บทที่3 พบหน้า
"ฮือ…” ชมจันทร์ร่ำไห้ มือไร้เรี่ยวแรง ปล่อยมีดหลุดมือ กรคว้ามีดขึ้นมา แล้วทำท่าจะแทงตัวเอง
“อย่า!!ขอเวลาฉันคิด”
“ตอนเย็นฉันจะมาเอาคำตอบ ฉันยอมรับว่าฉันมันเป็นพี่ที่ไม่เอาไหน ฉันทำเรื่องเดือดร้อนให้แกตลอด แกวางใจเถอะ คุณเซนดีกว่าไอ้แก่นั่น ฉันถึงเลือกเขา”กรเดินออกไปจากห้อง
ชมจันทร์คิดถึงอดีต กรเป็นลูกคนละแม่ พ่อเดียวกัน แม่ของชมจันทร์เป็นภรรยาน้อย เธอถูกเลี้ยงดูโดยแม่ของกร เพราะแม่ของเธอเสียชีวิตเมื่อเธออายุสามขวบ ในวัยเด็ก กรจะดูแล เป็นบอดี้การ์ดปกป้องเธอเสมอ จนกระทั่งครอบครัวประสบปัญหาด้านการเงิน ทั้งพ่อและแม่ของกรหย่าล้างเลิกลา มีครอบครัวใหม่ ทั้งคู่ก็ยังเลือกที่จะอยู่ด้วยกัน ดูแลกัน
อลาโน่ เซน ประธานกรรมการบริษัทอลาโน่เซน เขาถูกจัดอยู่ในหมวดแรไอเท็ม เป็นชายหนุ่มที่ครบเครื่องเรื่องรูปร่างหน้าตาและฐานะ มีชื่อเสียงทางสังคม แต่เก็บตัว ไม่มีใครรู้เรื่องที่เขามีอารมณ์สองขั้ว นอกจากคุณลักคณา เซนแอบรักษาอยู่เงียบๆ แถมเขายังมีอาการนอนไม่หลับ สาเหตุเพราะถูกคนรักหักหลังและจมอยู่กับอดีตตลอดสี่ปี ปัจจุบันเซนเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากที่ไม่เคยยุ่งกับผู้หญิง ตอนนี้เขาใช้ผู้หญิงเปลืองเป็นว่าเล่น แถมยังถูกขนานนามว่าเป็นคาสโนว่าตัวท้อป เขาควงปากกาสีดำสนิทวนไปวนมา
"คุณเลขา มีเอกสารให้ผมเซนต์อีกมั้ย”
“ไม่มีแล้วค่ะ”
“ประชุมบ่ายนี้ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ ผมไม่เข้าประชุม อ่อ. ถ้ามีผู้หญิงที่ชื่อชมจันทร์มาขอพบผมให้เธอเข้ามาได้เลย” เซนวางปากกาสีทอง แล้วเอนแผ่นหลังพิงพนักเก้าอี้คลายความเมื่อยล้า
"รับทราบค่ะ" เลขาสาววัยสามสิบหกเผยยิ้ม แล้วเดินออกไปทำงานตามหน้าที่
เซนนั่งเก้าอี้หมุนไปมา สายตาเหลือบมองนาฬิกาทุกๆสิบนาที จนเลยเวลานัดหมายมาเกือบชั่วโมง สมองที่ปลอดโปร่งในตอนแรกก็เริ่มหงุดหงิด ทันใดนั้นเขาก็ลุกจากเก้าอี้ เดินไปคว้าเสื้อสูทเดินออกจากห้องทำงานอย่างว่องไว ขณะที่เท้าใหญ่ก้าวฉับๆก็ปรากฏหญิงสาวร่างเล็กบอบบางวิ่งหน้าตาตื่น ผมยาวยุ่งเหยิง บนใบหน้าประกอบด้วยแว่นตาหนา เธอสวมเสื้อแขนยาว กางเกงวอร์ม รองเท้าผ้าใบ ชมจันทร์ไม่ทันได้มองด้วยความเร่งรีบจึงชนร่างสูงอย่างจัง เธอหงายหลังก้นกระแทกพื้น
“โอ๊ย!!เจ็บ ไม่เห็นหรือไง”
“ไม่ ผมต่างหากที่ต้องถาม” เซนตอบเสียงเข็มแล้วกวาดสายตามองร่างเล็กกองกับพื้นตรงหน้าเสมือนเห็นหญิงสาวอายุสิบหก
ชมจันทร์ขยับกายลุกยืน ถึงแม้จะเจ็บก้นแต่ก็ก้าวเท้าไปยืนประจัญหน้าเทียบความสูงอย่างเห็นได้ชัดระหว่างร้อยแปดสิบห้ากับร้อยห้าสิบแปด เธอเงยหน้า ขยับแว่นตา กัดริมฝีปากล่างระงับโทสะ
“ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ชั่งเถอะ ฉันไม่มีเวลามาเอาเรื่องคุณ ฉันรีบ ชิ!”
