ชู้รักคุณหมอ - 5
“น่ารักว่าเรากลับกันดีกว่าข้าว” เมื่อมาถึงหน้าโรงหนังเธอก็เกาะแขนเพื่อรักที่ร่างเป็นหญิงใจเป็นชายทันที
“ได้ไง เรามาถึงหน้าโรงหนังแล้วนะ ไหนน่ารักบอกอยากดูหนังเรื่องนี้ไงล่ะ”
“แต่เรายังทำวิจัยไม่เสร็จเลยนะข้าว”
“ดูจบค่อยทำก็ได้นี่ ไปกันเถอะ ข้าวจองตั๋วแล้วนะ”
“ก็ต้องดูสินะ เพราะจองตั๋วไว้แล้ว” แล้วเธอก็ยอมให้หม้อข้าวดึงลากเดินเธอเข้าไปในโรงหนัง
“ไปกันเถอะ หนังสองชั่วโมงครึ่งเองน่ารัก อีกอย่างเราดูจบแล้วก็ทานข้าวกันค่อยกลับไปทำวิจัยที่หอพักเราได้นี่”
“แต่เราคงไม่ได้กลับด้วย เราต้องรีบกลับ เพราะมีธุระ” เธอไม่อยากกลับช้าด้วยกลัวว่าเมืองเมาจะโกรธ
“งั้นพรุ่งนี้...”
“ลืมแล้วเหรอพรุ่งนี้เราต้องไปต่างจังหวัดกับบริษัททัวร์นะ กว่าจะกลับก็เย็นเลย กลับมาก็เหนื่อยอีก ไม่มีเวลาทำหรอกข้าว”
“อย่าคิดมากเลยน่ารัก ยังไงเราก็ทำวิจัยจบพร้อมกับฝึกงานจบแน่นอน ไปกันเถอะ มาดูหนังให้ผ่อนคลายกันก่อนนะ” แล้วหม้อข้าวก็ดันหลังของพรพนิตเข้าไปในโรงหนัง อีกมือก็ส่งยื่นตั๋วหนังให้พี่พนักงานตรวจ
นางผกาและนายเมืองหลวงมองลูกชายที่เลื่อนเก้าอี้ให้ว่าที่ลูกสะใภ้แล้วก็อดยิ้มเอ็นดูไม่ได้ เมืองเมาและปณิตาเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก นางก็คาดหวังว่าเมื่อทั้งคู่แต่งงานกันแล้วจะมีหลานตัวน้อยๆ มาให้เลี้ยงแก้เหงาสองสามคน และหากลูกเหมือนพ่อกับแม่จะน่ารักน่าชังมากเลยทีเดียว
“มีมี่ทานเยอะๆ นะจ๊ะ วันนี้ตาเมาบอกแม่ว่าหนูมีมี่อยากกินผัดพริกแกงทะเล แม่เลยสั่งให้เด็กรับใช้ทำให้หนูมีมี่เป็นพิเศษเลยจ้ะ” ผกาบอกคู่หมั้นของลูกชาย
“ขอบคุณนะคะคุณแม่ ขอบคุณพี่หมอเมาด้วยนะคะ จำได้ด้วยว่ามีมี่อยากกินอะไร” หญิงสาวเอ่ยขอบคุณพร้อมยกมือไหว้ท่านแล้วหันมาขอบคุณคู่หมั้นหนุ่มตัวเองที่นั่งข้างตัวเองและเขากำลังส่งยิ้มให้เธอ
“ทุกเรื่องของมีมี่ พี่จำได้หมดครับ เดี๋ยวพี่ตักให้นะครับมีมี่” เมืองเมาเอ่ยหยอดหวานแล้วตักผัดพริกแกงให้หญิงสาว
“ขอบคุณนะคะพี่หมอเมา”
“ยินดีรับใช้คุณหนูมีมี่ตลอดชีวิตเลยครับ”
อะแฮ่ม!
เมืองหลวงส่งเสียงกระแอมดังขึ้นเมื่อตอนนี้ลูกชายเริ่มลืมไปแล้วว่ามีตัวเองและภรรยานั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารด้วย
“อะไรกันครับพ่อหลวง” เมืองเมารู้ว่าพ่อกำลังหมั่นไส้เลยเลิกคิ้วถามพร้อมส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้
“เบาได้เบาลูก พ่อกับแม่ก็อยู่ด้วย ว่าแต่พาน้องไปดูชุดแต่งงานหรือยังตาเมา ไม่ใช่วันๆ อยู่แต่โรงพยาบาลนะ”
“เรื่องนั้นพ่อไม่ต้องห่วงครับ ผมพามีมี่ไปดูแล้วครับ และตอนนี้กำลังตัดอยู่” เขาบอกท่าน
“ลูกเราน่ะพร้อมอยู่แล้วคุณหลวง แล้วเรื่องหลานของแม่ล่ะพ่อเมา หนูมีมี่”
ผกาเอ่ยตอบสามี และท้ายประโยคเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้พร้อมส่งสายตาเอ็นดูไปทางคนที่ก้มหน้าเขินอาย มองแล้วช่างน่าเอ็นดูเหมาะสมกับลูกชายนางนัก
“เรื่องหลานน่ะไม่ต้องห่วงครับ ผมกับมีมี่เราคุยกันแล้ว แต่งงานแล้วเราจะมีหลานให้พ่อกับแม่ทันทีเลยครับ เพราะผมก็อายุเยอะแล้ว มีมี่เองก็อายุยี่สิบแปดแล้ว วัยของเราพร้อมที่จะมีลูกกันแล้วครับผม” แล้วเมืองเมาหันมาส่งยิ้มทรงเสน่ห์ให้คนขี้อายข้างๆ ตัวเอง
“พี่หมอเมาก็” แล้วนางก็ยกมือตีแขนคู่หมั้นหนุ่มไปหนึ่งทีไม่จริงจังนัก
“ก็เราตกลงกันแล้วนี่ครับมีมี่ กินข้าวกันเถอะ เพราะพี่ไม่อยากไปส่งมีมี่ดึก เดี๋ยวมีมี่จะนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ”
“ขอบคุณพี่หมอเมานะคะที่เป็นห่วงมีมี่”
“ก็พี่รักของพี่ก็ต้องห่วงสิครับ เดี๋ยวพี่ตักผัดผักรวมมิตรให้นะ” แล้วเขาก็ตักอาหารใส่จานให้คู่หมั้นสาวอีกเมนูทั้งๆ ที่ตักให้ก่อนหน้านี้เธอยังไม่ได้ตักเข้าปากสักคำเลย
ปณิตายิ้มพยักหน้าขอบคุณคู่หมั้นหนุ่มที่ตักกับข้าวเอาอกเอาใจตัวเอง เขาน่ารักแสนดีเสมอตลอดระยะเวลาคบกันและหมั้นกันมา เขายังคงเป็นแฟนที่ดี คู่หมั้นที่ดี รักและให้เกียรติเธอเสมอมา และอีกแค่ไม่กี่เดือนเธอและเขาก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว หญิงสาวเองก็ตักกับข้าวเอาใจคู่หมั้นเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างตักกับข้าวให้กัน
