บทที่สองจุดสอง
“มิใช่คนใหญ่โตใดหรอกเจ้าค่ะ ข้าเป็นสตรีคนหนึ่งที่ชื่นชอบความสวยงามเหมือนพวกท่าน แหม สตรีคนใดบ้างเล่าไม่อยากสวย”
ดวงหน้ายิ้มละไมดูงดงามทรงเสน่ห์สะกดใจผู้คนยิ่งนัก ท่วงท่าการเดินเข้ามาดูเป็นมิตรหวังดีมากกว่าหวังร้ายทำให้สองสตรีเผลอจ้องมองตาค้างด้วยความชื่นชมในความงดงามโดดเด่นของอีกฝ่ายไม่น้อย
พอพวกนางรู้ตัวก็พากันเชิดหน้าชูคอขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง
“ข้านามว่าหรงผิง เคยใช้แป้งที่ผลิตมาจากผงไข่มุกบริสุทธิ์มาก่อนจึงรู้ว่าแป้งชนิดนี้มิใช่ว่าสตรีทุกคนจะเหมาะกับมันเจ้าค่ะ”
จางหรงผิงเคยใช้เมื่อชาติที่แล้วของตนเอง นางอยู่ในวงการที่ต้องใช้ใบหน้าหาเงินจึงชำนาญเรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี
“เจ้าดูถูกข้าว่าไม่เหมาะสมกับมันอย่างนั้นรึ รู้หรือไม่ว่าข้าคือใคร บิดาข้าเป็นถึงผู้ช่วยเจ้าเมืองซีฉินเชียว เจ้าริอ่านเอ่ยวาจาสามหาวเช่นนี้ ข้าจะ...”
“ช้าก่อนสิคุณหนูผู้ยิ่งใหญ่” จางหรงผิงลอบเหลือบตามองบนอย่างรำคาญเล็กน้อยก่อนกลับมายิ้มละไมเช่นเดิมแนบเนียน “ข้ายังเอ่ยไม่จบสักหน่อย”
“....”
“แป้งที่ทำจากไข่มุกทาไปแล้วทำให้ใบหน้าขาวสว่าง หากสตรีที่มีสีผิวขาวดุจหิมะบริสุทธิ์อยู่แล้วเช่นพวกท่านทั้งสองคนทาลงไปทั้งหน้าไม่คิดว่าจะทำให้หน้าขาววอกมิเกินงามไปหรอกหรือเจ้าคะ”
ตอนจางหรงผิงพูดว่าขาววอกผู้คนที่มายืนมุงโดยรอบเหลือบมองใบหน้าของคุณหนูวางอำนาจโดยไม่ได้นัดหมาย ก็หญิงสาวผิวพรรณดั้งเดิมขาวผ่องดีอยู่แล้วเชียวทว่าทาแป้งหนาผิดสีจนลดจุดเด่นของตนเองลง
“หากให้ข้าแนะนำตามประสบการณ์ของตนเอง คุณหนูผู้พูดเก่งท่านนี้ลองซื้อแป้งสีนี้ทาบริเวณกรอบหน้าดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ทะ ทาอย่างไร”
แม้ว่าคุณหนูผู้เป็นถึงบุตรีของผู้ช่วยเจ้าเมืองจะมีทิฐิแค่ไหนพอเห็นใบหน้างดงามผุดผายของคนพูดแล้วนั้นก็อดยอมลดศักดิ์ศรียอมถามกลับไม่ได้
มีสตรีใดไม่อยากสวยบ้างเล่า ตอนที่นางอยู่เมืองหลวงนั้น นางต้องการงดงามเป็นเลิศที่สุดแข่งกับคุณหนูในเมืองคนอื่น เวลาย้ายตามบิดามาที่เมืองซีฉินก็ย่อมต้องการงดงามเป็นหนึ่งเหนือสตรีใดในเมืองนี้เช่นกัน
“เช่นนี้เจ้าค่ะ” มือเรียวบางถือวิสาสะหยิบตลับแป้งสีที่เข้มกว่าสีผิวของคุณหนูผู้โอ้อวดอำนาจมาทาเกลี่ยบริเวณกรอบหน้าอย่างชำนาญ
ชาติที่แล้ววิธีนี้เรียกว่าการคอนทัวร์
เป็นวิธีหลอกตา โดยเน้นการใช้เครื่องสำอางสีเข้มกว่าผิว 2 ระดับ เพื่อปกปิดหรือสร้างเงาเพิ่มความลึกกับใบหน้าให้มีมิติมากยิ่งขึ้น
“คุณชายท่านที่ยืนอยู่มุมร้านท่านนั้นเจ้าคะ ท่านคิดว่าคุณหนูท่านนี้งดงามขึ้นหรือไม่เจ้าคะ”
จางหรงผิงเห็นบุรุษรูปงามท่าทางใจดียืนอยู่ไม่ไกลจึงเรียกมาช่วยออกความเห็น
