บทที่6.2นกในกรงทอง
“แกก็กล้าคิด อย่างคุณเซนเนี้ยะนะจะพรากผู้เยาว์ ตระกูลทวิจิรไพศาลนี่ขยันทำบุญจริงๆ ไหนจะบริจาค รับเลี้ยงเด็กกำพร้าอีก นี่สินะ ผลบุญ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จรวยเอ้า รวยเอา ผู้ชายอะไร หล่อวัวตายความล้มได้ขนาดนี้ แกดูฉันสิ อย่างฉันพอที่คุณเซนจะสนใจมั้ย”
“เลิกคิด แกไม่เห็นผู้หญิงของคุณเซนแต่ล่ะคน สวยอย่างกับดารานางแบบ แถมหุ่นแซ้บทั้งนั้น” เสียงงึมงำของพนักงาน ถึงแม้จะจับใจความไม่ได้แต่เซนก็พอจะเดาออก เพราะวัยที่ต่างกันมาก อีกทั้งรูปร่างหน้าตาของชมจันทร์นั้นเด็กเกินกว่าจะเป็นคู่ควง ตอนนี้เขายังไม่อยากถูกมองว่ากินเด็ก
คุณพิมเลือกเสื้อผ้ามาให้ชมจันทร์ลองใส่ สายตาคู่งามถึงกับตาถลนเมื่อเห็นแผ่นป้ายราคา
"โอ้โห!! ทำมั้ยแพงได้ขนาดนี้”
"ไม่ถูกใจชุดไหนบอกนะคะ เดี๋ยวไปเลือกมาให้ลองใหม่ค่ะ”
“มะไม่เป็นไรค่ะ”คนตัวเล็กกลืนน้ำลายอึกใหญ่ แล้วเลือกหยิบชุดราคาที่ถูกที่สุดมากว่าความสวยงามและทันสมัย
ขณะที่เซนรอคนตัวเล็กในห้องลองเสื้อ เขาพักสายตาชั่วครู่ อยู่ๆก็ได้ยินเสียงทักทาย
"คุณเซนนั่นเอง โชคดีจังที่เจอคุณที่นี่ แหม ไม่โทรหาเเก้มเลยนะคะ แก้มคิดถึง แก้มอยากไปทานข้าวกับคุณอีก แล้วก็”เธอไม่พูดเฉยๆ ทว่าหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาใกล้ชิดติดร่างสูงโดยไม่อาย ขณะที่เซนฉายแววตาเย็นชา ท่าทีเหินห่าง เขาโน้มใบหน้าครามคม เกือบชิดดวงหน้าสวยเย้ายวน แล้วยื่นริมฝีปากแนบชิดใบหูหญิงสาว
“ผมไม่กินของซ้ำ”
“ทั้งๆที่เป็นของอร่อยนะเหรอคะ”
“คุณหรือผมกันแน่ที่อร่อย"เขาเผยท่าทีเย็นชาราวกับหญิงสาวเป็นธาตุอากาศ
"เอ่อ ถ้าคุณต้องการแก้มอีก ก็โทรมานะคะ อย่างน้อยแก้มรู้ความต้องการของคุณดีกว่าใครๆ”สาวสวยกดริมฝีปากจูบแก้มของเขา แล้วเดินออกไปจากร้าน จังหวะเดียวกันกับที่ชมจันทร์เดินออกมาจากห้องลองเสื้อพร้อมกับเสื้อผ้าในมือหลายชุด
“ชิ!!” ชมจันทร์มองค้อน
“เรียบร้อยใช่มั้ย”
“ค่ะ”เธอตอบไม่เต็มเสียงนัก เซนลุกยืน ยื่นบัตรให้พนักงาน เขารับบัตรแล้วเดินนำหน้าออกไปจากร้านอย่างว่องไว ทิ้งคนตัวเล็กหิ้วของพะรุงพะรัง
“ช่วยถือหน่อยไม่ได้หรือไง ผู้ชายอะไรไม่มีน้ำใจ” ส่งเสียงพึมพำจนร่างสูงได้ยิน เขาหยุดเดินแล้วหันหลังมามอง ยื่นมือคว้าถุงเสื้อผ้าถือให้ตัดความรำคาญ อีกมือยื่นเกาะกุมมือเล็กไว้มั่น
“เดินให้มันเร็วๆหน่อย”
“ก็ฉันขาสั้น เอ่อ ฉันไม่สูงเหมือนคุณนี่”
เซนมองร่างเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วลอบถอนหายใจ เขาเดินลิ่วๆดึงเธอให้เดินตามแทบปลิวลม
ภายในรถเงียบกริบ เซนหน้านิ่ง ผิดกับชมจันทร์ เธอหน้าระรื่น สายตาคอยมองทรรศนียภาพข้างทางอยู่ตลอดเวลา เพราะรู้ว่าจะได้กลับบ้าน แต่แล้วเส้นทางที่รถขับเคลื่อนกลับไม่ใช่ทางไปบ้านของเธอ
“คุณเซน ไหนคุณบอกว่าคุณจะให้ฉันกลับไปอยู่บ้านไงคะ”
“ผมบอกคุณตอนไหน ว่าให้คุณกลับ คุณคิดเองเออเองทั้งนั้น ทำไมผมต้องให้ทรัพย์สินของผมไปอยู่ที่อื่นในเมื่อผมยังไม่ได้เสวยสุข” เสียงทุ้มราบเรียบ สีหน้าไม่สะทกสะท้าน ผิดกับคนตัวเล็ก ใจของเธอเดือดพร่าน แต่ทว่ายังคงนั่งนิ่งราวกับหุ่น ใบหน้าพิงติดประตูกระจกรถ สีหน้าผิดหวัง ชมจันทร์สะกดกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลริน ภายในรถเงียบกริบอีกครั้งจนถึงบ้านหลังใหญ่ เซนดับเครื่องยนต์แล้วหันมองร่างเล็กนอนหลับสนิท
“ชมจันทร์ ถึงแล้ว ตื่น ชมจันทร์ ผมไม่หลงกลถือของลงไปหมดหรอกนะ ชมจันทร์ ชมจันทร์” เสียงปลุกไร้การตอบสนอง เซนยื่นมือจับปลายคางเล็กพลิกดวงหน้าเรียวเล็กให้หันมาเผชิญหน้า สายตาคมเข้มสะดุดคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนพวงแก้มใส เขาปล่อยปลายคางเล็กมนอย่างรวดเร็วแล้วถอนหายใจ เขาเปิดประตูลงจากรถแล้วไปเปิดประตูอีกฝั่ง ยื่น สองแขนช้อนอุ้มร่างอรชรออกจากรถแล้วเดินเข้าบ้านกลับไปที่ห้อง
เซนตื่นขึ้นแต่เช้า จัดการกับตัวเองจนเรียบร้อยแล้วเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินมาชิดขอบเตียง สายตาคมเข้มทอดมองร่างเล็กนอนหลับสนิทเป็นตายด้วยความเหนื่อยใจ
“ชมจันทร์ ตื่น !! ตื่นมาทำหน้าที่ของคุณได้แล้ว ชมจันทร์” เสียงเข้มดังปลุกเธอจนรู้สึกตัว เพราะได้นอนหลับเต็มอิ่ม
“ห้า…(เธออ้าปากหาว) จะไปทำงานแล้วเหรอคะ” ปรือตามองร่างสูง
“เมื่อคืนคุณคงนอนหลับสบาย”
“ค่ะ แต่ถึงจะหลับสบายยังไงฉันก็อยากกลับไปนอนที่บ้านของฉันมากกว่า” น้ำเสียงประชดประชัน สีหน้าปั้นปึง
“ลุกมานี่หน่อย”
“ทำไมฉันต้องลุกไปหาคุณด้วย”
“หรือจะให้ผมเข้าไปหาคุณ ผมไม่เข้าไปหาอย่างเดียวนะ”
ชมจันทร์รีบลุกจากเตียงเหมือนติดสปริงไปเลือกเนคไท แล้วเดินเข้าไปหาร่างสูงท่าทางขะมักเขม้น ดวงตาคู่สวยพินิจมองร่างสูงแบบหรี่ๆ เขาดูดีมากในชุดสูทสีเข้ม แล้วเธอก็จัดการผูกเนคไท แต่ทว่าเมื่อผูกเสร็จขณะที่เธอกำลังเดินออกห่าง
“ถอดเสื้อรวมทั้งชุดชั้นในออกเดี๋ยวนี้”
“อะไรนะ นี่คุณบ้าไปแล้วหรือไง โรคจิตชัดๆ”
"ผมบอกให้ถอดออก ถ้าคุณไม่ถอด งั้นผมจะถอดให้คุณเอง” เขาใช้กายกำยำดันร่างบอบบางจนชิดผนังห้อง แล้วยื่นมือไปบนเรือนกายขาวอมชมพู ชมจันทร์ตกใจปัดมือใหญ่ออกห่าง พวงแก้มสุกแดงดั่งลูกตำลึง
