ชุลมุนรักงานแต่งอลเวง

81.0K · จบแล้ว
ข้าจ้าว
41
บท
749
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

อุตส่าห์หนีงานแต่งงานออกมา แต่ดันโบกรถว่าที่เจ้าบ่าวที่หนีงานแต่งมาเหมือนกันซะงั้น เขาเลยพาเธอไปงานแต่งและบอกกับทุกคน"เธอคือคนรักของผม และผมจะแต่งงานกับเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น"แขกในงานงงเป็นไก่ตาแตก ธันวา : อายุ 25 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงระดับเอเซีย เขามีคนรักชื่อนารา แต่ตอนนี้ความรักของเขาถูกพ่อและแม่กีดกัน เนื่องจากนาราขโมยโปรเจคงานของบริษัทไปขายให้บริษัทคู่แข่ง พ่อและแม่ของเขาจึงยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เขายอมรับได้ อาโป : อายุ 21 ปี ลูกสาวคนเดียวของพ่อเลี้ยงไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เธอพึ่งเรียนจบจากต่างประเทศและกลับมาบ้าน เธอถูกผู้เป็นพ่อหลอกว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับและฉลองรับปริญญาให้ แต่สุดท้ายแล้วงานเลี้ยงนั้นกลับเป็นงานแต่งงานของเธอกลับว่าที่เจ้าบ่าวที่ไม่เคยเห็นหน้า อาโปและธันวาตั้งใจว่าจะหนีงานแต่งงาน เธอหนีออกประตูหน้าไม่ได้จึงปีนกำแพงด้านข้างของโรงแรมแล้วหนีออกไป แล้ววิ่งหนีโดยไม่ทันได้มองรถที่ขับมาด้านหลัง เธอเกือบโดนรถชน และนั่นก็เป็นรถของธันวาที่ตั้งใจจะหนีงานแต่งเหมือนกัน อาโปไม่มีเงินติดตัวและไม่มีมือถือติดตัวมาด้วย เธอจึงอยากขอความช่วยเหลือจากธันวา ให้เขาพาเธอหนีออกไปจากตรงนี้ เขายอมตกลง แต่เธอก็ต้องช่วยเขาเพื่อเป็นการตอบแทนด้วย "เธอต้องแกล้งปลอมเป็นคนรักของฉันต่อหน้าว่าที่เจ้าสาวของฉัน เพื่อให้เธอขอยกเลิกงานแต่งงานนี้เอง" "แค่แกล้งใช่ไหม?" "ใช่ หลังจากงานแต่งถูกยกเลิกแล้ว ฉันถึงจะพาเธอหนีไปได้" "ตกลง" หลังจากที่ทั้งสองคนตกลงกันแล้ว ธันวาก็พาเธอขึ้นรถแล้วขับเข้าไปในโรงแรม ซึ่งอาโปก็สงสัยว่าทำไมเป็นโรงแรมเดียวกัน เธอกลัวพ่อของเธอเห็นเข้าแล้วจะถูกจับได้ แต่เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้เธอคิดว่า โรงแรมนี้มันใหญ่มากและสถานที่จัดงานก็มีหลายห้องด้วย พ่อเธอคงไม่บังเอิญมาเห็นแน่นอน สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า ทั้งสองคนกลับเป็นฝ่ายจูงมือกันเข้างานวิวาห์ของตัวเองอย่างเปิดเผยโดยที่ไม่ถูกใครบังคับ แขกในงานรวมถึงพ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาวถึงกับตะลึง หลังจากงานแต่งจบลง ทั้งสองก็เข้าห้องหอ ธันวาถึงได้ระเบิดอารมณ์ที่เก็บไว้ออกมา "นี่คือแผนของเธอใช่ไหม?" "ไม่..ไม่ใช่"

นิยายรักนิยายปัจจุบันประธานแต่งงานสายฟ้าแลบดราม่าสัญญาทางรักแก้แค้นแต่งงานก่อนรักคู่หมั้นหญิงความสัมพันธ์ไม่ชัดเจน

บทที่ 1 หนีงานแต่ง

“อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันจะกระโดดลงไปจริง ๆ ด้วย!” เธอตะโกน

หญิงสาวนามว่าอาโป เธอกำลังพยายามปีนข้ามกำแพงเพื่อหนีงานแต่งงานของตัวเองด้วยชุดแต่งงานพร้อมรองเท้าส้นสูง เธอไม่อยากแต่งงานแบบคลุมถุงชนแบบนี้

