บทที่ 4 อยากบีบคอให้ตาย
แคก! แคก! แคก!
อาโปไออย่างหนักเมื่อถูกมือหนาบีบคอจนแน่น เธอพยายามตีมือเขาเพื่อให้เขาปล่อย
ธันวารีบปล่อยมือเมื่อเห็นใบหน้าสาวแดงก่ำ เขาเกือบฆ่าเธอตายคามือตัวเองเสียแล้ว
อาโปรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำและล็อกประตูทันที กลัวว่าเขาจะรีบตามมาบีบคอของเธออีกครั้ง
“อ่าาา…..เกือบตายแล้วไหมล่ะอาโป” เธอลูบหน้าอกอย่างโล่งใจ
ธันวายกมือหนาลูบหน้าตัวเอง เขาพยายามระงับความโกรธและความเกลียดชังที่มีต่ออาโปภรรยาที่พึ่งแต่งงานด้วย
เขาเดินไปที่ห้องน้ำแล้วทุบประตูเสียงดัง
ปัง! ปัง! ปัง!
“เปิดประตูเดี่ยวนี้!” เขาตะโกนเสียงดัง
“ไม่!” เธอทำเมินเฉยต่อเสียงตะโกนของเขา
“ยัยผู้หญิงเจ้าเล่ห์! เธอออกมาเดี่ยวนี้เลยนะ! ไม่งั้นฉันจะจัดการเธออย่างหนักแน่”
‘หากฉันออกไปตอนนี้ก็ถูกนายฆ่าตายน่ะสิ’ เธอบ่นพึมพำ
อาโปไม่สนใจเสียงตะโกนของเขา เธออยู่ในห้องน้ำแล้วจัดการตัวเอง เธอแกะผม สระผม ล้างหน้า แปรงฟัน แล้วก็อาบน้ำอย่างสบายใจ
ธันวายิ่งโมโหมากขึ้นเมื่อภรรยาที่อยู่ในห้องน้ำไม่สนใจคำตะโกนของเขาเลย ซ้ำเธอยังอาบน้ำร้องเพลงอยู่ในห้องน้ำอย่างสบายใจฉ่ำด้วย จนเสียงโทรศัพท์ของเขาดัง
“ว่าไง?” เขาถามอย่างหงุดหงิด
“แย่แล้วพี่! ระบบของเราถูกแฮ็กจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย ตอนนี้พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากพี่ด่วน” น้ำเสียงของปลายสายดูกังวลมาก
“ใครมันกล้าเล่นงานฉันลับหลัง?” เขากำมือแน่น “ได้ ฉันจะรีบไป”
ธันวามองไปที่ประตูห้องน้ำแล้วรีบออกจากคอนโดไปทันที เขาหงุดหงิดและรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่เขาโชคร้ายมากจริงๆ
อาโปอาบน้ำและจัดการตัวเองเรียบร้อยก็รู้สึกว่าข้างนอกเงียบไปแล้ว เธออยู่ในห้องน้ำเกือบสองชั่วโมง จึงคิดว่าเขาคงจะหลับไปแล้ว
อาโปค่อยๆ เปิดประตูให้เสียงเบาที่สุดแล้วแอบดูภายในห้อง เมื่อไม่เห็นเงาของธันวาเธอก็เดินออกจากห้องน้ำอย่างโล่งใจ
“ขอบคุณสวรรค์” เธอยกมือขึ้นไหว้เหนือหัวอย่างมีความสุข แล้วเดินไปที่เตียง “เตียงนี้เป็นของฉันแล้ว” เธอกระโดดขึ้นไปแล้วกลิ้งอยู่บนเตียงอย่างดีใจ
เมื่อธันวามาถึงบริษัทเขาก็รีบไปที่แผนกไอทีทันที บริษัทนี้เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของเขา เพราะเขาสร้างมันขึ้นมากับมือ และพึ่งเปิดตัวมาได้แค่ 4 ปี
แม้ว่าทุนในการสร้างกิจการจะมาจากเงินของครอบครัว แต่ธันวาก็ได้คืนทุนพวกนั้นไปหมดแล้วตั้งแต่เปิดกิจการได้เพียง 1 ปีเท่านั้น
“ในที่สุดพี่ก็มาสักที” ชานนท์รีบเข้าไปดึงธันวาให้นั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ พร้อมเอาข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมได้ให้เขาดู
“ใครมันกล้าแฮ็กระบบของเรา?” เขาเอ่ยอย่างหัวเสีย
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ดูเหมือนว่าพวกมันจะแฮ็กระบบของเราแล้วปล่อยไวรัสเพื่อทำให้ระบบของเราล่ม ตอนนี้ทั้งคู่ค้าและลูกค้าต่างก็โวยวายกันใหญ่ เพราะช่วงนี้เป็นแคมเปญใหญ่ด้วย ทำให้พวกเขาเสียรายได้และลูกค้าก็เสียโอกาสที่จะใช้คูปองส่วนลด” ชานนท์เอ่ยอย่างหงุดหงิดเช่นกัน
บริษัทของเขาเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และวันนี้ก็เป็นวันสำคัญที่ทางบริษัทได้จัดแคมเปญขึ้นมา เมื่อระบบมีปัญหาและลูกค้าซื้อสินค้าไม่ได้ ผลกระทบย่อมตกอยู่ที่ทุกฝ่ายแน่นอน
“แกมีโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อฆ่าไวรัสอยู่ไม่ใช่เหรอ? ลองแล้วหรือยัง?”
