ชู้รักคุณหมอ - 4
พรพนิตที่ยืนข้างเตียงเอ่ยแล้วเอื้อมมือไปกุมมือเหี่ยวย่นของท่านบีบให้กำลังใจ แม่ของเธอเป็นทั้งความดัน เบาหวาน และโรคไต นี่แหละที่เป็นสาเหตุให้เป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่โรงพยาบาล ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนท่านป่วยแค่ความดันกับเบาหวาน ท่านก็ยังดูแลตัวเองได้ แต่พอไตวายเฉียบพลันต้องผ่าตัดด่วน ท่านก็อ่อนแรง แม้จะฟอกไตทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละสองครั้งก็ตามเถอะ แต่ท่านก็ออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ เพราะอาการของท่านต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาล หากว่าพาไปอยู่ที่บ้านแล้วเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินแล้วพามาส่งโรงพยาบาลไม่ทัน ท่านอาจจะจากเธอไปได้ และนั่นไม่ใช่สิ่งที่พรพนิตจะรับได้ เธอจึงให้ท่านพักที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้แพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ
เมืองเมามองคนตัวเล็กด้วยสายตาชื่นชมก่อนจะเอ่ยขึ้น
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ก่อนจะเดินออกไปนั้น เขาไม่ลืมยกมือไหว้ผู้ป่วยแล้วหันไปส่งสายตาเป็นคำสั่งกับพรพนิตด้วยหางตา ก่อนจะเดินจากไป
“วันนี้ลูกไม่ไปไหนเหรอน่ารัก” นางถามลูกสาวทันทีเมื่อเหลือกันสองคน
“เดี๋ยวจะออกไปแล้วค่ะแม่ พอดีวันนี้นัดกับข้าวทำวิจัยต่อ”
“อือ...ไปเถอะลูก แม่ก็จะนอนพักผ่อนแล้ว แม่อยู่คนเดียวได้”
“แม่ไม่ต้องคิดมากนะคะ หนูไม่ได้เหนื่อยลำบากอะไรเลยถ้าเทียบกับการมีแม่อยู่กับหนูในแต่ละวัน น่ารักรักแม่นะคะ”
“แม่ก็รักน่ารัก ไปเถอะลูก ขนาดวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็ไม่ได้หยุด ว่าแต่ฝึกงานที่บริษัททัวร์ใกล้จบยังลูก”
“อีกสองอาทิตย์น่ารักก็ฝึกงานจบแล้วมาทำวิจัยให้เสร็จ ถ้าผ่านก็คือทำเรื่องจบได้เลยค่ะ”
“แม่ภูมิใจในตัวลูกนะน่ารัก และแม่ก็เชื่อว่าพ่อเราที่อยู่บนฟ้าก็ต้องภูมิใจในตัวน่ารักเหมือนแม่” นางบอกลูกสาวยิ้มๆ
“น่ารักจะทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจในตัวหนูค่ะ ไปนะคะ เพราะต้องกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนจะไปหาข้าวค่ะ” แล้วเธอก็เดินออกไปจากห้องของแม่ทันที
พลอยมองลูกสาวเดินจากไปแล้วก็ข่มตานอนต่อ หลายวันมานี้เธอรู้สึกเหนื่อยในใจแปลกๆ ทั้งๆ ที่ความดัน เบาหวาน และค่าของไตก็ดีมาตลอด แต่ทำไมถึงได้รู้สึกเหนื่อยกัน อาจเพราะคิดมากเรื่องค่าใช้จ่ายและเป็นห่วงลูกสาวมากจึงทำให้รู้สึกเครียดเหนื่อยในใจ
“หมอเมา” พอเปิดประตูห้องออกมาก็เจอกับเขายืนคุยโทรศัพท์อยู่หน้าประตู เธอรู้ว่าเขารอเธอและเธอก็ดีใจที่เขายืนรอเธอที่หน้าห้อง แต่พอได้ยินเสียงเขาตอบกลับคนในสายก็ก้มหน้ามองเท้าตัวเองด้วยใจที่ขมขื่นทันที
“ครับมีมี่ เดี๋ยวตอนเย็นพี่ไปรับที่บ้านนะครับ” แล้วเขาก็กดวางสายแล้วเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อกาวน์สีขาวของตัวเองแล้วเอ่ยพูดกับหญิงสาวตัวเล็กที่ก้มหน้ามองเท้าตัวเองต่อ
“คุยกับแม่เสร็จแล้วเหรอ จะไปไหนไหมวันนี้”
“น่ารักนัดกับข้าวไว้ที่หอพักค่ะ”
“ไปทำวิจัย?”
“ค่ะ น่ารักต้องรีบแก้ส่งอาจารย์จะได้จบพร้อมกับฝึกงานเสร็จค่ะ” เธอบอกเขาโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นสบตา
“คุยกับฉันเงยหน้าด้วย เราไม่ใช่คนอื่นกันนะน่ารัก แล้วคืนนี้ไปนอนที่คอนโดด้วย ฉันจะไปนอนที่คอนโด”
“ค่ะหมอเมา” เธอเงยหน้าตอบเขา
“เธอเนี่ยนะ...ยิ่งนับวันก็ทำตัวไร้ชีวิต น่าเบื่อ” แล้วเขาก็เดินจากไปทันที ส่วนคนที่ถูกมองว่า ‘น่าเบื่อ’ ก็หัวตาร้อนผ่าวทันที มือน้อยยกมือปาดป้ายรอบดวงตาด้วยกลัวว่าน้ำตาจะไหลออกมา เธอกำมือตัวเองแน่นเข้าหากันแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดให้กำลังใจตัวเอง ก่อนจะเดินจากไปจากหน้าห้องพักฟื้นของแม่
ในตอนบ่ายหม้อข้าว สาวหน้าหวานผมซอยสั้นร่างเล็กเพรียวระหงแต่ใจเป็นชาย แน่นอนว่าเธอรู้สึกดีกับพรพนิต แม้ว่าพรพนิตจะให้ตัวเองได้แค่เพื่อน แต่เธอก็ขอดูแลและขอเป็นคนแรกที่หญิงสาวคิดถึงแม้ไม่ได้เป็นคนรัก แต่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และหม้อข้าวก็รู้ดีว่าตอนนี้เพื่อนรักนั้นได้อยู่กับนายแพทย์เมืองเมา ผู้ที่ออกค่ารักษาและรักษาแม่ของพรพนิต เพื่อนบอกแค่ไหนก็แค่นั้น เธอเองก็ไม่กล้าซักไซ้มากความ หากพรพนิตอยากเล่าจะเล่าเองไม่ต้องถาม รู้เท่าที่หญิงสาวอยากให้รู้พอแล้ว
