บทที่ 5 ข้อตกลง
เมื่อธันวามาถึงคอนโดก็เปิดประตูเข้าห้องนอน เขาเห็นอาโปนอนห่มผ้าอยู่บนเตียงนอนของเขาและหลับอย่างสบายใจ
ด้วยลำขาที่ยาวเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงเตียงนอนแล้ว เขาดึงผ้าห่มออกจากตัวของเธอพร้อมตะโกนใส่หูเสียงดัง
“เธอกล้าดียังไงมานอนบนเตียงของฉัน!”
“อร๊ายยยยยยย” อาโปตกใจจนกรีดร้องเสียงดัง มือบางก็พาดเข้าไปที่ใบหน้าเขาอย่างแรงตามสัญชาตญาณของคนไม่รู้ตัว
เพี๊ยะ!
อาโปสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายที่ตื่นตระหนก ‘เกิดอะไรขึ้น?’ เธอยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง
เมื่อเห็นว่ามีสายตาอาฆาตจ้องมองเธออย่างจะกลืนกิน อาโปก็เริ่มใจสั่น และยิ่งเห็นว่าแก้มของเขามีรอยแดงจากฝ่ามือของเธอเมื่อครู่ก็ยิ่งกลัวเข้าไปอีก
‘ตายแน่อาโป’ เธอคิดในใจ
สายตาของอาโปมองไปยังห้องน้ำ ในเวลานี้คงไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่ากับที่นั่นอีกแล้ว เธอนับเลขในใจแล้วเตรียมที่จะวิ่ง
หนึ่ง.
สอง.
สาม.
“อร๊าย! อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เธอหลับตาปี๋พร้อมยกมือไหว้
อาโปคิดว่าเธอจะต้องรอดแล้ว แต่มือเขากลับไวกว่า เพียงแค่เธอก้าวเท้าลงจากเตียงเขาก็คว้าตัวเธอได้อย่างรู้ทัน
“คิดว่าจะหนีฉันได้แล้วจะไปหลบอยู่ในห้องน้ำอีกเหรอ? ยัยตัวแสบ” เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจที่รู้ทันความคิดของเธอ “ตอนนี้ก็รับผลจากการกระทำของเธอเถอะ” เขาเน้นคำพูดทุกคำ
อาโปกลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอ พร้อมคิดหาทางเอาตัวรอด
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจตบนายเลยนะ ฉันแค่ตกใจ” เธอหลับตาพร้อมกับเอามือดันหน้าอกเขาไว้ “นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
“ผู้หญิงอย่างเธอมันเจ้าเล่ห์ คิดว่าฉันจะหลงกลเธออีกเหรอ ไม่มีทาง!” แววตาเขาดั่งมัจจุราช
ธันวายิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วโน้มตัวลงไปใกล้เธอเล็กน้อย มือหนาข้างหนึ่งก็เริ่มปลดเข็มขัดออก ยิ่งทำให้อาโปกลัวมากขึ้น
เขามัดมือทั้งสองข้างของเธอด้วยเข็มขัดแล้วกดร่างบางลงบนเตียง ยิ่งทำให้ร่างบางตัวสั่นเพราะความกลัว
“อย่า..อย่าทำฉันเลย ฉันกลัว” น้ำตาของเธอไหลออกมาทางหางตา
ธันวาเห็นน้ำตาของหญิงสาวจึงขมวดคิ้ว “เธอคิดว่าฉันจะทำอะไร? ฆ่าเธอเหรอ?” เขาหน้านิ่วคิ้วขมวด
‘ผู้ชายอย่างฉันนี่นะจะทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้อย่างเธอ เห็นฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ?’ เขาคิดในใจ
อาโปค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นใบหน้านิ่วคิ้วขมวดของเขาอยู่ใกล้หน้าของเธอมาก มันทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็ว
“นาย….นายไม่ได้จะทำแบบนั้นเหรอ?” น้ำเสียงเธอสั่นเล็กน้อย
“ทำอะไร? เธอคิดว่าฉันจะสนใจผู้หญิงที่รูปร่างเหมือนไม้กระดานที่ความสูงไม่ถึง 150 เซนติเมตรเหรอ? อย่าฝันว่าจะได้มีซัมติงกับผู้ชายที่เพอร์เฟคอย่างฉันเด็ดขาด”
อาโปตาโต อ้าปากค้าง ‘ไอ้ผู้ชายปากปีจอ กล้าดียังไงมาตำหนิรูปร่างของฉัน ไอ้คนหลงตัวเอง คนอย่างนายก็ไม่มีวันได้เห็นขาอ่อนของฉันหรอก’ เธอบ่นในใจ
“แล้วนายจะเอายังไง?” น้ำเสียงเธอไม่พอใจ ตอนนี้เริ่มใจแข็งสู้เขาแล้ว
“ง่ายๆ แค่ไปหย่ากันเท่านั้น”
“ไม่ได้!” อาโปรีบท้วง
“ทำไมจะไม่ได้! หลายๆ คู่เขาก็หย่ากัน”
อาโปคิดในใจ ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากหย่า แต่เธอแค่หย่าตอนนี้ไม่ได้เท่านั้น กว่าเธอจะเป็นอิสระโดยไม่ต้องมีใครมาควบคุมแบบนี้มันยากมาก ตอนนี้เธอแต่งงานแล้วพ่อของเธอก็จะไม่มาควบคุมเธอได้อีก หากเธอหย่าตอนนี้ เธอต้องกลับไปอยู่ในจุดเดิมอีกแน่
อาโปคิดหาคำพูดมาโน้มน้าวใจเขา “นายลองคิดดูสิ เราพึ่งจดทะเบียนสมรสกันวันนี้ พรุ่งนี้ก็จะไปหย่าเลยพ่อกับแม่ของเราจะคิดยังไง อีกอย่างฉันก็เป็นผู้หญิง พึ่งแต่งงานได้วันเดียวก็ถูกขอหย่าแล้ว แบบนี้ฉันกับพ่อจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แล้วพ่อกับแม่ของนายจะคิดยังไง”
“ฉันไม่สน” เขาพูดอย่างไม่แคร์ แต่ก็แพ้เสียงในหัวอยู่ดี “นอกจากว่าเธอจะยอมทำตามข้อตกลงของฉัน”
“ข้อตกลงอะไร?” อาโปรอฟังอย่างตั้งใจ หากไม่ใช่เรื่องที่ร้ายแรงเกินไปเธอก็จะยอมทำตามเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ตราบใดที่เธอยังไม่หย่ากับเขา เธอก็เชื่อว่าเขาจะให้อิสระเธอแน่นอน
“ฉันจะให้เวลาเธอสามเดือน หลังจากนั้นเราสองคนจะหย่าขาดกันทันที ไม่มีข้อแม้อะไรทั้งนั้น”
อาโปคิดไตร่ตรองชั่วครู่ก็ตอบออกไป “ได้ แค่นี้ใช่ไหม” อย่างน้อยก็ยังมีเวลาตั้งสามเดือน
“ยัง”
“ยังมีเงื่อนไขอะไรอีกก็พูดออกมาให้หมดเลย” เธอชันเข่าทั้งสองขึ้นมาแล้วนั่งกอดเข่ารอฟังอย่างตั้งใจ
“ช่วงเวลาสามเดือนนี้ ฉันจะไม่ให้เธออยู่ที่นี่ฟรีๆ หรอกนะ เธอต้องเป็นแม่บ้าน ทำอาหารและทำความสะอาดที่นี่ให้เรียบร้อยด้วย”
“ทำไมฉันต้องทำด้วยล่ะ นายไม่มีแม่บ้านหรือไง?” เธอขมวดคิ้วถาม
“ปกติจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดที่นี่วันเว้นวัน และส่วนมากอาหารก็จะทานข้างนอกหรือทานที่บ้านพ่อกับแม่ แต่เพื่อความเป็นส่วนตัวของเราสองคนและเพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ฉันรู้ว่าเราใช้ชีวิตกันยังไง เธอต้องทำเองทุกอย่าง เพราะแม่บ้านที่มาทำความสะอาดที่นี่เป็นคนของพ่อและแม่ฉัน”
อาโปเริ่มหนักใจ เธอไม่เคยทำอาหารและส่วนน้อยมากที่เธอจะได้จับไม้กวาดหรือไม้ถูพื้น
“แต่ฉันทำอาหารไม่เป็น” เธอทำหน้าเศร้า
“งั้นก็ยกเลิกข้อตกลง พรุ่งนี้ไปหย่ากัน” เขาลุกจากเตียง
“ไม่! ไม่!” อาโปรีบดึงปลายเสื้อเขาไว้ “ฉันยอมตกลงก็ได้” เธอตอบตกลงไปก่อนแล้วค่อยหาทางเอาตัวรอดในภายหลัง
ธันวายิ้มอย่างพึงพอใจ ยิ่งเห็นใบหน้าที่มีแต่ความกังวลก็ยิ่งทำให้เขามีความสุข ตอนนี้เธอก็เหมือนลูกไก่ในกำมือแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาแทบจะจัดการเธอไม่ได้เลย แม้แต่การเถียงก็ยังสู้เธอไม่ได้ ตอนแรกเขายังกังวลว่าจะหาวิธีอะไรมาเจรจาหรือต่อรองกับเธอ แต่ไหนเลยจะคิด เธอกลับเป็นคนเอ่ยต่อรองกับเขาก่อน
“งั้นก็ตามนี้ แต่ฉันขอเตือนเธอเอาไว้ก่อนนะว่าการแต่งงานของเราจะเป็นเพียงการแต่งงานแค่ในนามเท่านั้น อย่าคิดอะไรเกินเลยกับฉัน เพราะฉันมีคนรักอยู่แล้ว และอย่าป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของฉันเด็ดขาด” นี่คือคำเตือนของเขา
อาโปได้ยินแบบนี้ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ฉันนี่นะจะคิดอะไรเกินเลยกับนาย นายไม่ใช่สเปกของฉันเลยแม้แต่น้อย แถมยังปากร้าย อารมณ์ร้อน และยังเกือบฆ่าฉันตายคามือด้วยอีก ผู้ชายแบบนี้ฉันไม่มีทางเอามาทำพันธุ์แน่นอน”
“ดี! จำคำพูดของเธอเอาไว้ก็แล้วกัน” เขากัดฟันพูด พยายามระงับความโกรธเอาไว้
“นายก็เหมือนกัน พอฉันทำอะไรให้ก็อย่าเผลอมาคิดเกินเลยกับฉันก็แล้วกัน”
“ไม่มีทาง” เขาตอบโดยไม่ต้องคิด “ลงไปจากเตียงฉันได้แล้ว” เขาชี้ให้เธอลงจากเตียง
“ทำไมฉันต้องลง?” เธอท้วงอย่างสงสัย แล้วเธอจะนอนที่ไหน
“เพราะนี่มันเตียงของฉัน และฉันก็ง่วงมากแล้ว ฉันจะนอน” เขาเอ่ยพร้อมดึงผ้าห่มในมือเธอมา
“นายไล่ฉันลงจากเตียง แล้วฉันจะนอนไหนล่ะ” เธอทำหน้ามุ่ย
“โซฟา หรือไม่ก็นอนที่พื้น” เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ จะให้ไปนอนอีกห้องก็ไม่ได้เพราะห้องนั้นก็ไม่มีอะไรเลย
“ไม่มีทาง! ฉันเป็นผู้หญิงนะจะให้นอนที่พื้นได้ยังไง? นายเป็นผู้ชายก็ยอมเสียสละให้ฉันนอนบนเตียงสิ” เธอไม่ยอม
“แต่เตียงนี้เป็นของฉัน ห้องนี้ก็เป็นของฉัน หากเธอรับไม่ได้ก็ออกไปแล้วหาที่นอนเอง” เขาล้มตัวลงนอนพร้อมกับดึงผ้าห่มมาห่ม
“ไม่เอา! ยังไงฉันก็จะนอนที่นี่! นอนเตียงนี้!” เธอเถียงพร้อมกับซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วนอนข้างเขา