“คุณเซนคะ!!คุณเซน” เสียงเลขาดัง เธอเดินอย่างเร่งรีบมาที่เจ้านาย
“มีอะไร”
“คือ ผู้หญิงคนนี้ที่มาขอพบคุณค่ะ”
“ผู้ชายหน้าดุคนนี้ คือ คนที่ฉันมาพบเหรอ” ชมจันทร์ตาโต ส่วนเซนก็จ้องเธอไม่อยากเชื่อสายตา เพราะภาพที่เขามโนไว้สำหรับคู่นอนถึงแม้จะไม่เคยเห็นหน้าแต่ทว่าใบหน้าของกรนั้นดูดีและคิดว่าเชื้อคงไม่ทิ้งแถว พอได้เห็นวันนี้ถึงกับอยากฉีกสัญญาทิ้งและจับกรเข้าคุกทันที
“คุณเซนคะ มีอะไรให้เอื้องช่วยมั้ยคะ”เห็นเจ้านายเงียบไปนาน
“ไม่ คุณเอื้องแค่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดก็พอ” เซนตอบ แล้วยื่นมือไปคว้ามือเล็กของชมจันทร์ไว้แน่น กึ่งดึงกึ่งลากให้ตามเขามาทุกฝีก้าว
“มากับผม”
“จะไปไหน ไม่ ฉันไม่ไป ฉันแค่มาตกลง มีบางอย่างที่พอจะคุยกันได้ ฉันจะคุยที่นี่ ปล่อย!!”ชมจันทร์สะบัดมือ
“เงียบ!!” เซนเสียงเข้ม เขาฉายแววตาดุใส่ จนคนตัวเล็กยอมจำนนตามร่างสูงมาถึงรถคันโก้ ภายในรถเงียบสงบ ไม่มีเสียงพูดคุยจากทั้งคู่ เซนขับรถไปเรื่อยๆไม่นานเขาก็เอ่ยถาม เพราะตั้งแต่เซนต์สัญญาเรียบร้อย กรก็ออกจากงาน เงียบหายไป
“พี่ชายคุณอยู่ไหน ผมต้องการพบพี่ชายคุณ”
“ฉันไม่รู้ ฉันเองก็ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เมื่อเช้า”
“ติดต่อเขาให้ได้ ผมมีธุระจะคุยกับพี่ชายคุณ”ท่าทางขึงขัง
“ถ้าฉันติดต่อได้ ฉันไม่มาหาคุณหรอก ที่ฉันมาพบคุณก็เพื่อมาขอความเมตตา” เธอสะท้อนแววตาน่าสงสาร อีกทั้งยังเสียงอ่อน เซนจอดรถชิดขอบทางแล้วหันหน้ามาประสานแววตาน่าสงสารภายใต้แว่นตาหนา
“เมตตา หึ!ผมเป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่นักสังคมสงเคราะห์ แล้วยิ่งกับคนที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอย่างพี่ชายคุณ ผมควรมีเมตตาหรือไง น่าผิดหวัง ให้ตายเถอะ จะไม่มีการพูดคุยหรือต่อรองอะไรทั้งนั้น จนกว่าคุณจะติดต่อพี่ชายได้ บอกให้เขามาพบผม”เซนมีสีหน้าขึงขัง เขาขับรถเร็วอย่างกับติดจรวดไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นตา
“นี่คุณ!! คุณจะไปไหน เรามาตกลงเรื่องสัญญากันใหม่เถอะ ฉันทำงานบ้านเก่งนะ หาเงินเก่งด้วย ฉันจะให้เงินคุณทุกเดือนเลยจนกว่าจะครบห้าล้าน คุณก็เห็นแล้วว่าฉันไม่สวย ไม่เซ็กซี่ หุ่นก็งั้นๆถ้าคุณต้องการเรื่องอย่างว่า ฉันหาผู้หญิงสวยระดับดาราให้คุณได้เลยนะ เจ๋งใช่มั้ยล่ะ”
“เป็นแม่เล้าหรือไง”
“เปล่า ฉันรู้จักผู้หญิงสวยๆเยอะ หลายคนพร้อมที่จะทำแบบนี้ ฉันจ่ายให้คุณก็ได้”
เอี๊ยด!! เซนเบรกกระทันหัน เขาจอดได้อย่างปลอดภัย แล้วหันหน้าไปจ้องมองคนตัวเล็กด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ชมจันทร์ยกมือลูบคลึงหน้าผากตัวเองคลายความเจ็บ
“ขับรถภาษาอะไรเนี้ยะ ดีหัวไม่แตก”