“คุณหนูอาโป ลงมาเถอะนะ! เธอหนียังไงก็หนีพ่อของเธอไม่รอดหรอก” น้ำมนต์ตะโกนบอก เขาเป็นลูกแม่บ้านที่เติบโตมากับเธอตั้งแต่เด็ก จึงสนิทสนมกันมาก

“ไม่! ฉันไม่อยากแต่งงาน ฉันพึ่งเรียนจบและพึ่งกลับประเทศมาเอง พี่จะทำใจปล่อยให้ฉันออกไปอยู่บ้านใครก็ไม่รู้ได้เหรอ? หากเขาเป็นผู้ชายไม่ดีล่ะ?” หญิงสาวทำหน้าละห้อย

“มันคงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก พ่อของเธอต้องเลือกคนดีๆ ให้เธอแน่นอน ลงมาเถอะนะ เชื่อพี่สิ” น้ำมนต์พยายามเกลี้ยกล่อม

“ถ้าฉันลงไป พี่ก็จะจับฉันไปแต่งงานตามคำสั่งของคุณพ่อแน่นอน พี่ก็รู้ว่าคุณพ่อหลอกฉันให้มางานนี้ แต่พี่ก็ยังปิดบังฉัน” น้ำเสียงของเธอน้อยใจ

เธอเรียนจบจากต่างประเทศและพึ่งกลับมาบ้าน ผู้เป็นบิดาจึงบอกว่าจะจัดงานต้อนรับและฉลองรับปริญญาให้ แต่ที่ไหนได้ งานต้อนรับและฉลองรับปริญญาของเธอกลับกลายเป็นงานแต่งงานไปได้ยังไง

“ถึงยังไงเธอก็ต้องแต่งงานอยู่แล้วนี่ ทำไมไม่แต่งกับคนที่พ่อของเธอเลือกให้ล่ะ ท่านต้องเลือกคนที่ดีให้เธอแน่นอน”

“ดีของคุณพ่อแต่ไม่ได้ดีสำหรับฉันนิ ฉันจะแต่งงานกับคนที่ฉันรักเท่านั้น” อาโปนั่งควบอยู่บนกำแพงที่สูง 2.5 เมตรด้วยขาที่สั่น

“ลงมาเถอะ ถ้าเธอตกลงมาจริงๆ แข่งขาอาจหักได้เลยนะ พี่รู้ว่าเธอไม่กล้าโดดลงไปจริงๆ หรอก” น้ำมนต์เอ่ยพร้อมเดินเข้าไปใกล้

“พี่น้ำมนต์อย่าเข้ามาอีกนะ! ไม่งั้นฉันกระโดดลงไปจริงๆ ด้วย!” หญิงสาวขู่อีกครั้ง ลำตัวก็เอนไปอีกฝั่งของกำแพงแล้ว

ถึงแม้ว่าจะกลัวตกจนตัวสั่น แต่เธอก็จะไม่ยอมกลับไปแต่งงานแน่นอน

“เธอไม่ต้องมาขู่พี่หรอก เพราะพี่รู้ว่าเธอไม่กระโดดลงไปจริงๆ หรอกอาโป” เขาพูดพร้อมถอนหายใจ “ลงมาเถอะ พี่จะช่วยคิดหาทางให้เธอเอง” น้ำเสียงเขาอ่อนโยน

อาโปยิ้มหวานอย่างดีใจ “ได้ ฉันจะลงไป แต่พี่ต้องสัญญากับฉันก่อนว่าจะช่วยฉันจริงๆ”

น้ำมนต์เป็นเพียงคนเดียวที่ยอมให้เธอมาโดยตลอดและไม่เคยโกหกเธอเลยสักครั้ง หลายครั้งที่เขาช่วยให้เธอเอาตัวรอดจากผู้เป็นบิดาได้โดยไม่มีพิรุธอะไรเลย หรือหากถูกผู้เป็นบิดาจับได้เขาก็จะยอมรับผิดแทนเธอทุกอย่าง

“อื่ม” น้ำมนต์พยักหน้าแล้วเดินไปที่กำแพงให้เธอเหยียบไหล่ของเขาแล้วปีนลงมา หลังจากนั้นก็เขกหัวเธอไปหนึ่งที

“โอ๊ย…เจ็บนะ!” อาโปร้องเสียงสูงแล้วเอามือลูบหัว

“เล่นอะไรแผลงๆ รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง กลัวเธอจะพลาดตกลงมามากแค่ไหน” เขาบ่นอย่างเป็นห่วง “หากตกลงมาจริงๆ จะทำยังไง เธออยากตายตอนอายุยังน้อยแบบนี้เพราะต้องการหนีงานแต่งงั้นเหรอ?”

อาโปกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอแล้วส่ายหัว

“ฉันยังไม่อยากตาย ฉันพึ่งจะอายุ 21 ปีเองนะ ฉันใช้ชีวิตบนโลกนี้ยังไม่คุ้มเลย แต่ฉันก็ไม่อยากตายทั้งเป็นด้วยการแต่งงานกับคนที่ฉันไม่รู้จักและไม่ได้รักเหมือนกัน ฉันยังอยากเจอผู้ชายที่ฉันรักและเป็นพ่อของลูกฉันอยู่”

คำพูดสุดท้ายของอาโปทำให้น้ำมนต์อ้าปากค้างจนไม่รู้จะว่ายังไงต่อเลย

“ปัญญาอ่อนจริงๆ สมองของเธอคิดได้แค่เท่านี้เหรอ? ถ้าเธอตกลงมาตายหรือพิการเสียก่อนจะยังมีโอกาสได้เห็นคนที่เป็นพ่อของลูกงั้นสิ”

“ถึงฉันจะพิการหรือไม่มีสามีและลูก ขอแค่มีพี่อยู่เคียงข้างฉันไปตลอดก็พอแล้ว” เธอกอดแขนเขาและซบอย่างอบอุ่นโดยไม่คิดอะไรมาก

ตั้งแต่ที่อาโปจำความได้ เธอก็มีน้ำมนต์คอยดูแลและพร้อมปกป้องเธอตลอดอยู่แล้ว จนเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็ยังมีเขาที่ตามไปคอยดูแลอยู่ตลอด และยังคิดว่าเขาจะอยู่กับเธอตลอดไปด้วย

“หยุดไร้สาระก่อนเถอะ ตอนนี้คิดเรื่องหนีงานแต่งของเธอก่อนดีกว่าไหม?”

“แล้วฉันจะหนียังไงล่ะ? พี่บอกว่าจะช่วยฉันคิดหาทางออกไม่ใช่เหรอ?” เธอจ้องเขาด้วยตาปริบๆ

“งั้นก็ตีพี่” น้ำมนต์บอกพร้อมชี้ไปที่ท่อนไม้ขนาดเท่าแขนใกล้ๆ

“ตี! พี่คงไม่อยากตายแทนฉันหรอกนะ!”

น้ำมนต์ดีดหน้าผากเธอไปหนึ่งที “คิดอะไรของเธอ พี่จะให้เธอตีที่ต้นคอของพี่ แล้วพี่จะแกล้งทำหมดสติ หลังจากนั้นเธอก็หนีไป แบบนี้พ่อของเธอก็จะไม่สงสัยเราสองคน” เขาอธิบาย

“หาก..หากฉันตีพี่ไปแล้วพี่ตายจริงๆ ล่ะ ฉันก็จะไม่มีใครมาคอยปกป้องฉันอีกสิ”

“อย่ามัวแต่เล่น มันไม่ถึงตายหรอก พี่เคยสอนวิธีป้องกันตัวแบบนี้ให้เธอแล้วนะ”

“ฉันกลัวว่าจะควบคุมน้ำหนักมือไม่ได้น่ะสิ” อาโปยังเล่นไม่หยุด

“ขอร้องล่ะอาโป หากเธอยังชักช้าอีกก็จะไม่ทันแล้ว พรุ่งนี้พี่ยังต้องไปเดทกับจ้าวเตยอีกนะ พี่ไม่อยากทำให้วันดีๆ ของพี่กลายเป็นวันฮาโลวีนนะ” หากถูกพ่อของเธอจับได้เขาต้องถูกลงโทษหรืออาจจะตาเขียวก็ได้

คำพูดของน้ำมนต์มันทำให้อาโปรู้สึกอิจฉา เขาจะไปเดทกับผู้หญิงที่เขารัก แล้วเธอล่ะ เขากลับจะทิ้งเธอไปมีความสุขทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เนี่ยนะ ช่างเห็นแก่ตัวจริง ๆ เธออยากจะทุบหน้าเขาให้แหกไปเลย

“งั้นฉันจะตีพี่แล้วนะ!” เธอบอกพร้อมกับยกไม้ขึ้นสุดแขน