกวนด้วยนะคะ” ตลอดหลายวันที่เขามาวนเวียนทำให้เธอไว้ใจเขามากขึ้น เขาดูเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เคยทำตัวรุ่มร่ามกับเธอเลยสักครั้ง แถมยังวางตัวดีอีกด้วย วันนี้ก็ขอพึ่งเขาหน่อยก็แล้วกัน เธอตรวจคนไข้ทั้งวันแบตเธอเริ่มจะหมดแล้วเหมือนกัน
“งั้นผมครับรถตามคุณกอหญ้าไปก็แล้วนะครับ”
…
“ถึงผมจะทำอาหารไม่เป็นแต่ผมจ้างเชพมาทำให้คุณทานทุกวันได้นะครับ ผมไม่อยากให้คุณทานอาหารพวกนี้เลย หรือไม่จะให้ผมคอยส่งข้าวส่งน้ำให้คุณก็ได้”
“ป๊าจังเลยนะคะ ฉันไม่ได้กินของพวกนี้ทุกวันหรอกค่ะ บางวันคุณแม่ก็ทำมาให้ บางวันก็กินกับยัยพราว ถ้าไม่มีเวลาจริง ๆ ฉันถึงจะกินอาหารแช่แข็งพวกนี้” และช่วงนี้เธอก็ไม่มีเวลาจริง ๆ เพราะแค่วิ่งราววอร์ด เข้าเวร ทบทวนเนื้อหา ทบทวนความรู้ต่าง ๆ ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากอาจารย์หมอ เธอก็แทบไม่มีเวลานอนแล้ว
“ถ้าอย่างงั้นผมก็เบาใจครับ ผมไม่อยากให้ว่าที่คนรักของผมเจ็บป่วย เพราะเวลาเธอเจ็บผมก็เจ็บไปด้วย”
“…”
“ขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรคุณกลับไป”
“ถ้าอย่างนั้นไปคิดเงินเลยไหมครับ ผมว่าแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว อีกอย่างผมก็ไม่อยากให้คุณซื้อไปทีละเยอะ ๆ เดี๋ยววันหลังผมจะไม่ได้พาคุณมาอีก”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
“ขับรถดี ๆ นะครับ” ยิ้มละมุนส่งให้หญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะนั่งประจำคนขับ แต่รอยยิ้มนั้นกับทำอะไรเธอไม่ได้เลย ‘คุณคงจะรักมันมากสินะครับ หึ’ จากยิ้มละมุนเปลี่ยนเป็นยิ้มร้ายทันทีที่อีกฝ่ายขับรถออกไปจนลับสายตา ก่อนที่มาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน
“แปลกแฮะ ทำไมไฟไม่สว่างนะ” เมื่อขับรถมาได้สักพักเสียงหวานก็ร้องขึ้นด้วยความสงสัย ปกติทางกลับคอนโดของเธอไฟจะสว่างตลอดหนิ แถมรถก็สวนไปมาประจำ ไม่ได้ดูเปลี่ยว ๆ แบบนี้
“ช่างเถอะคงจะเสียมั้ง”
ขับรถไปได้สักพักเธอก็รู้สึกว่ารถเริ่มบังคับยากขึ้น พวงมาลัยก็ดูเหมือนจะหนักขึ้นอีกด้วย
“ฉันพึ่งไปรับแกกลับมา แกจะมาพังตอนนี้ไม่ได้นะ”
เอี๊ยดดด
“อ้ะ” เพราะรถเริ่มส่ายไปมา และเริ่มบังคับลำบากมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เธอตัดสินใจชะลอความเร็วและจอดรถไว้ข้างทางที่เห็นว่ามีหลอดไฟสว่างติดอยู่ แต่การเบรกก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ดีหน่อยที่เธอคาดเข็มขัด ไม่อยากนั้นคงได้มีหัวโนแน่
มือบางรีบความหาโทรศัพท์ก่อนจะต่อสายหาบิดาผู้เป็นที่รักทันที รถเสียแบบนี้แถมยังตอนกลางคืนอีก การโทรบอกให้พ่อมารับเป็นทางเดียวที่เธอนึกออก ไม่สิใจจริงเธอยากจะโทรหาใครอีกคนมากกว่า แต่การที่เขาขาดการติดต่อไปนานแบบนี้เธอไม่แน่ใจเลยว่าเขาจะรับสายและยอมมาช่วยเหลือเธอรึเปล่า
“คุณพ่อสายไม่ว่าง งั้นก็โทรหาคุณแม่”
ตึด ตึด ตืดด อีกเช่นเคยไม่ว่าพ่อหรือแม่ก็ได้ยินเสียงดังเป็นจังหวะแสดงให้รับรู้ว่าปลายสายติดสายอยู่ ไม่ใช่ว่าคุณพ่อกับคุณแม่กำลังคุยกันอยู่หรอกนะถึงสายไม่ว่างพร้อมกันทั้งคู่แบบนี้
ก๊อก ๆ
“สวัสดีน้องสาว มีอะไรให้พวกพี่ช่วยไหมครับ” ทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะกระจกและเสียงพูดของคนด้านนอกนภาพัชรก็เช็คดูทันทีว่าเธอกดล็อกประตูแน่นหนาหรือไม่ ไม่ได้เผลอไปกดปลดล็อกให้คนข้างนอกเปิดเข้ามาได้
“คุณพ่อก็สายไม่ว่าง คุณแม่ก็สายไม่ว่าง แล้วแบบนี้กอหญ้าจะทำยังไง ฮึก กอหญ้ากลัวฮือ ๆ” เมื่อติดต่อคนในครอบครัวไม่ได้ แถมข้างนอกยังมีเหล่าชายฉกรรจ์ที่เธอไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหนมาล้อมรอบรถเธอไว้พร้อมกับเคาะกระจกรถเธอไม่หยุดอีก มือบางที่ถือโทรศัพท์ไว้สั่น ๆ อย่างตื่นตระหนก ไม่รู้ว่าจะติดต่อความช่วยเหลือจากใครดี แต่ตอนนี้คนเดียวที่เธอนึกถึงก็คือเขา…
“รับสายนะเคน ฮึก รับสายหญ้านะ ขอร้องล่ะ” ทันทีที่กดต่อสายไปหาชายหนุ่มที่มักจะเป็นคนปกป้องเธอตลอดไม่ว่าเธอจะมีอันตรายใด ๆ เสียงหวานสั่น ๆ ก็ภาวนาให้เขารับสายเธอทันที แต่จนแล้วจนรอดสายก็ตัดไป เขาไม่รับสายเธอ…
“ฮึก อย่าใจร้ายกับหญ้าเลยนะ หญ้าขอร้อง” ว่าที่คุณหมอตัดสินใจโทรไปหาเขาอีกครั้ง ถ้าหากว่าครั้งนี้เขาไม่รับ…เธอก็คงต้องติดต่อหาตำรวจ… “ใช่แล้วโทรหาตำรวจ ทำไมเธอคิดไม่ได้ตั้งนานนะกอหญ้า” เมื่อคิดได้ดังนั้นก็เตรียมจะกดวางสายเพื่อจะโทรหาตำรวจอย่างที่คิดไว้ แต่ยังไม่ทันที่จะกดวางปลายสายก็กดรับเสียก่อน
“…”
“ฮึก เคนช่วยหญ้าด้วย ฮือ ๆ หญ้ากลัว”
“เกิดอะไรขึ้นกอหญ้าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”
“หญ้าไม่รู้ ฮึก มันมืดไปหมดเลย”
“หยุดร้องไห้แล้วตั้งสติก่อนกอหญ้า กดเข้าห้องแชทแล้วแชร์โลมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะไปหา แล้วห้ามวางสายด้วย”
“ฮึก อย่าดุหญ้าได้ไหม ฮือ ๆ”
ก๊อก ๆ
“น้องสาวเปิดประตูให้พวกพี่เถอะ มีอะไรก็ลงมาพูดคุยกันดี ๆ”
“เสียงอะไรกอหญ้า บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ร รถหญ้าเสีย แล้วมีใครไม่รู้มาเคาะกระจกรถหญ้า ฮือ ๆ หญ้าไม่รู้ว่าพวกเขามากันกี่คน แต่น่าจะหลายคนมาก ๆ แล้วพวกเขาก็ดูน่ากลัวมาก ๆ เลยเคน หญ้ากลัว ฮือ ๆ หญ้ากลัว”
“ไม่ต้องกลัวนะ ฉันกำลังออกไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามลงจากรถเข้าใจไหม เข้าใจที่ฉันพูดรึเปล่ากอหญ้า!”
“หญ้าเข้าใจ ฮือ หญ้าเข้าใจแล้ว” เสียงเข้มที่พูดมาตามสายทำให้เธอตอบกลับเขาไปด้วยความตกใจ
“ฉันจะรีบไปหาเธอให้เร็วที่สุด ฉันสัญญา”
“ฮือ รีบ ๆ มานะเคน” แค่เขารับโทรศัพท์เธอ เธอก็ดีใจมากแล้ว พอได้ยินเขาให้สัญญาว่าจะรีบมาหาเธอให้เร็วที่สุด ความกลัวที่มีก็ค่อยเบาลงทันที พร้อมกับตั้งสติคอยตอบคำถามที่เขาถามมาเป็นรถระยะว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไง
ตึบ ตึบ เคร้ง
“กรี๊ดดดดดดด”
“กอหญ้า เกิดอะไรขึ้น! ได้ยินที่ฉันพูดไหมกอหญ้า”
“…”
“โธ่เว้ย!” จากที่ขับออกมาด้วยความเร็วอยู่แล้วก็เพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัว เมื่อติดต่อหญิงสาวในดวงใจไม่ได้ แถมก่อนติดต่อไม่ได้เธอยังกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ไหนจะเสียงกระจกที่แตกนั่นอีก เขาไม่น่าชะล่าใจให้ลูกน้องกลับมาก่อน หลังจากขับรถติดตามดูแลความปลอดภัยแต่เกิดคลาดกัน เขาประมาทไปจริง ๆ ที่คิดว่าหลังเธอซื้อของอยู่กับไอศรันย์แล้วเธอก็จะขับรถกลับบ้านตามปกติ จริงอยู่ที่เธอขับรถกลับบ้านตามปกติ ที่มันไม่ปกติคือลูกน้องเขาไม่สามารถติดตามดูแลความปลอดภัยเธอให้ถึงที่หมายเหมือนเก่า และก็บังเอิญที่รถเธอมาเสียอย่างพอดิบพอดี อย่าให้เขารู้นะว่ามันเป็นแผนของศัตรูคนไหน เขาสัญญาเลยถ้าเธอเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว เขาจะไม่ปล่อยมันไว้แน่!
แค่เสียงที่เธอกรีดร้องอย่างหวาดกลัว และเสียงร้องไห้สักอึกสะอื้น หัวใจเขาก็บีบรัดอย่างเจ็บปวด ถ้าเธอเกิดเป็นอะไรขึ้นมาหัวใจที่ด้านชาที่มันอ่อนไหวให้เธอเพียงคนเดียวมันจะไม่ล้มเหลวเลยงั้นหรอ
