บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

ทั้งห้องเงียบไป มัสยาค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่งกลืนก้อนน้ำตาลงคอโดยไม่มีเสียง พร้อมปรับท่าทีให้เป็นปกติราวกับไม่รู้สึกใดๆ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

“คุณตรัยจะกินข้าวที่นี่ใช่ไหมคะ ถ้าไม่ต้องการอะไรแล้ว มัสขอตัว” มัสยากำลังจะลุกแต่ตรัยรั้งตัวเธอให้นั่งลงต่อ

อ้อมแขนที่โอบรัดร่างสาวน้อยไว้ ใบหน้าคมที่เกยบนบ่าบาง ลมหายใจอุ่นๆ ที่รดผ่านข้างแก้ม ฝ่ามือที่สัมผัสอย่างอ่อนโยนกับผิวกาย ทำให้มัสยาน้ำตาคลอขึ้นมาอีกครั้ง เขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกของเล่นที่ยามเอ็นดูก็อ่อนโยน ยามโมโหก็เกรี้ยวกราดใส่ ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรเอาตัวเองไว้ในสถานะไหนและรับมืออย่างไรถึงจะทำให้พอใจได้

“ยังจูบไม่ได้เรื่องเหมือนเดิมนะ แสดงว่าเธอทำตามคำสั่งฉันใช่ไหม” เขากระซิบที่ข้างหู

“คนบ้า” มัสยาหน้าแดงก่ำร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้า ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างพึงพอใจ และรอยจูบที่ข้างแก้มซ้ำๆ ยิ่งทำให้ปั่นป่วนจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน รีบแกะมือที่โอบตัวเองออกเพื่อลุกขึ้น

“จะไปไหน” เขายังไม่ยอมปล่อยซ้ำกอดแน่นกว่าเดิม ดูท่าว่าตรัยอารมณ์ดีแล้วจริงๆ

“ปล่อยได้แล้วค่ะ มัสมีงานต้องไปทำอีก” มัสยาพยายามจะลุกขึ้น

“งานอะไรปล่อยให้คนอื่นทำไป ฉันหิวแล้ว”

“อาหารพร้อมแล้ว คุณตรัยกินได้ตามสบายเลยค่ะ” หญิงสาวขยับตัวออกเล็กน้อยเมื่อตรัยคลายอ้อมกอดนั้น

“แต่ฉันเมื่อย นั่งเครื่องมาตั้งนาน ใจคอจะให้ฉันกินข้าวทั้งเมื่อยๆ เนี่ยนะ”

“ถ้าเมื่อย งั้นเดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว มัสจะให้คนรถพาไปส่งที่ร้านนวดประจำของคุณป้า มัสโทรศัพท์ไปจองคิวให้นะคะ”

“ไม่ต้อง” ตรัยเสียงแข็งพร้อมกับดึงตัวเธอเข้ามากอดอีก

“คุณตรัย ปล่อย”

“ไม่ปล่อย ชอบขัดใจฉันนักแบบนี้มันต้องถูกทำโทษ”

“คุณตรัยจะกินข้าวใช่ไหมคะ ถ้างั้นมาค่ะ”

“เธอต้องป้อนฉัน ไม่งั้นฉันไม่กินหรือว่าจะให้กินอย่างอื่นก่อนกินข้าว” ว่าแล้วตรัยก็ซุกไซ้ลงมาที่แผ่นหลังของมัสยา เจ้าตัวดิ้นหนีและรู้ว่าต้องยอมก่อนจะเกิดอะไรมากไปกว่านี้

“โอเคค่ะ มัสป้อน”

คนหิวข้าวอิ่มเรียบร้อยแล้วด้วยการดูแลอย่างใกล้ชิดของมัสยา ตรัยแทบจะไม่หยิบจับสิ่งใดปล่อยให้หญิงสาวเป็นผู้จัดการหมดทุกอย่าง หนำซ้ำบางครายังต้องใช้จูบหรือแก้มแลกกับการที่เขาจะกินข้าวให้หมดโดยเร็วอีกด้วย

“จะไปไหน” เขาร้องถามเมื่อเห็นเธอลุกขึ้น

“เอาถาดลงไปเก็บค่ะ” มัสยาอยากจะออกไปจากห้องนี้เร็วๆ แล้ว ตั้งแต่เข้ามาเธอเสียทั้งจูบทั้งหอมไปทั้งตัวไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว

“ให้ใครขึ้นมาเก็บก็ได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องเอาลงไปเองเลย ต่อโทรศัพท์ลงไปสิ”

“แต่ว่า...”

