บทที่6นกในกรงทอง
ชมจันทร์เงยหน้า พินิจมองใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับต้องมนต์ เขาดูเหมือนคนที่พึ่งพาได้ในเวลาที่ไม่มีใคร ทันใดนั้นมือหน้าก็ประคองท้ายทอยของเธอไว้มั่น ใบหน้าครามคมโน้มต่ำ เซนจูบกลีบปากสีสวยอย่างเร่าร้อนจนคนตัวเล็กเสมือนขาดอากาศหายใจและตกใจในเวลาเดียวกัน
“อื้อ ปะปล่อย!” มือน้อยพยายามผลักดันเขาออกห่าง ขณะที่ร่างสูงจูบเธออย่างกับคนกระหายน้ำ อีกทั้งมือข้างเดียวยังลูบไล้เรือนกายบอบบางอย่างจาบจ้วง
“อื้อ..สะสายแล้ว” ค่ำว่าสายหลุดปากทำให้คนตัวโตหยุดจูบ แล้วปล่อยร่างบางเป็นอิสระ แววตาคมกริบจ้องมองเธอเสมือนเหยื่ออันแสนโอชะ ตามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำสะกดกลั้นอารมณ์ปรารถนา
“คืนนี้ผมจะนอนกับคุณ อย่าให้ผมต้องบังคับ คุณคงไม่อยากเจ็บตัวหรอกใช่มั้ย” เซนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเดินออกไปจากห้องอย่างว่องไว ทันทีที่แผ่นหลังกว้างลับสายตา ชมจันทร์ก็ทรุดนั่งขาอ่อนแรง
“ทำไมฉันถึงต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วย ฉันเกลียดพี่ เกลียด!”
คนตัวโตเดินลงมามาจากชั้นบนด้วยความรีบร้อนผ่านห้องนั่งเล่น ขณะที่คุณลักคณากับสามีนั่งดื่มชา
“เซน ไม่ดื่มกาแฟก่อนหรือ แม่สั่งแจ่มเตรียมให้แล้ว หรือเซนจะรับเป็นอาหารเช้า”
“ไม่ครับ วันนี้ผมสาย”
“ไม่เป็นไร สายสักวันสองวันจะเป็นอะไรไป”คุณลักคณาคะยั้นคะยอ
“ไม่ครับ ผมบอกไม่ก็ไม่! ”เสียงดังจนคุณลักคณารู้สึกแปลกใจ
“เซน เซนไม่สบายหรือเปล่า”
“ผมขอโทษครับคุณแม่”เซนรีบเดินออกจากบ้านทันที
“คุณโรเบิร์ต คุณได้ยินมั้ยคะ ฉันว่าตั้งแต่เซนพาเด็กนั่นเข้าบ้าน เซนดูเปลี่ยนไป” นางหันไปถามสามี
“เซนเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคุณ คุณเลิกจู้จี้จุกจิกกับลูกเถอะ”
“ฉันก็แค่เป็นห่วง ฉันไม่เหมือนคุณนี่ วันๆออกไปตีกอร์ฟกับเพื่อน ไม่ได้อย่างใจเลยจริงๆ” คุณลักคณาเดินหนี ทิ้งบรรยากาศอึมครึมไว้ที่สามีอีกเช่นเคย
คนตัวเล็กโล่งอก เมื่อผู้กุมชะตาชีวิตของเธอไม่อยู่ในห้อง เธอสูดลมหายใจเข้าออกผ่อนคลายจนรู้สึกดีขึ้น
"ฉันจะยื้อเวลาได้อีกนานแค่ไหน คนบ้า! บ้าตัณหา ฉันต้องรอด ต้องรอดให้ได้” บ่นงึมงำพร้อมกับคิดแผนการต่างๆนาๆ
“คุณชมจันทร์ คุณชมจันทร์”แม่บ้านเคาะประตู ส่งเสียงเรียกอยู่หน้าห้อง
“ค่ะ เข้ามาได้”
แม่บ้านเดินเข้ามาในห้อง เห็นสีหน้าวิตกกังวลของหญิงสาวก็อดเป็นห่วงไม่ได้
"คุณคะ คุณมีอะไรไม่สบายหรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ นั่นเสื้อผ้าของชมหรือเปล่าคะ”
“ค่ะ คุณเซนสั่งมาเพื่อคุณชมเลยนะคะ”แม่บ้านส่งเสื้อผ้าให้ ชมจันทร์รีบรับไว้และท้องก็เริ่มหิว ทันใดนั้นเธอก็คิดได้ว่าอยากลงไปกินข้าวข้างล่างเพื่อสอดส่องสายตามองดูรอบๆบ้านหลังใหญ่
"คุณป้าคะ คือว่า ชมจันทร์อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวข้างล่าง กินแต่ในห้องนี้ มันน่าเบื่ออุดอู้ ชมจันทร์ไม่หนีหรือทำเรื่องเดือดร้อนหรอกค่ะ นะคะคุณป้า"
"อย่าเลยค่ะ ยังไม่มีคำสั่งจากคุณเซน เดี๋ยวป้ายกอาหารมาให้นะคะ "
"แต่ว่า…” ยังไม่ทันได้พูดอะไรมาก แม่บ้านก็เดินออกไปจากห้อง
ชมจันทร์นั่งกินข้าวมื้อเย็นที่แม่บ้านนำมาให้ภายในห้องใหญ่ที่เปรียบเสมือนกรงขัง เธอกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยเต็มปากเต็มคำ ไม่ได้สังเกตุคนที่เปิดประตูเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ เซนเห็นคนตัวเล็กนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ข้าวบนช้อนคำโต แถมยังกินเร็วแทบไม่ได้เคี้ยว
“เดี๋ยวก็ติดคอตาย”เสียงทุ้มเข้ม
ชมจันทร์หันไปมองเจ้าของเสียงก็สำลักทันที ไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเร็ว อีกทั้งยังอยู่ในชุดลำลองดูสมาร์ท
“แคร่กๆๆๆ น้ำๆ”เธอไอจนตัวโยน คนตัวสูงส่ายหน้าแล้วรินน้ำใส่แก้วยื่นให้
"ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือขึ้นทุบหน้าอกเป็นจังหวะจนรู้สึกดีขึ้น
“ทำไมคุณกลับมาเร็วคะ”
เซนกวาดสายตามองร่างบอบบางทั่วทั้งตัว แล้วเดินไปนั่งบนโซฟาใกล้หญิงสาว
“อิ่มแล้วใช่มั้ย ผมจะพาคุณไปซื้อของใช้ส่วนตัว”
“ ที่นี่ก็มีครบทุกอย่าง ฉันไม่เรื่องมากใช้อะไรก็ได้ หรือว่า คุณ คุณจะให้ฉันกลับบ้าน ดีเหมือนกัน ฉันอึดอัด อีกอย่างคุณแม่ของคุณก็ไม่ค่อยชอบฉันด้วย ฉันสัญญาว่าฉันจะพยายามหาเงินมาใช้ให้ครบ ให้ฉันกลับไปอยู่ที่บ้านนะ นะคะ ฉันไม่หนี ฉันสัญญา นะ นะคะ คุณเซน” เสียงหวานออดอ้อน ดวงตากลมโตมองท่าทีคนตัวสูงรอฟังคำตอบที่แน่ชัด
“แคร่กๆ อืม อย่าลืมสัญญาที่พูดเมื่อกี้ด้วยแล้วกัน ผมไม่อยากใจร้าย” เซนลุกยืนเต็มความสูงแล้วเดินนำหน้า ส่วนชมจันทร์ก็รีบเดินตามแผ่นหลังกว้างไปอย่างมีความหวัง เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หยุดฝีเท้า แล้วหันมาเผชิญหน้ากับคนตัวเล็กเธอแหงนหน้าประสานแววตาคมกริบเผยยิ้มหน้าระรื่น เซนถึงกับรีบเบือนหนี
ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เซนพาชมจันทร์ไปร้านเสื้อผ้าสตรี ทันทีที่ทั้งคูเดินเข้าไปด้านใน พนักงานต่างพากันจับตามองเธอด้วยความแปลกใจมากกว่าหญิงสาวคนอื่นๆที่เซนพามาก่อนหน้า เพราะรูปร่างหน้าตาของเธอดูอ่อนวัยมากกว่าคู่ควง
“สวัสดีค่ะคุณเซน ร้านพิมยินดีต้อนรับค่ะ ใครคะเนี้ยะ หน้าตาน่ารัก จิ้มลิ้มเชียวค่ะ”
“เอ่อ...น้องสาวบุญธรรม ครอบครับผมพึ่งรับมาจากต่างจังหวัด คุณพิมช่วยหาชุดที่ทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้หน่อย สักสิบชุด”
“ค่ะ เชื่อสายตาพิมได้แน่นอนค่ะ”
เซนเดินไปนั่งรอที่โซฟา พิมเจ้าของร้านรีบเดินไปใกล้ร่างเล็กบอบบางพาเธอไปเลือกเสื้อผ้าด้วยความเอ็นดู พ้นสายตาเจ้าของร้าน พนักงานลูกจ้างได้โอกาสก็ส่งเสียงกระซิบกระซาบต่อกันเป็นทอดๆด้วยความสงสัย
“โล่งอก ฉันก็นึกว่าคุณเซนเปลี่ยนสเปค อยากจะควงเด็กซะอีก แบบที่พวกเสี่ยชอบเลี้ยงต้อยไง”
