11 ขาดการติดต่อ
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” เสียงทุ้มที่ดังอยู่ใกล้ ๆ ทำให้พิมพ์นภาต้องหันไปมอง ก่อนจะตอบปฏิเสธอีกฝ่ายกลับไป
“อ้ะ” ทันทีที่พยายามจะลุกขึ้นด้วยตัวเอง ขาที่อ่อนแรงอยู่แล้วก็
เซน้อย ๆ พร้อมที่จะล้มลงไปจูบพื้นอีกครั้งทันที
“เป็นอะไรไหมครับ”
“ม ไม่ค่ะ ขอบคุณนะคะ” ฝ่ามือน้อย ๆ ออกแรงผลักเขาให้ออกจากตัวทันที ก่อนจะเอ่ยขอบคุณ เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกไม่ดีกับอ้อมกอดของคนแปลกหน้าคนนี้ก็ไม่รู้ ทั้ง ๆ ที่เขาแค่มาช่วยรับเธอไว้ไม่ให้เธอล้มลงไปเท่านั้น
“แน่นะครับว่าไม่เป็นไร…แล้วนี่จะเดินไปไหนครับ ให้ผมช่วยพยุงไปส่งไหม”
“ถ้าอย่างนั้นรบกวนด้วยนะคะ” จากที่จะปฏิเสธอย่างในทีแรก แต่พอลองก้าว ๆ ดูแล้วกลับไม่ไหวอย่างที่คิด ก็เลยต้องยอมรับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้าในที่สุด
“ผมศรันย์นะครับ ไม่ทราบว่าคุณ…”
“ฉันชื่อกอหญ้าค่ะ” อีกฝ่ายชงมาแบบนี้เธอจึงตอบไป เพื่อไม่ให้เสียมารยาท ไหน ๆ เขาก็เป็นคนช่วยเธอ
“แล้วนี่คุณกอหญ้ามาทำอะไรที่โรงพยาบาลหรอครับ หรือว่าคุณไม่สบายตรงไหนรึเปล่า”
“ฉันสบายดีค่ะ ฉันเป็นแพทย์ฝึกหัดอยู่ที่นี่น่ะค่ะ”
“อ๋อ อย่างนั้นหรอครับ”
“นี่ก็ใกล้เวลาทำงานฉันแล้ว ถ้ายังไงฉันขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” ศีรษะโค้งคำนับอีกฝ่ายน้อย ๆ เป็นการขอบคุณ ก่อนจะพยายามฝืนร่างกายเดินเข้าไปในห้องเพื่อเตรียมตัวทำงาน
“ยินดีครับ ไว้เจอกันใหม่นะครับ”
“ทำไมวันนี้ดูใจลอยจังเลยล่ะกอหญ้า เธอไหวแน่ใช่ไหม” พรชิตาเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง วันนี้เพื่อนของเธอใจลอยจนถูกอาจารย์หมอดุไปถึงสามรอบ ทำไมจะไม่ให้เธอห่วง ถูกดุก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสียใจแม้แต่น้อย ถ้าเป็นเธอถูกดุขนาดนั้นคงได้ยืนน้ำตาซึมไปแล้ว หรือถ้าเป็นก็หญ้าที่ปกติก็คงต้องมีน้ำตาซึมโทรไปให้เคนโอ๋บ้างล่ะ แต่นี่ถึงเวลาพักแล้วก็ยังนั่งเหม่ออยู่เลย
“เมื่อกี้พราวว่าไงนะ”
“หญ้ามีปัญหาอะไรรึเปล่า ปรึกษาพราวได้นะ”
“หญ้าโอเค”
“แล้ววันนี้ได้เอารถมารึเปล่า จะให้พราวไปส่งไหม”
ใบหน้าสวยส่ายไปมาเป็นการตอบเพื่อนไป
“ถ้าอย่างนั้นให้พราวไปส่งนะ”
“หญ้าไม่รบกวนพราวดีกว่า วันนี้หญ้ามีเวรด้วย ขอบคุณนะ”
“งั้นพราวอยู่เป็นเพื่อนหญ้าดีกว่า พราวเป็นห่วงหญ้า ไว้หญ้าลงเวรแล้วพราวก็จะไปส่งหญ้าด้วย ห้ามปฏิเสธพราวด้วยล่ะ…ไม่งั้นพราว…” ยังไม่ทันที่พรชิตาจะพูดจบเสียงทุ้มที่เธอพยายามหลบหน้าเจ้าของเสียงนั้นมาโดยตลอดก็ดังขึ้น
“ว่าไงสาว ๆ พี่ซื้อกาแฟมาฝาก นี่ของหญ้าครับ อะนี่ของเธอ”
“พราวขอซื้ออะไรมากินระหว่างรอหญ้าก่อนนะ” พูดจบก็เดินออกไปเลยทันที ไม่แม้แต่จะสนใจแก้วกาแฟที่คุณหมอหนุ่มรุ่นพี่ยื่นมาให้แม้แต่น้อย
ส่วนคนที่เหม่อมาทั้งวันก็ได้แต่พยักหน้าตอบเพื่อนสาวไปตามเดิม สมองเธอคิดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนและเมื่อเช้านี้ เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ บทจะแสนดีก็แสนดีจนเธอหลงรักหัวปักหัวปำ บทจะใจร้ายก็ทำเอาเธอน้ำตาร่วง ปวดหนึบในใจอยู่หลายวัน
“คนใจร้าย”
“หืม?” คุณหมอหนุ่มที่กำลังจะเอ่ยเรียกให้ว่าที่คุณหมอรับเอากาแฟจากตนไป เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายดูนิ่ง ๆ เหม่อ ๆ ก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยทันที เขานี่นะ? ใจร้าย
“กอหญ้าว่ายังไงนะ พี่ฟังไม่ถนัด”
“ม ไม่มีอะไรค่ะ หญ้าขอตัวนะคะ”
“งั้นก็กินมันสามแก้วนี่แหละ” ภาคภูมิมองแก้วกาแฟในมือตัวเองก่อนจะพูดขึ้น อีกคนก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร จากที่ตามติดหนึบเขาอยู่ดี ๆ ก็หลบหน้าเขาเสียอย่างนั้น ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ส่วนอีกคนที่พึ่งเดินหนีเขาไปก็คงจะเป็นเพราะไอหนุ่ม ป.โท คณะบริหารคนนั้น จะว่าไปช่วงนี้เขาก็ไม่ค่อยเห็นหน้าอีกฝ่ายเลย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นเลิกติดต่อกับน้องหมอที่เขาแอบปลื้มแล้วหรือยัง แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกเฉย ๆ แบบนี้ล่ะ ทั้ง ๆ ที่เขาก็รอเวลานี้มาตลอด แต่อีกคนกลับรู้สึกหวิว ๆ ตอนเธอไม่มาตามติดเขาเหมือนก่อน
“มองแบบนี้ทักเค้าไปเลยดีไหม” เสียงใส ๆ ของเพื่อนสนิททำให้พิมพ์นภารีบกดล็อกหน้าจอมือถือของตัวเองทันที นี่ก็ผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วที่เขาไม่ติดต่อมาหาเธอเลยตั้งแต่วันนั้น เขาทิ้งเธอไปอีกแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอคิดบ้าอะไรอยู่คิดว่าถ้าเขาเป็นของเธอแล้วเขาจะอยู่ใกล้ ๆ วนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวเธอเหมือนเดิมงั้นหรอ ไม่เลย นอกจากเขาจะไม่อยู่ใกล้ ๆ เธอแล้ว เขายังห่างออกไปมากขึ้นกว่าเดิมอีก ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีแต่เธอเท่านั้นที่เป็นฝ่ายตามเขา เป็นฝ่ายส่งข้อความไปหาเขาก่อน เป็นฝ่ายไปเจอเขาก่อน แทบนับครั้งได้เลยที่เขาจะมาหาเธอก่อนบ้าง