“จะเอาออกไปวางแล้วโทร.ลงไปบอก หรือจะให้เด็กขึ้นมาเอาถาดในห้องนี้” ตรัยพูดอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

มัสยาเม้มปากหน้างอเล็กน้อยในที่สุดก็ยอมต่อโทรศัพท์ลงไปให้เด็กขึ้นมาเก็บถาดที่เอาไปวางไว้หน้าห้อง ส่วนตัวเองต้องกลับยืนใกล้ๆ ตรัยที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงนอน

“เมื่อกี้บอกว่ามีหมอนวดเหรอ”

“คุณตรัยอยากจะนวดใช่ไหมคะ เดี๋ยวมัสโทร.จองให้”

“ไม่ต้อง ไม่ได้อยากให้คนอื่นนวด แต่อยากให้เธอนวด” เขาจ้องหน้าคล้ายกับจะยืนยันคำพูด

“มัสไม่เคยนวด แล้วก็นวดไม่เป็น ถ้ายังไงมัสจองให้ดีกว่านะคะ”

ให้ตายเถอะ มัสยาเกินความสามารถในเรื่องนี้จริงๆ เธอเคยติดตามคุณนวลแขไปผ่อนคลายก็จริง แต่ไม่เคยเป็นผู้ใช้บริการแม้แต่ครั้งเดียว

“ไม่ บอกแล้วไงว่าจะให้เธอนวด”

“แต่ว่ามัส...”

“มานี่” เขาดึงเธอลงมานั่งที่เตียง มัสยาขยับจะลุกหนีแต่ตรัยรั้งตัวเธอให้นอนลงในอ้อมแขน

“คุณตรัย จะทำอะไร ปล่อยมัส” มัสยาตกใจพยายามจะลุกหนี “จะนวดให้เองหรือจะให้บอกคุณแม่ว่า เด็กคุณแม่ขัดใจผม”

“มัสจะฟ้องคุณป้า ถ้าคุณตรัยทำอะไรมัส” มัสยาอ้างคุณนวลแข

“แล้วทำอะไรล่ะ” ตรัยแกล้งก้มหน้าลงมาใกล้ๆ แค่นี้มัสยาก็หน้าแดงรอบที่เท่าไรไม่รู้แล้ว

“คุณตรัย อย่านะ”

“เลือกเอาจะนวดเองหรือให้ฉันนวดให้” เขายังไม่วายยั่ว

“ก็ปล่อยสิคะ ไม่งั้นจะนวดได้อย่างไร” มัสยารู้ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันชนะ จึงต้องยอมในที่สุด

ตรัยตะแคงตัวให้มัสยาบีบนวดบ่าและไหล่ สักครู่เธอจึงค่อยๆ ถอยออกห่างเพราะเห็นว่าเขาหลับไปแล้ว แต่ที่ไหนตรัยกลับรั้งมัสยาให้ลงมานอนข้างๆ ใช้ลำแขนแข็งแรงกอดไว้ไม่ให้ไปไหน

เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้มัสยารู้ว่าเขาหลับแล้ว จึงค่อยๆ เคลื่อนตัวเองออกมาจากอ้อมกอดนั้น มัสยาหยุดยืนมองตรัยที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียงในเวลานี้ เธอตัดใจหันหลังเดินออกมาเงียบๆ จากห้องนอนนั้น แล้วกลับไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องนอนของตนซึ่งอยู่ตรงข้าม

เมื่ออยู่ในอาณาเขตของตนแล้ว มัสยาก็ปล่อยโฮใหญ่ร่ำไห้กับความอ่อนแอของตัวเอง พร้อมกับคิดหาทางออกว่าจะทำเช่นไร ถึงจะไม่ต้องตกเป็นของเล่นคนใจร้ายอย่างตรัยได้อีกต่อไป เธอต้องหาทางออกจากวังวนที่แสนทรมานหัวใจนี้ให้เร็วที่สุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel