บท
ตั้งค่า

บทที่สาม ท่านอ๋องหวังเจียเล่อ

ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวก้าวเท้าออกจากหอเครื่องประทินโฉมเสียงทุ้มที่จางหรงผิงไม่คุ้นเคยดังขึ้นทำให้นางหันกลับมาสนใจเสียก่อน

“ช้าก่อนคุณหนูหรงผิง”

“หืม ท่านรู้จักข้าด้วยหรือเจ้าคะ”

นางหันหน้ากลับมามองคนเรียก พยายามเค้นความทรงจำแล้วกลับไม่พบใบหน้าของบุรุษรูปงามท่านนี้เลยสักเสี้ยวแวบในสมอง

หล่อขนาดนี้หากรู้จักกันนางต้องจำได้อย่างแน่นอน

“ข้าคือคุณชายที่ท่านเรียกถามความเห็นเมื่อตอนคุณหนูคนก่อนอย่างไรเล่า”

“อ๋อ ข้าลืมไปเสียสนิท มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะจึงเรียกข้า”

“มีเรื่องรบกวนคุณหนูจริงนั่นแหละ ก่อนอื่นข้าขอแนะนำตัว ข้านามว่าหลี่ลู่เหอ มิทราบว่าคุณหนูสกุลใดหรือข้ารู้จักแค่เพียงชื่อ”

หลี่ลู่เหอ นามนี้คุ้น ๆ ทว่าจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินจากที่ไหนเพราะหลายปีที่ผ่านมาจางหรงผิงชื่นชอบการเก็บตัวทำงานอดิเรกของตนเองมากกว่าออกมาพบเจอผู้คนข้างนอกจวน

อาจเป็นเพราะชาติที่แล้วเอียนกับสถานะคนดัง บุคคลสาธารณะกระมัง

หากแต่ท่าทางบุรุษตรงหน้าดูเป็นมิตร หญิงสาวจึงยิ้มตอบกลับอย่างสุภาพ

“ข้าสกุลจาง นามว่าหรงผิงเจ้าค่ะ อืม...คุณชายต้องการให้ข้าช่วยแนะนำเครื่องประทินโฉมใช่หรือไม่เจ้าคะ”

ท่าทางอีกฝ่ายมิใช่บุรุษตัดแขนเสื้อตนเอง การที่เขามาโผล่ในร้านสำหรับสตรีด้วยท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ เช่นนี้ไม่แคล้วกำลังเลือกของขวัญสักชิ้นให้กับน้องสาวหรือไม่ก็สตรีคนรักตนเองสักคน

เขาผลิรอยยิ้มหล่อเหลาทำให้สตรีในร้านโดยรอบหน้าแดงด้วยความขวยเขินยกเว้นแต่สตรีตรงหน้าอีกฝ่ายที่ยิ้มบางรู้ทัน

“คุณหนูเดาได้ถูกต้องแล้ว เมื่อสักครู่ข้าเห็นว่าคุณหนูชำนาญการเลือกอย่างยิ่งจึงอยากรบกวน แต่หากคุณหนูไม่สะดวกไม่ต้องลำบากใจนะ ข้าเลือกเองได้”

“ถือว่าตอบแทนที่คุณชายตอบคำถามได้ตรงใจของข้าก็แล้วกันเจ้าค่ะ ได้เดี๋ยวข้าช่วยเลือก รับรองถูกใจคนรักของคุณชายอย่างแน่นอน”

“ข้ายังไม่มีคนรักหรอก อย่าเข้าใจผิด ข้าต้องการเลือกของขวัญให้น้องสาวร่วมสายเลือดต่างหาก”

“อ๋อ เจ้าค่ะ ข้าไม่มีธุระด่วนที่ไหนพอดี ถือว่าไม่รบกวน”

จางหรงผิงเดินนำเข้าไปข้างในร้านอีกหนส่วนบุรุษที่เข้ามาขอความช่วยเหลือทอดสายตามองตามแผ่นหลังผึ่งผายสะโอดสะองอย่างชื่นชมก่อนออกตัวเดินตามไป

ณ จวนฉินอ๋อง

จวนหลังใหญ่อันโออ่าที่สุดในเมืองซีฉิน เนื่องจากเจ้าของจวนเป็นถึงพระอนุชาคนโปรดของฮ่องเต้พระองค์ปัจจุบัน

ในเมื่อเป็นคนโปรดแล้วไยจึงได้รับการแต่งตั้งให้มาปกครองดูแลรัฐที่ห่างไกลเมืองหลวงเช่นนี้เล่า ไยไม่พระราชทานจวนให้อยู่สุขสบายในเมืองหลวงแทนเล่า

เหตุผลที่ชาวเมืองพูดถึงมีนานัปการ ทว่าสำหรับชาวเมืองซีฉินผู้เป็นกลุ่มคนที่ได้ใกล้ชิดและเห็นฉินอ๋องพระองค์นี้มาหลายสิบปีเห็นพ้องต้องกัน

ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลใดต้องขอบพระทัยฮ่องเต้ที่ทรงพระราชทานผู้นำที่เก่งกาจและปราดเปรื่องสามารถจัดการกำราบชนเผ่ารอบนอกเมืองออกไปจนพวกเขาดำรงชีวิตอยู่ด้วยความสงบสุขมาโดยตลอดได้สักที

ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าไยฉินอ๋องจึงเป็นที่รักยิ่งของชาวเมืองซีฉินแห่งนี้

จวนฉินอ๋องกว้างใหญ่เท่าไร ความเงียบเหงาก็แผ่ขยายครอบคลุมทั่วบริเวณมากเท่านั้น

เนื่องจากวิถีชีวิตของนายของจวนนั้นเรียบง่ายกว่าที่คนนอกจะคาดคิดได้ กิจกรรมส่วนตัวส่วนใหญ่นั้นเจ้าตัวไม่ชอบให้บ่าวก้าวก่ายทำให้ดังนั้นคนรับใช้ทั้งชายและหญิงในจวนนั้นจึงมีจำนวนน้อยกว่าจวนของขุนนางในเมืองบางแห่งเสียอีก

ภายในห้องทำงานใหญ่ของจวน มีเสียงพูดคุยของคนดังแว่วออกมาท่ามกลางความเงียบงันในจวน

หนึ่งเสียงเป็นของท่านพ่อบ้านชราฮุ่ยหมิง

กับอีกหนึ่งเสียงเป็นของ...

หวังเจียเล่อ หรือฉินอ๋อง ผู้ปกครองดูแลรัฐฉินทางทิศประจิมของแคว้นอันประกอบไปด้วยสามเมืองซีฉิน เซียนเปย ซีเอี้ยน โดยชายหนุ่มนั้นดูแลเมืองชายแดนติดขอบแคว้นเซี่ยอย่างเมืองซีฉินเป็นหลัก

หากคนที่ไม่รู้จักฉินอ๋องดีหรือไม่เคยเจอตัวจริงมาก่อนเดินเข้ามาในห้องเวลานี้คงไม่มีทางรู้ว่าอีกคนในห้องนอกจากชายชราคือหวังเจียเล่อ ท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง

ไม่รู้เพราะสาเหตุใดน่ะหรือ...

ภาพบุรุษสวมชุดผ้าไหมเนื้อดีทว่าการออกแบบตัดเย็บเรียบง่ายสีดำสนิททั้งตัว ใบหน้าส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยหนวดขึ้นยาวดกดำจนปิดบังใบหน้าที่แท้จริง ดวงตาฉายแววเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง ขณะเอ่ยปากพูดแต่ละคำแผ่กลิ่นอายเย็นชาทั่วร่างตลอดเวลา

ชายหนุ่มนั่งหลังตรงผึ่งผายอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มือขวามเอื้อมไปหยิบจดหมายหนึ่งฉบับขึ้นมากวาดสายตาอ่าน

“ป่านนี้คนของเสด็จพี่คงเดินทางมาถึงเมืองซีฉินแล้วกระมัง ทรงตั้งใจส่งจดหมายแจ้งพระราชโองการล่าช้าเช่นนี้ไม่ต้องแจ้งข้าเสียยังดีกว่า”

“ฮ่องเต้ทรงตั้งใจส่งคนมาแฝงตัวใกล้ชิดท่านอ๋องอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ คราวก่อนก็ส่งองค์หญิงบรรณาการเจียวเชินมาเป็นสนมของท่านอ๋อง ครานี้ถึงกับส่งขุนนางของตนมาเป็นผู้ช่วยอย่างโจ่งแจ้งเชียวหรือพ่ะย่ะค่ะ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องจะให้กระหม่อมหาเหตุผลส่งกลับไปเลยดีหรือไม่”

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้น เราจะแสร้งรับความหวังดีจากเสด็จพี่เหมือนทุกครั้ง เจ้าให้คนไปจัดการเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับขุนนางใหม่อย่างสมเกียรติเลยก็แล้วกัน”

“พ่ะย่ะค่ะ แล้วเรื่องคำร้องขอของคุณชายจางอี้เซียวเล่าพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องมีความประสงค์ตอบรับหรือไม่”

คำขอจากสหายที่มีใจความว่าต้องการฝากน้องสาวของตนเองไว้ในความปกครองของเขาในระหว่างช่วงเวลาที่จางอี้เซียวและบิดาของเขาไม่อยู่ที่เมืองนั่นเอง

เขาได้ยินกิตติมศักดิ์ความดื้อดึงเอาแต่ความคิดของตนเองของน้องสาวจากสหายมาไม่น้อยดังนั้นจึงเข้าใจว่าต้องการหาคนควบคุมความประพฤตินางและดูแลความปลอดภัยก็เท่านั้น

ซึ่งเขาเองไม่ได้ลำบากใจอันใด เนื่องจากเขาเองปกติก็ไม่ค่อยได้พำนักอยู่ที่เรือนอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่เขามักเข้าป่าหรือไม่ก็ลงพื้นที่ไปดูความเรียบร้อยตามจุดป้องกันเมืองต่าง ๆ

เรียกได้ว่าค่ำไหนนอนนั่นก็มิผิดทีเดียว

ดังนั้นเดี๋ยวให้น้องสาวของสหายมาอยู่ที่นี่เพื่อรับการอบรมสั่งสอนจากหัวหน้านางกำนัลกับท่านพ่อบ้านที่เคยทำงานอยู่ในวังมาก็ไม่เสียหาย

ดูซิว่าจะยังกำราบไม่ได้อีกหรือ

“เรามีเหตุผลใดที่จะปฏิเสธคำร้องขอของสหายของเราหรือ แล้วยิ่งเป็นคำขอจากตระกูลจางยิ่งแล้วใหญ่ เจ้าก็รู้ว่าที่ผ่านมาตระกูลจางช่วยเหลือเราหลายต่อหลายเรื่อง เจ้าให้นางกำนัลในจวนจัดเรือนหลังใหญ่ให้นางก็แล้วกัน สิ่งใดขาดเหลือก็เอาเงินออกไปซื้อหาให้เรียบร้อย”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“อ้อ ฝากหาเรือนใหญ่ห่างจากเรือนของข้าให้มากหน่อย....ข้าไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เสร็จจากการสนทนาพ่อบ้านฮุ่ยหมิงก็รีบเดินออกมาจากห้องออกไปทำตามคำสั่งเจ้านายอย่างเคร่งครัดทันที
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel