บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 มีหน้าที่แค่ดูแลความปลอดภัย

เนื่องจากว่าน้ำมนต์เป็นคนของนิธิ ธันวาจึงต้องป้องกันไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ความลับระหว่างเขากับอาโปต้องหลุดออกไปถึงหูผู้ใหญ่

“ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนของพ่อตาฉัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวระหว่างฉันกับอาโปได้ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะเห็นอะไร หรือรับรู้อะไร ก็ขอให้เงียบไว้” ธันวาเตือน

“ผมรู้ครับ ผมจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องระหว่างคุณกับอาโปแน่นอน ผมถูกส่งมาที่นี่เพื่อดูแลอาโปเท่านั้น”

“ดี! และนี่คือกุญแจห้องของนาย” ธันวาส่งกุญแจให้

“ขอบคุณครับ” น้ำมนต์รับกุญแจมา แล้วก็ออกจากห้องไป

‘ฉันหวังว่านายจะสามารถทลายพฤติกรรมของอาโปได้นะ ตอนนี้คงมีแค่นายเท่านั้นที่ฉันมั่นใจ อย่าทำให้ฉันผิดหวังเด็ดขาดล่ะ’ น้ำมนต์ คิดอย่างโล่งใจ

ธันวา เดินเข้ามาในครัวเพื่อมองหาอาโปว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่เขาไม่เห็นเธออยู่ในห้องครัวเลยแม้แต่เงา ธันวาเดินตามหาเธอรอบห้อง สุดท้ายพบว่าเธอนอนอยู่บนเตียงของเขา

“นี่! ลุกออกไปจากเตียงของฉันได้แล้ว” ธันวา ตะโกนอย่างโมโห

“ไม่! เตียงนี่เป็นของฉัน” อาโปเถียงกลับอย่างไม่ยอม

“แต่นี่มันคือห้องของฉัน เธอไปนอนที่ห้องอื่นเลย” ธันวาเริ่มหงุดหงิด

“แต่ฉันชอบห้องนี้ ฉันจะนอนห้องนี้ ทำไมนายไม่ย้ายไปนอนห้องอื่นล่ะ แล้วยกห้องนี้ให้ฉัน” เธอใช้สายตาออดอ้อน

“ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ อย่าคิดเอาแต่ใจกับฉัน ออกไปจากห้องของฉัน แล้วไปทำงานของเธอซะ อย่าลืมนะว่าข้อตกลงของเราคืออะไร ไม่งั้นฉัน...”

“ได้ๆ แต่ว่าในห้องครัวไม่มีอะไรเลย จะให้ฉันทำอาหารได้ยังไงล่ะ” เธอทำตัวน่าสงสาร

“ทำอาหารไม่ได้ ก็ทำงานบ้านสิ เธอจะปล่อยให้หยากไย่ขึ้นหัวเธอหรือไง”

อาโปหดตัวลงอย่างห่อเหี่ยว คิดว่าทำตัวน่าสงสารแล้วเขาจะเห็นใจเสียอีก แต่เขากลับไม่เห็นใจเธอเลยแม้แต่น้อย

“หึ” อาโปลุกออกจากเตียงอย่างไม่พอใจ

“คนใจร้าย” เธอบ่นพึมพำ ถึงแม้จะบ่นเบาๆ แต่ธันวาก็ได้ยินชัดเจน

ธันวาส่ายหัวกับพฤติกรรมของอาโป ‘ฉันยังต้องทนกับพฤติกรรมแบบนี้ของเธอไปอีกนานเท่าไหร่’ เขาบ่นพึมพำแล้วแต่งตัวเพื่อไปบริษัท ซึ่งณ เวลานี้ธันวาคิดว่าบริษัทเป็นที่ที่ทำให้เขาสบายใจมากที่สุดแล้ว

ธันวาแต่งตัวเสร็จก็ออกจากห้องนอน แต่กลับเห็นอาโปนั่งดูซีรี่ย์และกินขนมอย่างมีความสุขที่โซฟาห้องนั่งเล่น

“งานบ้านของเธอเสร็จแล้วเหรอ ถึงได้มานั่งกินขนมและดูซีรี่ย์อย่างสบายใจแบบนี้” เขาตะคอกเสียงดังจนทำให้เธอตกใจ

“นายจะตะโกนทำไม?” เธอเอามือลูบหน้าอก “ขวัญเอ๊ยขวัญมา” เธอปลอบตัวเอง

“ก็ฉันหิวนี้ หากฉันกินอิ่มแล้วเดี๋ยวก็ไปทำงานเองแหละน่า นายจะปล่อยให้ฉันทำงานโดยที่ท้องร้องเนี่ยนะ จะใจร้ายเกินไปแล้วมั้ง” เธอบ่น

“ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะหิวหรือไม่หิว แต่เมื่อฉันกลับมาถึงห้องแล้ว ห้องต้องสะอาดและบนโต๊ะต้องมีอาหารวางไว้รอ ไม่งั้นเธอได้เจอดีเเน่” เขาขู่

“ฉันยังต้องทำอาหารอีกเหรอ ก็ในครัวมันไม่มีอะไรให้ทำเลย”

“วันนี้ก็มีเวลาทั้งวัน เธอก็ออกไปซื้อของมาทำสิ”

“ฉันว่านะ..ทำไมนายไม่ทานอาหารจากข้างนอกแล้วค่อยกลับมาล่ะ ฉันกลัวว่าอาหารที่ฉันทำจะไม่ถูกปากนายน่ะ” เธอหาข้ออ้าง