เสียงยืนยันจากบุรุษย่อมมีน้ำหนักในใจของสตรีมากกว่า
“งามขึ้นมากทีเดียว”
“เห็นไหมเล่า จะดูคันฉ่องเองหรือไม่ หากคุณหนูไม่ซื้อแป้งตลับนี้ข้าซื้อเองก็ได้นะ”
“ซื้อสิ เอามานี่”
“หึ”
ท่าทางรีบร้อนแย่งแป้งตลับสีเข้มในมือของอีกฝ่ายช่างน่าขันจนจางหรงผิงอดขำในลำคอไม่ได้
ขณะเดียวกันสตรีอีกท่านนั้นบังเกิดความเห็นด้วยขึ้นมาในใจเช่นกัน จากตอนแรกนางเพียงแค่ต้องการตามข่าวลือที่บอกว่าแป้งนี้ดีเท่านั้น
นางลืมไปเลยว่าตนเองนั้นผิวพรรณขาวผ่องอยู่แล้ว บางทีซื้อกลับไปอาจไม่ได้ใช้ด้วยซ้ำไป
แถมยังต้องมาประสาทเสียเพราะต้องมาถกวาจากับคุณหนูบ้าอำนาจตรงหน้าอีก ดังนั้นเวลานี้จึงรู้สึกได้ไม่คุ้มเสียขึ้นมา มือบางจึงยื่นแป้งไข่มุกตัวต้นเหตุให้อีกฝ่ายอย่างง่ายดายผิดจากตอนแรก
“ข้าเห็นด้วยกับคุณหนูคนนี้ เช่นนั้นแป้งตลับนี้ข้าไม่ต้องการมอบให้คุณหนูเถอะ”
“ข้า ข้าก็ไม่ต้องการแล้วเช่นกัน ข้าจะไปจ่ายเงินแล้วเสียเวลาจริง ๆ วันนี้ เหอะ”
พูดจบก็เดินสะบัดชายชุดออกจากร้านไปโดยไม่รอบ่าวของตนเองจ่ายเงินเอาของเลยสักนิด
“เหอะ คุณหนูท่านนี้นิสัยเอาแต่ใจยิ่งนัก ข้าก็ไม่เอาแล้วเช่นกัน...ต้องขอบคุณคุณหนูหรงผิงด้วยนะเจ้าคะที่มาชี้ทางสว่างแนะนำข้า ไม่เช่นนั้นคงต้องเสียเงินไปเปล่า ๆ”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าแค่ผ่านมาได้ยินเฉย ๆ จึงทนดูไม่ได้”
จางหรงผิงมองตามมือเรียววางตลับแป้งไข่มุกด้วยท่าทีเฉยเมยก่อนยืนส่งยิ้มให้โฉมงามอีกคนหนึ่งตรงหน้าเดินออกจากร้านไปกับสาวใช้ของตนเอง
และยืนรอสักครู่ให้คนมุงสลายตัวแยกย้ายไปดูสินค้าชิ้นอื่นในร้านต่อ
จางหรงผิงจึงค่อยหันมามองตลับแป้งไข่มุกยอดนิยมด้วยดวงตาเปล่งประกาย
“ลี่ชิงหยิบตลับแป้งไข่มุกตลับสุดท้ายนั้นไปจ่ายเงินกันเถอะ”
“อะ อ้าว ไหนคุณหนูบอกว่าแป้งตลับนั้นขาวเกินปะ...”
“ข้าไม่ได้บอกหมดต่างหากเล่า ขาวเกินไปหากทาทั้งหน้าแต่ถ้าทาบางส่วนนั้นจะช่วยดึงจุดเด่นให้โดดเด้งออกมาเล่นแสง จะทำให้คนทางามขึ้นไปอีก คิก ๆ วันนี้ข้าได้ของที่ต้องการแล้ว กลับกันเถอะ”
“จะ เจ้าค่ะคุณหนู”
จางหรงผิงเดินนวยนาดยิ้มอย่างอารมณ์ดีออกมาจากร้านผิดกับสาวใช้ประจำตัวของตนเองที่มีสีหน้างงงวยตามคุณหนูตนเองไม่ทัน
นางไม่ได้แกล้งสตรีสองคนนั้นสักหน่อย สิ่งที่นางพูดออกไปนั้นคือความจริงทั้งหมด แถมวิธีแต่งหน้าให้สวยขึ้นให้พวกนางไปด้วยอีกหนึ่งวิธีถือเป็นของแลกเปลี่ยนที่ทำให้จางหรงผิงได้แป้งที่จะนำมาดัดแปลงเป็นตัวไฮไลต์ใบหน้าตนเอง
ยุคนี้กว่าจะหาเครื่องแต่งหน้าให้ครบไม่ใช่เรื่องยากเลย คนที่ชื่นชอบการแต่งหน้าเพิ่มความงามให้ตนเองอย่างจางหรงผิงจึงรู้สึกดียิ่งที่วันนี้แวะมาดูสินค้าร้านนี้พอดี