“ผมลองแล้วครับ แต่ฝั่งนั้นปล่อยไวรัสมาหลายตัวมาก ผมแก้ไม่ทัน” ชานนท์อธิบาย
หากไม่ใช่ช่วงแคมเปญชานนท์คงไม่ขอให้เจ้าบ่าวอย่างธันวาที่ต้องเข้าห้องหอมาจัดการหรอก เขาสามารถฆ่าทีละตัวได้ แต่เหตุการณ์นี้มันไม่ได้จริงๆ เขาฆ่าไวรัสทั้งหมดทีเดียวไม่ได้ แต่ธันวาไม่เหมือนกัน
“อืม ฉันจะจัดการเอง”
ธันวาเริ่มละเลงนิ้วบนแป้นพิมพ์อย่างมืออาชีพ ไวรัสทั้งหมดก็ถูกกำจัดไปทันที ด้วยเวลาที่ไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ ชานนท์มองอย่างทึ่งแล้วโล่งใจ
“พี่เป็นอัจฉริยะจริงๆ น่านับถือ น่านับถือ” ชานนท์ปรบมือ และไม่รู้สึกผิดหวังเลยที่เห็นธันวาเป็นไอดอล
ธันวายิ้มอย่างภูมิใจที่ได้ยินคำชมและเห็นว่าชานนท์มองเขาเป็นแบบอย่างที่ดีขนาดนี้
“ผมเสียใจจังที่ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งงานของพี่น่ะ เพราะพี่เก่งแบบนี้ไงถึงได้สร้างศัตรูเอาไว้มากมาย” ชานนท์เอ่ย
“ช่วยไม่ได้ ก็คนมันเก่งเอง” เขายักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์
“ไหนพี่บอกว่าจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อกับแม่ของพี่เป็นคนหาให้ไง”
วันนี้ชานนท์ไม่ได้ไปงานแต่งเพราะธันวาบอกว่าเขาจะหนีงานแต่ง และสั่งให้เขาอยู่ที่บริษัทเพื่อดูแลงาน เพราะวันนี้เป็นวันแคมเปญใหญ่ด้วย เขาตั้งใจวางแผนล้มงานแต่งในวันนี้ โดยใช้แคมเปญใหญ่มาเป็นข้ออ้าง แต่พ่อและแม่ก็ไม่สนใจ ท่านทั้งสองเห็นงานแต่งงานของเขาสำคัญเป็นอันดับแรก
ธันวาได้ยินคำถามนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีก เขาไม่อยากนึกเลยว่าตอนนี้เขาได้แต่งงานมีภรรยาแล้ว
“ทำไมพี่ทำหน้าแบบนั้นล่ะ พี่ควรมีความสุขมากในวันแต่งงานไม่ใช่เหรอ?” ชานนท์ใช้น้ำเสียงหยอกล้อ
“แกหยุดพูดถึงผู้หญิงบ้าคนนั้นเลยนะ ได้ยินแล้วความดันจะขึ้น”
“ตอนนี้พี่ก็แต่งงานแล้ว ดีเสียอีกที่พี่จะได้ลืมคนเก่าได้สักที”
“ไม่มีวันที่ฉันจะลืมนาราได้ เพราะเธอคือผู้หญิงที่ฉันรักมากที่สุด” ธันวาย้ำ
นาราคือคนรักของธันวา แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จบลงเมื่อปีที่แล้ว เพราะธันวาจับได้ว่าเธอแอบขโมยโปรเจคงานของบริษัทไปให้คู่แข่ง จึงทำให้นิธิและพุดตานโกรธมากจนไม่ยอมให้ทั้งคู่คบหากันอีก แม้ว่าธันวาจะยังรักและยอมให้อภัยเธอได้ก็ตาม
“แต่พี่แต่งงานแล้วนะ พี่ควรลืมเธอไปได้แล้ว” ชานนท์เอ่ยเตือน
“แกกล้ายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉันหรือชานนท์! คุณอาก็บ่นอยากอุ้มหลานอยู่ทุกวัน หรือแกจะให้ฉันบอกแม่ของแกดีว่าแกเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น ท่านจะได้บังคับให้แกแต่งงานเหมือนที่ฉันโดนอยู่”
“ไม่นะพี่” เขารีบยกมือห้าม “ผมไม่กล้ายุ่งเรื่องของพี่อีกแล้ว ผมยังอยากสนุก ยังไม่อยากแต่งงานมีลูก”
“แล้วยังกล้ามาสอนฉันอีก”
“ไม่กล้าแล้วครับ ไม่กล้าแล้ว” เขายกมือไหว้เป็นพัลวัน “ว่าแต่..พี่สะใภ้ของผมเป็นไงบ้าง เธอสวยไหม?” แววตาเขาอยากรู้
“ฉันอยากจะบีบคอเธอให้ตายด้วยซ้ำ” พูดถึงเธอแล้วเขาก็หงุดหงิด “โอเค ฉันจะกลับคอนโดแล้ว ยังต้องกลับไปสะสางกับผู้หญิงคนนั้นอีก”
“โอเคครับ ขอให้พี่มีความสุขในคืนเข้าหอนะครับ” ชานนท์แหย่
“.....” ธันวาหันมามองตาขวาง
ชานนท์ทำคอพับ “ผมแค่ล้อเล่นเอง”