“ไม่ดีกว่า ปล่อยไว้แบบนี้นั่นแหละดีแล้ว ถ้าเขาอยากคุยกับหญ้าเค้าคงติดต่อมาเองนั่นแหละ”
“เค้าก็ยังเรียนอยู่ไม่ใช่หรอ ไม่ลองถามกับเพื่อน ๆ เค้าดูล่ะ เค้าอาจจะมีปัญหาอะไรก็ได้นะ”
“เคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครน่ะ เลยไม่ค่อยมีเพื่อน” เหมือนจะมีแต่เธอเท่านั้นที่ดูเขาจะสนิทที่สุด แต่ก็อย่างว่า เป็นได้แค่เพื่อน…
“เอาน่าอย่าเศร้าไปเลย วันนี้ป๊าพราวจะขึ้นมาหา ไปดินของอร่อย ๆ แก้เครียดกัน เดี๋ยวพราวให้ป๊าเลี้ยงเอง”
“เอางั้นก็ได้ หญ้าก็เริ่มหิวแล้วสิ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ราววอร์ดจนขาลากแล้ว”
“งั้นก็ถล่มป๊าให้เละเลยฮ่า ๆ”
“หัวเราะอะไรกันครับ น่าสนุกเชียว”
“ซื้อกาแฟมาฝากพวกเราอีกแล้วหรอคะพี่หมอ” พิมพ์นภาถามขึ้น
“ใช่ครับ นี่ครับของหญ้า ส่วนเธอพี่ไม่ได้ซื้อมาฝาก”
“ดีแล้วล่ะค่ะ ถึงพี่หมอซื้อมาพราวก็ไม่เอาอยู่ดี”
“เดี๋ยวสิ แล้วนั่นจะไปไหน”
“เราเป็นอะไรกันคะ ทำไมพราวต้องบอกพี่หมอด้วย”
“พี่ซื้อชิพฟ้อนมะพร้าวอ่อนมาฝาก เห็นวันก่อนเธอบ่นอยากกิน แต่ว่าที่ร้านคิวยาว เจ้าของร้านเป็นคนรู้จักพี่พอดี พี่เลยไปขอลัดคิวมันมาให้….ส่วนว่าที่เราเป็นอะไรกัน…จะให้พี่พูดมันตรงนี้จริง ๆ หรอ”
“หยุดเลยนะคะ ห้ามพูดมันออกมา” มือบางเอื้อมไปปิดปากของคุณหมอหนุ่มที่กำลังจะพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาต่อหน้าเพื่อนสนิททันที ก่อนจะส่งสายตาดุ ๆ ไปให้เขา ให้ตายเถอะแต่ก่อนตอนรู้จักกันใหม่ ๆ ตอนที่เธอแอบชอบเขา ตอนที่เขาตามจีบเพื่อนเธอ เขาดูติ๋ม ๆ เรียบร้อยกว่านี้นี่ มาตอนนี้เขาดูมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวขึ้นซะจนเธอตามไม่ทันเลย จากที่เคยเป็นฝ่ายรุกเขาก่อน ไหงตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถูกรุกเสียอย่างไงอย่างนั้น แถมคุณป๊ายังสนับสนุนเขาอีก ฮรือ
“หึ”
“คืนนี้เดี๋ยวพี่ไปหานะครับ” เสียงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูทำให้เธอรีบดึงเอาขนมที่อยู่ในมือเขาไปทันที ก่อนจะรีบเดินหนีออกมา
“ยังไงคะสองคนนี้ หญ้าพลาดอะไรไปรึเปล่าคะ” วันนั้นเพื่อนเธอยังดูตึง ๆ กับพี่หมออยู่เลย มาวันนี้เธอรู้สึกว่ามันเป็นการทะเลาะกันของคู่รักที่กำลังงอน ๆ กันอยู่มากกว่า
“ไม่มีอะไรหรอก พี่ไปดูคนไข้ก่อนนะ” เรื่องราวความสัมผัสระหว่างเขากับพรชิตา แน่นอนอยู่แล้วว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น เรื่องมันเกิดขึ้นจากวันนั้นวันที่เธอเมา เธอโทรหาเขาให้เขาไปรับ แล้วให้พาไปส่งคอนโด จากนั้นเธอก็รุกเขาก่อน เธอคงจะคิดว่าเขาเป็นคนเรียบร้อย ยั่วยังไงเขาก็ไม่สนใจ แต่เขาก็ผู้ชายนะ ถึงจะอยู่แต่กับหนังสือ ดูแต่คนไข้แต่เรื่องพวกนี้เขาก็ต้องมีอารมณ์ก็ต้องรู้อยู่แล้วทั้งในภาคปฏิบัติและทฤษฎี เพราะเขาก็ไม่ใช่จะอายุน้อย ๆ ก็นั่นแหละ
หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอก็เหมือนจะไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ เธอก็ตีตัวออกห่างเขาไป จนไม่กี่วันก่อนที่เขามีนัดดูตัวกับว่าที่คู่หมั้นที่แม่หามาให้ เพราะกลัวว่าเขาจะอยู่ครองโสดไม่มีเมีย
ทำแต่งาน จนท่านไม่ได้อุ้มหลาน ท่านก็เลยจัดการหาลูกสะใภ้ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่ามันบังเอิญหรือฟ้าลิขิต เพราะคนที่เป็นคู่หมั้นเขาก็คือยัยเด็กนักศึกษาแพทย์ extern ที่เอาแต่หลบหน้าเขามาเป็นอาทิตย์ สีหน้าเธอตอนนั้นเขายังจำมันได้ดีเลยล่ะ ตอนที่รู้ว่าต้องหมั้นกับเขา หึ
…
“เธอเป็นไงบ้าง”
“ก็ไปทำงานกลับบ้านปกติครับ แต่เอ่อดูเหมือนว่าจะมีคนมาวอแวเธอครับ”
“ใคร”
“ไอศรันย์ครับ”
“เป็นไปได้ยังไง ก็ในเมื่อมัน…”
“นี่ครับ” ภาพถ่ายจำนวนหลายใบถูกส่งให้ผู้เป็นนาย ทันทีที่เห็นภาพของคู่แค้นของต้น ใบหน้าหล่อก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที หลายอาทิตย์ก่อนเขาจัดการมันไปแล้วหนิ และเขาก็เช็คจนแน่ใจแล้วด้วยว่ามันไม่มีลมหายใจแล้ว แล้วนี่มันอะไรกัน ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจว่าจะอยู่เคลียร์งานคืนนี้ให้เสร็จแล้วจะกลับไปกอดเธอให้หายคิดถึง ให้มีแรงทำงานต่อ แต่แบบนี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเลื่อนเวลาในการเจอเธอไปอีกแล้วสิ
“ฉันคิดถึงเธอจังเลยกอหญ้า…” น้ำเสียงแห่งความคิดถึงพูดกับภาพในมือถือที่เขาเป็นคนถ่ายเก็บไว้ รูปที่แสดงอยู่บนหน้าจอตอนนี้เป็นภาพวันนั้น วันที่เขาและเธอเป็นหนึ่งเดียวกัน ภาพใบหน้าจิ้มลิ้มหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข แก้มนวลแดงน้อย ๆ อย่างน่ารัก ปากสวยได้รูปขึ้นสีชมพู แถมยังบวมเจ่อและช้ำหน่อย ๆ จากการกระทำที่ของเขา ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะลูบไล้มันด้วยความคิดถึง