“ฉันจะกินอาหารข้างนอกหรือไม่มันก็ไม่สำคัญ ถึงยังไงตอนเย็นเธอก็ต้องทำอาหารเตรียมไว้รอฉันทุกวัน แม้ว่าฉันจะไม่กลับมากินก็ตาม” เขาบอก

อาโปไม่กล้าเถียงเขาอีก กลัวว่าเขาจะขอหย่าแล้วตัวเองจะขาดอิสระ

“โอเค ฉันจะทำงานบ้านให้เรียบร้อย และจะเตรียมอาหารไว้รอนายแน่นอน” อาโปพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

ธันวาหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ระเบิดออกมา แล้วรีบออกจากห้องไปบริษัททันที

อาโปแทบจะกรีดร้องออกมา เมื่อเห็นว่าธันวาออกไปทำงานแล้ว ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องมานั่งฟังเขาบ่นอีกทั้งวัน ช่วงเวลาที่เขาไปทำงาน คงจะเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากที่สุด

“ห้องนี้ก็ใหญ่เกินไปจริงๆ แล้วฉันจะทำความสะอาดยังไงให้ไหวล่ะ” เธอบ่น แต่เมื่อคิดว่าบิดาได้ส่งน้ำมนต์มา “อ้อ ให้พี่น้ำมนต์ช่วยดีกว่า” เธอรีบลุกออกไปห้องข้างๆ ทันที

ปัง! ปัง! ปัง!

“พี่น้ำมนต์ เปิดประตูให้ฉันหน่อย” เธอตะโกนอยู่นอกห้อง

น้ำมนต์เปิดประตู “ไม่ช่วย! เธอก็มีสามีแล้ว ทำไมไม่ขอให้เขาช่วยล่ะ เรื่องนี้พี่จะไม่ยุ่ง”

“น่านะ ขอร้องนะคะพี่” เธอกอดแขนเขาออดอ้อน “ก็เพราะเขานั่นแหละที่สั่งงานให้ฉัน พี่ก็รู้ว่าฉันไม่เคยได้ทำงานบ้านเองเลย อาหารก็ไม่เคยทำ พี่ก็รู้นิ ตอนอยู่ต่างประเทศฉันต้มมาม่าหนึ่งซองยังใส่น้ำไปเต็มหม้อเลย”

แทนที่น้ำมนต์จะเห็นใจ แต่เขากลับหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

ปึก!

อาโปทุบหน้าอกน้ำมนต์อย่างไม่พอใจ “ยังจะมาหัวเราะฉันอีก คนไม่มีศีลธรรม!”

น้ำมนต์ยังหัวเราะไม่หยุด คิดว่าเรื่องนี้มันน่าขำมาก ปกติอาโปไม่เคยยอมแพ้ใครเลย และก็ไม่มีใครเคยเอาชนะความเอาแต่ใจของเธอได้ด้วย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะพ่ายแพ้ให้สามีอย่างธันวาเสียแล้ว

“ได้ทำงานบ้านบ้างก็ดีเหมือนกันนิ เธอจะได้ออกกำลังกายไปด้วย ช่วงนี้ก็ไม่ได้ฝึกซ้อมป้องกันตัวเลย”

“จะป้องกันตัวอะไร ฉันไม่ได้มีศัตรูที่ไหนสักหน่อย อีกอย่างฉันก็มีพี่คอยปกป้องอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“เธอจะให้พี่อยู่กับเธอไปจนตายเลยหรือไง? ไม่ให้พี่ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวบ้างเลยเหรอ? จ้าวเตยยังรอให้พี่ไปแต่งงานด้วยอยู่นะ” น้ำมนต์เหนื่อยใจ

“ฉันยังไม่มีความสุขของตัวเองเลย พี่ก็จะทิ้งฉันแล้วเหรอ?” เธอแสร้งบีบน้ำตา

“หยุดเลยนะ! ไม่ต้องมาบีบน้ำตาใส่พี่เลย มันไม่เนียน” น้ำมนต์เอ่ยอย่างรู้ทัน

“หึ รู้ทันตลอด”

“จะมีใครรู้ใจเธอดีเท่าพี่อีกล่ะ ไปทำหน้าที่ของตัวเองได้แล้วถ้าไม่อยากถูกสามีขู่อีกเมื่อเขากลับมา” น้ำมนต์เตือน

“พี่จะไม่ช่วยฉันหน่อยเหรอ ห้องนี้มันกว้างมากเลยนะ ห้องนอนสองห้อง ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำอีกสามห้องเลยนะ” เธอใช้สายตาอ้อนวอน

“ช่วยไม่ได้ พี่ตกลงกับสามีของเธอแล้ว และหน้าที่ของพี่ที่มาอยู่ที่นี่ก็คือการติดตามดูแลความปลอดภัยของเธอเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ช่วยอะไรของเธออีกแล้ว” น้ำมนต์ต้องแข็งใจและปล่อยให้อาโปทำหน้าที่ของตัวเองเพียงลำพัง

“ใจร้าย” เธอทำหน้างอน

แม้ว่าน้ำมนต์จะรู้สึกสงสารที่ต้องเห็นน้องสาวสุดที่รักทำงานหนักคนเดียว เขาก็ต้องอดทนและห้ามใจเอาไว้ เขาจะไม่ยอมช่วยเหลือเธออีกเด็ดขาด ไม่งั้นอนาคตเธอจะทำอะไรเองไม่เป็นเลย แบบนั้นจะกลายเป็นว่าเขานั้นเป็นคนที่ทำร้ายเธอเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel