ตอนที่ 2
“คะ... คะ คุณมัสคะ” น้อยติดอ่างกุมมือมัสยาไว้แน่น
“อะไรน้อย ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด มีอะไร” หญิงสาวปลอบใจคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า
“คะ คุณตรัยค่ะ คุณมัสรีบขึ้นไปดีกว่าค่ะ ไม่งั้นล่ะก็...”
“ไม่งั้นทำไม คุณตรัยทำอะไรน้อยหรือเปล่า” มัสยาเดาว่าตรัยคงจะอาละวาดที่มีคนขัดคำสั่ง เพียงแต่น้อยโดนลูกหลงอะไรหรือเปล่า
“ไม่ได้ทำค่ะ คุณมัสรีบขึ้นไปเถอะ เกิดคุณตรัยโมโหมากกว่านี้ น้อยจะแย่”
“แย่อะไร พูดให้รู้เรื่องสิน้อย” คนฟังสงสัย ยิ่งเห็นท่าทีร้อนรนของน้อยด้วยแล้ว ยิ่งทำให้สงสัยมากขึ้นไปอีกว่าตรัยทำอะไร
“คุณตรัยบอกว่าถ้าคุณมัสไม่ขึ้นมาที่ห้องภายในห้านาทีล่ะก็...” น้อยก้มหน้า มัสยายิ่งอยากรู้มากขึ้นว่าทำไม
“ทำไม พูดให้จบ”
“จะไล่น้อยออก เพราะคุณมัสขัดคำสั่งคุณตรัย คุณมัสขา น้อยไม่อยากโดนไล่ออก คุณมัสต้องช่วยน้อยนะคะ” น้อยเสียงเครือพร้อมวิงวอนขอให้มัสยารีบขึ้นไป
“เดี๋ยวมัสจัดการเอง น้อยไปล้างหน้าล้างตาไป”
“คุณมัสรีบขึ้นไปนะคะ น้อยยังไม่อยากตกงาน”
“ไม่มีใครไล่น้อยออกได้นอกจากคุณป้า ไม่ต้องตกใจนะไปทำงานเถอะ เดี๋ยวเรื่องนี้มัสจัดการเอง” มัสยาเอื้อมมือมาแตะไหล่น้อยเบาๆ เป็นการปลอบใจ รู้สึกผิดที่ทำให้คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องตกใจเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง
มัสยาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องของตรัย เธอไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่อยู่ข้างในอารมณ์ดีร้ายแค่ไหน ที่แน่ๆ เขาคงจะกำลังเตรียมทำหน้ายักษ์ใส่ หรือไม่ก็ใช้คำพูดกระแทกแดกดันอยู่เป็นแน่ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเข้าไปและแน่นอนว่าจะระวังตัวอย่างที่สุด
มัสยาเห็นถาดอาหารวางอยู่ที่โต๊ะในสภาพที่ไม่มีอะไรพร่องไปแม้แต่น้อย ในห้องไม่มีร่องรอยอาละวาดขว้างปาข้าวของ แสดงว่าน้อยคงโดนคำพูดขู่มากกว่าถูกทำร้าย
“มาได้แล้วเหรอ” เสียงตรัยดังขึ้น มัสยาเงยหน้ามองตาเสียง เจ้าของห้องหน้าบึ้งอย่างเห็นได้ชัด พอรู้แล้วว่าน้อยเจออะไร
“จะยืนตรงนั้นอีกนานไหม ฉันหิว”
“อาหารพร้อมแล้ว คุณตรัยจะกินที่นี่หรือจะลงไปที่โต๊ะอาหารคะ” มัสยาถามเสียงเรียบไม่สบตา
“ให้เอาขึ้นมาก็แสดงว่ากินที่นี่ ฟังไม่เข้าใจหรือไง”
“เชิญเลยค่ะ ต้องการอะไรเพิ่มบอกได้เลย จะได้จัดการให้”
