บท
ตั้งค่า

บทที่สอง เจ้าแม่ความสวยความงามแห่งยุค

วันนี้เป็นวันที่อากาศดีอย่างหาได้ยาก เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าไร้ก้อนเมฆ อากาศก็เย็นสบายตัว ช่างเหมาะเจาะสำหรับออกมาเดินเล่นให้อารมณ์ขุ่นมัวในใจหายเป็นปลิดทิ้งยิ่งนัก

คนที่อารมณ์ไม่ดีเพราะถูกจำกัดงานอดิเรกแสนโปรดอย่างการคิดค้นกลิ่นหอมไม่เหมือนใครอย่างจางหรงผิงกำลังเดินทอดน่องนำสาวใช้ประจำตัวของตนเองออกมาเดินเล่นหัวตลาดเมืองซีฉิน

อากาศดีเช่นนี้เหมาะแก่การเดินเล่นฉะนั้นวันนี้จึงมีผู้คนสัญจรเดินสวนกันไปมากันให้ควั่ก แม่ค้าพ่อค้าแต่ละแผงห้างร้านแข่งกันแหกปากเรียกความสนใจลูกค้า

เสียงชาวบ้านสนทนาเรื่องของคนอื่นดังออกมาจากร้านน้ำชาที่ร่างบางเดินผ่าน

โดยรวมแล้วการที่นางตัดสินใจออกมาเดินเล่นเช่นนี้นับว่าถูกต้องแล้ว

จางหรงผิงเริ่มหายน้อยใจบิดาและพี่ชายแล้วที่ขัดความสุขของลูกสาวอย่างนาง

พออารมณ์กลับมาคงที่สมองก็เริ่มคิดได้ว่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเพราะความเอาแต่ใจไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพวกเขาด้วยส่วนหนึ่ง

นางเพียงแค่ปรารถนาอยากทำสิ่งที่ตนเองต้องการให้จบโดยเร็วจึงบ้าระห่ำอยู่แต่ในห้องปรุงเครื่องหอมจนพวกเขาเป็นห่วง

ที่นางรีบเพราะคิดว่าชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอนอยู่ดี ๆ ซูเปอร์สตาร์สาวอย่างนางก็หมดอายุขัยโผล่มาในอีกที่หนึ่ง นางมีความกลัวในส่วนลึกในหัวใจ...ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่นางจะหมดอายุขัยในชาตินี้อีกเช่นกัน

ช่างเถอะ นางจะถือว่าตนเองพักร้อนประจำปีก็แล้วกัน

จางหรงผิงสวมชุดสีแดงสวยสดลายดอกเหมยสีขาวตรงคอและแขนเสื้อตัดด้วยสีฟ้า คู่กับกระโปรงลายเดียวกันผนวกกับรูปโฉมของนางที่งามเพริศพริ้งดูสวยสง่าไม่เหมือนคุณหนูที่เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องปรุงเครื่องหอมคนเมื่อเช้าเลยสักนิด

เวลาออกมาข้างนอกบ้านทีนึงหญิงสาวผู้เป็นคนรักสวยรักงามไม่น้อยไปกว่าใครจึงมักแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยความประณีตอยู่เสมอ

“ลู่ชิง ข้าได้ยินมาว่าที่หอเครื่องประทินโฉมมีสินค้าใหม่ที่ได้มาจากพ่อค้าเรือสำเภาแดนไกล พวกเราลองไปดูกันเถอะเผื่อมีสิ่งใดน่าสนใจ”

“เจ้าค่ะคุณหนู”

หลังจากสองนายบ่าวมาถึงหอเครื่องประทินโฉมที่ใหญ่ที่สุดในตลาดกลางเมืองซีฉินได้แล้ว จางหรงผิงเดินนำเข้าไปเดินดูสินค้าภายในโดยมีพนักงานของร้านคอยเดินมาแนะนำเป็นระยะ ๆ ยามว่างจากการดูแลลูกค้าคนก่อนหน้า

วันนี้พนักงานในร้านไม่สามารถดูแลลูกค้าตัวต่อตัวได้เนื่องจากข่าวลือเรื่องสินค้าใหม่แพร่ออกไป บรรดาคุณหนูตระกูลมีเงินจึงแห่มาจับจ่ายสินค้ากันไม่ขาดสาย

