บทที่ 7 — ผู้ล่าในเงามืด และพันธะเลือด
สายลมหนาวพัดวูบ
เสียงใบไม้เสียดสีกันดังระงมไปทั่วลานใต้ต้นไม้ใหญ่
แสงจันทร์เต็มดวงสาดลงมาเฉียง ๆ ฉายเงาร่างสองร่างที่ยืนประจันหน้ากันในความเงียบ
เงาร่างในชุดคลุมดำยืนนิ่ง ดวงตาเรืองแสงภายใต้หน้ากาก
ในมือของเขา ถือคทาหัวกระโหลกสีดำที่ปล่อยไอเย็นบาง ๆ ออกมา
"เจ้าเด็กน้อย… เจ้ายังไม่เข้าใจว่าเจ้าได้ก้าวเข้ามาในเส้นทางที่อันตรายเพียงใด"
เสียงของเขาเย็นชา ราวกับน้ำแข็งที่กรีดลงบนหิน
หลี่ชุนกำกิ่งไม้แน่นในมือ
แม้จะยังอ่อนล้า แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่า—
คนผู้นี้… อันตรายเกินกว่าจะประมือได้ด้วยพลังในตอนนี้
...
???? เงามืดเบื้องหลังศพคืนชีพ
ชายชุดดำยกคทาขึ้นเบา ๆ
เศษกระดูกสีดำที่แตกละเอียดบนพื้น เริ่มสั่นไหวอย่างผิดธรรมชาติ
"มนตราเลือด... สื่อสัมพันธ์สิ่งที่แตกสลายกับชีวิตใหม่"
ในพริบตาเดียว เศษกระดูกที่แตกกระจายก่อรูปขึ้นอีกครั้ง
กลายเป็นเงาร่างสัตว์ประหลาดรูปร่างบิดเบี้ยว มีแขนขาเกินมนุษย์ปกติ
มันคำรามเสียงต่ำ ขณะที่เลือดสดจากพื้นเริ่มไหลย้อนกลับเข้าไปในร่าง
หลี่ชุนขบกรามแน่น
“มันยังไม่จบ…”
...
⚔️ หนีหรือสู้
"เจ้าจะเลือกอย่างไร?" ชายชุดดำถามเสียงเรียบ
"สู้และตาย ณ ที่นี่… หรือคุกเข่า และสาบานตนเป็นทาสขององค์กรเรา"
หลี่ชุนหอบหายใจแรง
ใจหนึ่งอยากถอยหนีเพราะสภาพร่างกายที่แทบไม่ไหว
แต่อีกใจหนึ่งกลับร้อนรุ่มด้วยความดื้อรั้น
ถ้าข้ายอมคุกเข่า… แล้ววันหนึ่งข้าจะปกป้องสิ่งสำคัญได้อย่างไร?
...
เขาหลับตา สัมผัสแรงเต้นจากพื้นใต้เท้า
ฟังเสียงของรากไม้ เสียงของหิน เสียงของลำธารที่ไหลผ่านเบื้องล่าง
เสียงเหล่านั้นเหมือนกระซิบเบา ๆ ในใจเขา
"เจ้ามิได้อยู่ลำพัง"
"แผ่นดินจะปกป้องผู้ที่เคารพมัน"
...
เขาเปิดตา
แล้วกระแทกฝ่ามือลงพื้นเต็มแรง!
???? ตอบโต้ด้วยชีพจรฟ้าดิน
พื้นดินใต้เท้าสั่นสะเทือน
เส้นชีพจรของฟ้าดินเรืองแสงจาง ๆ ขึ้นรอบตัวหลี่ชุน
ต้นไม้รอบ ๆ ลานกว้างส่งเสียงสั่นสะท้าน
เถาวัลย์พันกันแน่นหนา กลายเป็นกำแพงธรรมชาติขนาดยักษ์ที่โอบล้อมเขาเอาไว้
รากไม้ขนาดใหญ่พุ่งขึ้นจากพื้น ดุจงูยักษ์พุ่งเข้าพันธนาการสัตว์ประหลาดที่เกิดจากมนตราเลือด
หินขรุขระใต้เท้าถูกกระตุ้นให้ระเบิดตัวเองขึ้นมาขวางการเคลื่อนไหวของศัตรู
"หากเจ้าต้องการชีวิตข้า..."
"...เจ้าจงผ่านพลังของแผ่นดินนี้ไปให้ได้ก่อน!"
...
ศัตรูคำรามเสียงต่ำ
สัตว์ประหลาดในคราบมนตราโลดโผนเข้าใส่
แต่เถาวัลย์ที่แข็งแรงกว่าหลายเท่าก็รัดมันแน่นเข้าเรื่อย ๆ
แผ่นดินเบื้องล่างกึกก้อง
เหมือนว่าทั้งผืนโลกกำลังร่วมมือกับหลี่ชุนในการปกป้องชีวิตของเขา
...
???? เงาร้ายล่าถอย
ชายชุดดำขมวดคิ้วภายใต้หน้ากาก
สายตาเขาเยือกเย็นขณะมองเถาวัลย์ที่งอกงามขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
"น่าสนใจ..."
"เจ้าเชื่อมต่อกับแผ่นดินได้ถึงเพียงนี้ ทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นฝึก..."
เขาถอยห่างออกไปอย่างไร้เสียง ฝ่ามือหนึ่งสะบัดเบา ๆ
วงเวทสีเลือดลอยขึ้นจากพื้นก่อนที่ร่างของเขาจะจางหายไปในม่านหมอก
เสียงสุดท้ายที่ลอยตามลมมา ทำให้หลี่ชุนขนลุกชัน
"เราจะพบกันอีก เด็กน้อย..."
"และครั้งหน้า เจ้าอาจไม่มีสิทธิ์เลือก"
...
???? หลังการต่อสู้
เมื่อศัตรูจากไป
เถาวัลย์และรากไม้ก็ค่อย ๆ คลายตัว
หลี่ชุนทรุดตัวลงนั่งกับพื้น หายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อม
ร่างกายเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
แต่ในใจกลับร้อนระอุด้วยความรู้สึกใหม่…
“ข้าปกป้องตัวเองได้… ด้วยพลังของตัวข้าเอง”
...
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้ายามรุ่งสาง
ดาวดวงสุดท้ายค่อย ๆ ลับขอบฟ้า เหลือเพียงสีทองอ่อนของแสงเช้าที่เริ่มทอแสง
โลกใบใหม่นี้โหดร้าย...
แต่ก็สวยงามอย่างประหลาดเช่นกัน
???? เงื่อนงำที่ทิ้งไว้
เมื่อเขาตรวจสอบวงเวทเลือดที่หลงเหลือบนพื้น
เขาพบสัญลักษณ์ที่ซับซ้อน แปลกประหลาดจนไม่ใช่ศิลปะของสำนักทั่วไป
มันเป็นตราของ "พันธะเลือด"
องค์กรใต้ดินที่เชี่ยวชาญการคืนชีพศพและมนตราต้องห้าม
ชื่อที่แม้แต่ในยุทธภพ ก็ไม่กล้าเอ่ยถึงโดยไม่สั่นกลัว
หลี่ชุนขมวดคิ้วแน่น
“พันธะเลือด…”
“ข้า… ต้องรู้ให้ได้ว่าพวกมันเกี่ยวข้องอะไรกับการตกลงมายังโลกนี้ของข้า”
และนั่น คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่โลกเบื้องหลังยุทธภพที่เต็มไปด้วยความลับ
และสายเลือด