“จะให้กินยังไง คนอยู่ตรงนี้กับข้าวอยู่อีกทาง ถาดมันเดินมาเองได้ไหม หรือว่าต้องให้ฉันเดินไปหยิบเอง”
“จะให้วางไว้ไหนคะ” มัสยาหยิบถาดอาหารขึ้นมาถือไว้ รอฟังคำสั่งว่าเขาจะให้เอาไปวางไว้ตรงไหน
นิสัยเอาแต่ใจ ชอบใช้อำนาจเป็นเอกลักษณ์ของตรัย โดยเฉพาะเวลาที่อยู่กับมัสยาเพียงลำพัง เขาจะไม่ยอมขยับทำอะไรแม้แต่จะหยิบแก้วน้ำกินเอง ทุกอย่างต้องเป็นเธอจัดการให้หมด
“ฉันอยู่ตรงไหนก็กินตรงนั้นแหล่ะ”
เขานั่งอยู่ที่โซฟาปลายเตียง เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ มัสยาถึงเห็นว่าพ่อเจ้าประคุณมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันกายไว้หลวมๆ และกำลังนั่งเอกเขนกดูโทรศัพท์ในมืออย่างสบายใจ
มัสยาวางถาดอาหารลงที่โต๊ะด้านข้าง แล้วเตรียมจะหันหลังเดินออกไป แต่เขากลับดึงมือเธอไว้แล้วเอ่ยว่า
“นั่งสิ”
มัสยายืนนิ่งไม่ยอมนั่งตามที่เขาบอก ซ้ำยังพยายามดึงมือที่ถูกกุมไว้ออกอีก แค่ไม่นั่งเขาก็หงุดหงิดจะแย่ แต่นี่เจ้าหล่อนพยายามจะดึงมือออกห่าง
“คุณตรัย ปล่อยค่ะ” มัสยาพยายามดึงมือออก เธอเห็นดวงตาคู่คมวาววับมีประกายความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“อุ๊ย! คุณตรัย!”
ร่างเล็กเซล้มลงมาบนตักของชายหนุ่ม ตรัยพลิกตัวให้มัสยานอนราบไปบนโซฟาแทน โดยเอาตัวตรัยเองทาบทับเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน
“คุณตรัย อย่านะคะ” มัสยาร้องลั่นเมื่อสองแขนของตนถูกตรึงไว้เหนือศีรษะ ก่อนที่ใบหน้าคมของตรัยจะโน้มลงมาใกล้และใช้ริมฝีปากดอมดมจนชื่นใจที่ซอกคอหอมเรื่อยมาจนถึงข้างแก้ม
“อยู่เฉยๆ แล้วตอบคำถามฉัน” ตรัยเอ่ยเสียงพร่า
มัสยาไม่กล้ากระดิกตัวแม้แต่น้อย ลมหายใจร้อนที่รดผ่าวอยู่บนใบหน้าบ่งบอกให้รู้ว่า อารมณ์และความปรารถนาของตรัยมีมากแค่ไหน แต่เขาแสดงออกเพียงแค่จูบซ้ำๆ ที่ข้างแก้มสาวสลับไปมา และซุกไซ้ซอกคอหอมอยู่อย่างนั้น
“คุณตรัย” มัสยาเรียกชื่อเขาเสียงสั่น สัมผัสซ้ำๆ ที่บ่งบอกให้รู้ว่าความปรารถนานั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งสัมผัสนั้นรุนแรงมากขึ้นเท่าไร หัวใจของมัสยาก็สั่นไหวมากขึ้นเท่านั้น เขาปลุกความรู้สึกที่เธอเคยเรียกว่าหลับลึกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง จากที่บ่ายเบี่ยงหนีการสัมผัสของริมฝีปาก กลับกลายเป็นโอนอ่อนผ่อนตามและคล้ายจะโหยหาให้มากขึ้นกว่านั้น
“ตอบฉันสิ มัสยา ทำตามที่ฉันสั่งหรือเปล่า” เขาถามพร้อมกับก้มลงจูบที่ข้างแก้มสาวอีกคราแรงๆ มัสยารับรู้ได้ถึงลมหายใจแห่งความเร่าร้อนจากเสียงหายใจของตรัย
“บอกฉันสิ ว่าทำตามคำสั่งของฉันหรือเปล่า”
“คุณตรัย มัส...” มัสยายังไม่ทันจะเอ่ยตอบ ตรัยก็ไม่อาจทนรอฟังได้
เขาก้มลงมาแนบริมฝีปากอิ่มที่เผยอขึ้นเตรียมจะพูด มัสยาตกใจและไม่อาจต้านทานแรงจูบนั้นได้ ตรัยปลดปล่อยความอึดอัดอยู่ภายในนานถึงสองปีเต็มไปกับจูบนั้น ริมฝีปากสวยบวมเจ่อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเพราะแรงบดบี้ที่แสนเร่าร้อน ไม่ต้องพูดถึงปลายลิ้นที่พลิ้วไหวอย่างบ้าคลั่งภายใน ที่กวาดต้อนทุกสิ่งที่ขวางหน้าให้สยบลงแทบเท้าภายในพริบตา
“ตอบฉันมา มัสยา” เขาถอนริมฝีปากออกมาแล้วเอ่ยถามคำเดิม
มัสยาไม่รู้ว่าจะตอบตรัยอย่างไรดีถึงจะรอดพ้นจากความไม่พอใจ เขาช่างไม่รู้เลยหรือว่ากรงขังที่สร้างไว้ให้ตัวเธอนั้นแน่นหนาแข็งแรงเพียงไร
“มองหน้าแล้วตอบฉันมา” แววตาคู่คมของตรัยจ้องมองใบหน้าหวานอย่างรอคอย มัสยาอยากจะพูดเหลือเกินว่ารู้สึกเช่นไร แต่เขาไม่รอให้เอื้อนเอ่ยคำใด ก้มหน้าลงมาจูบอีกคราอย่างรวดเร็ว
ต้องให้เธอพูดออกมาอีกหรือว่าขัดคำสั่งหรือไม่ แม้สักก้าวมัสยาก็ไม่กล้าออกจากกรงขังนั้นเลย สิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตรัยในคืนนั้น คือกำแพงที่กั้นทุกคนไว้ไม่ให้มีสิทธิ์เข้ามาใกล้ตัวเธอ คำสั่งของเขาคือศักดิ์ศรีของเธอทั้งชีวิต เมื่อศักดิ์ศรีนั้นถูกเขาครอบครองและฉกชิงไปแล้ว มัสยายังจะมีหน้าขัดคำสั่งใดๆ ได้อีก
“ว่าไง จะตอบหรือไม่ตอบ หรือว่าจะต้องให้จูบอีกหลายๆ รอบถึงจะพูดออกมาได้” น้ำเสียงตรัยดูเย็นขึ้น อาจเพราะได้ทำในสิ่งที่ต้องการแล้วกระมัง
“ปล่อยมัสก่อนได้ไหมคะ” มัสยาไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้
“จะไม่ตอบใช่ไหม ถ้างั้นฉันจะจูบจนกว่าเธอจะพูด” เขาไม่ได้ขู่และทำท่าจะเอาจริง
“คุณตรัย อย่านะ” หญิงสาวร้องห้าม
“จะตอบดีๆ หรือจะต้องให้บังคับ” เขาพูดทีเล่นทีจริง
มัสยาเบือนหน้าหนีเมื่อคนเอาแต่ใจก้มหน้าลงมาอีกที ตรัยฮึดฮัดแต่สุดท้ายก็เอาชนะด้วยการตามไล่ล่าบดขยี้ริมฝีปากสวยนั้น จนในที่สุดมัสยาก็ตกอยู่ในรสจูบที่แสนวาบหวามอีกครั้ง และเขาก็เริ่มที่จะรุกไล่มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยฝ่ามือที่ตกลงมากลางอก
“คุณตรัย อย่า” มัสยาจับมือห้ามไว้เป็นเชิงของร้อง แววตาคู่สวยมีน้ำใสคลอเบ้าทำให้ตรัยต้องหยุดแล้วปล่อยตัวเธอเป็นอิสระ