จางหรงผิงเดินดูในร้านเกือบทั่วแล้วเหลือบริเวณสุดท้ายได้แก่ บริเวณสินค้าใหม่ ดวงตาเรียวทอดมองมาแต่ไกลเห็นสินค้าบนชั้นหมดไปหลายชนิดเสียแล้ว

ดูท่าลูกค้าที่ต้องการสินค้าจะมีจำนวนมากกว่าสินค้าที่มีอยู่ในที่สุดปัญหาก็เกิดขึ้น

“แป้งฝุ่นไข่มุกตลับนั้นเป็นของข้า”

เสียงหวีดแหลมของคุณหนูหน้าขาว ด้านหลังมีสาวใช้เดินตามหลังมาสองคน เสียงนางดังขึ้นในขณะที่คุณหนูหน้าตางดงามหมดจดคนหนึ่งกำลังเอื้อมมือเรียวไปหยิบตลับแป้งสีขาวไข่มุกเงาสะท้อนแสงตลับสุดท้ายที่ตนเองหมายตา

ทว่ามิได้มีแค่นางที่หมายตาตลับแป้งตลับสุดท้ายนี้น่ะ คุณหนูใบหน้างดงามทว่าเหมือนทาแป้งผิดสีทำให้หน้าขาววอกนั้นรีบเดินเข้ามาหมายแย่งแป้งตลับดังกล่าวด้วยเช่นกัน

“ข้าหยิบได้ก่อนไยข้าจึงต้องมอบมันให้คุณหนูด้วย”

“แต่ข้าเห็นก่อน ข้าจองตั้งแต่เดินเข้าร้านแล้วนะ มอบมันให้ข้า”

“ไม่”

“นี่! งั้นข้าซื้อต่อจากเจ้าก็ได้”

“ข้าไม่ได้ต้องการเงินเช่นกัน”

ดังนั้นจึงเกิดเป็นสงครามแย่งชิงขนาดย่อมทำให้พนักงานต่างวิ่งกรูกันเข้ามาดูแลห้ามทัพก่อนเรื่องลุกลามใหญ่โต

จางหรงผิงเองก็ถูกดึงดูดความสนใจด้วยเช่นกัน ทีแรกนางเพียงปรารถนาเข้ามาดูความเป็นไปล่าสุดเรื่องความสวยความงามของสตรียุคนี้ หากเรียกง่าย ๆ ตามยุคสมัยของนางคือ เข้ามาอัปเดตเทรนด์ นั่นแหละ ว่าช่วงเวลานี้มีสิ่งใดมาใหม่น่าสนใจหรือไม่

จางหรงผิงไม่ใช่คนเปลี่ยนแปลงตนเองตามใคร นางมักมีจุดยืนความงามในแบบที่เหมาะสมกับตนเอง แต่งหน้าแล้วดึงจุดเด่นกลบจุดด้อยของตนเองมากกว่าแต่งแล้วสวยเหมือนคนนั้นคนนู้น

ดังนั้นชาติที่แล้วจางหรงผิงจึงเป็นดาราที่ได้ฉายาว่าเจ้าแม่ความสวยแห่งยุคทีเดียวเชียว

“เสียดายแทนคุณหนู บ่าวได้ยินมาว่าแป้งตลับนั้นทำจากผงไข่มุกจากทะเลไกล ทาไปบนหน้าแล้วจะทำให้ผิวเปล่งประกายสว่างไสวราวกับมีดวงอาทิตย์ส่วนตัวเชียวนะเจ้าคะ แต่ว่าหมดเสียแล้ว”

หญิงสาวมองเรื่องวุ่นวายไม่ไกลอย่างสนใจก่อนหันมากระซิบกับสาวใช้ของตนเอง

“แป้งตลับนั้นข้าเองก็สนใจอยากรู้ว่าดีจริงอย่างที่เขาร่ำลือกันหรือไม่ แต่จะให้ข้าไปแย่งด้วยอีกคนก็สงสารพนักงานในร้านมากกว่า ดูสิ คุณหนูคนที่มาแย่งดูท่าเป็นคุณหนูลูกขุนนางมีอำนาจในเมืองของเราจึงกล้าวางอำนาจบาตรใหญ่ ส่วนสตรีที่มาก่อนท่าทางก็มิใช่สตรีชาวบ้านทั่วไปเพราะนางเองก็มีสาวใช้เดินตามมาด้วย อืม ข้าว่าข้าอยากทำบุญช่วยเหลือพนักงานร้านนี้สักหน่อย ปะ พวกเราไปช่วยพวกเขาคลี่คลายเรื่องหน่อยดีกว่า”

“ดะ เดี๋ยว เจ้าค่ะคุณหนู คุณหนู....ซวยแล้ว ข้าซวยแล้ว”

ลู่ชิงรับใช้คุณหนูตนเองมาเกือบห้าปีไยจะไม่รู้ว่าเจ้านายตนเองนั้นหาได้เป็นสตรีประเภทชอบยื่นมือไปช่วยเหลือผู้อื่น

ในทางตรงข้ามคุณหนูของลู่ชิงนั้นเจ้าแผนการมีเล่ห์กลหลอกล่อผู้คนให้ตกลงมาในหลุมของตนเองมานักต่อนักแล้ว ตัวอย่างที่มีให้เห็นอยู่ทนโท่ก็บิดาและพี่ชายของคุณหนูนั่นอย่างไรเล่าที่ไม่เคยกำราบคุณหนูให้อยู่ในโอวาทได้สักที

ลู่ชิงไม่มัวคิดเพ้อเจ้อต่อ บ่าวสาวรีบเดินตามติดเจ้านายตนเองเข้าไปร่วมวงความวุ่นวายทันทีด้วยความเป็นห่วง

มิได้ห่วงเจ้านายตนเองนะ นางเป็นห่วงคนอื่นมากกว่า

“คุณหนูทั้งสองท่านได้โปรดใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ ร้านของพวกเราขอแสดงความเสียใจสุดซึ้งที่มิสามารถมีสินค้าให้ครบทั้งสองท่านได้ แต่แป้งตลับชนิดนี้จะมีเข้ามาเติมอีกทีเดือนหน้านะเจ้าคะ หะ....”

“ข้าต้องการวันนี้ไม่ใช่เดือนหน้า ข้ามีเหตุจำเป็นต้องใช้ในอีกไม่กี่สิบวันนี้เพื่อร่วมงานเลี้ยงขุนนางระดับสูงของเมืองซีฉิน เจ้าเสียสละให้ข้าเถอะ ข้าว่าข้าจำเป็นมากกว่าเจ้า”

“คุณหนูพูดง่ายยิ่งนักนะเจ้าคะ ไม่มีทาง!”

สตรีท่วงท่างามสง่าไม่อยากเถียงต่ออย่างไร้ประโยชน์จึงเดินถือตลับแป้งต้นเหตุแห่งปัญหาเลี่ยงไปหมายไปจ่ายเงินแล้วกลับเสีย ทว่านางกับสาวใช้ของตนเองกลับโดนคนของคุณหนูไร้มารยาทดักปิดกั้นทางไว้

“อะ เอ่อ คุณหนูทั้งสองท่านอย่าทะเลาะกันที่นี่เลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าน้อยจะไปตามท่านหลงจู๊มาช่วยเจรจานะเจ้าคะ ได้โปรดใจเย็นก่อนเถิด” พนักงานอีกคนวิ่งไปตามหลงจู๊ของร้านมาทันที ส่วนพนักงานที่เหลือก็พยายามพูดปลอบประโลมลูกค้าคนอื่นในร้านที่มีทั้งบุรุษและสตรีให้ไม่แตกตื่น

“คุณหนูคนงามทั้งสองท่าน ในฐานะที่ข้าเป็นคนเคยใช้สินค้าประเภทแป้งผงไข่มุกชนิดนี้มาก่อนจึงปรารถนาอยากแนะนำพวกท่านได้หรือไม่เจ้าคะ”

อยู่ดี ๆ ก็มีสตรีโฉมงามเจ้าของใบหน้าผุดผาดงดงามโผล่หน้าเข้ามาในเหตุการณ์ที่เกือบจะเรียกได้ว่าทะเลาะวิวาทของสตรีสองฝ่าย

“....”

ไม่แปลกที่คนอื่นที่เหลือจะงงเป็นไก่ตาแตก

“เจ้าเป็นใคร”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel