ตอนที่ ๙ การตัดสินใจ 1
พลอยญาวีรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่อันไม่คุ้นเคยเสียแล้ว ร่างบางผวาลุกขึ้นนั่งบนเตียงกว้าง สะบัดผ้าห่มที่คลุมกายอยู่ให้ออกห่างตัว แล้วถอนหายใจออกมาที่เธอยังสวมเสื้อผ้าชุดเดิมอยู่ และไม่ได้รู้สึกว่าถูกล่วงเกินแต่อย่างใด
ดวงตากลมโตที่แดงช้ำเพราะการร้องไห้กวาดมองไปรอบตัว ห้องที่เธออยู่ในเวลานี้ทั้งกว้างขวางและหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนดูมีราคาแพง มันทำให้เธอคิดว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในความฝันมากกว่าความจริง เหมือนอยู่ในวิมานอันแสนหวาน คล้ายกับว่ามันทำให้เธออุ่นใจได้ และเชื่อว่าการอยู่ที่นี่ คงปลอดภัยจากพวกคนเห็นแก่ตัวชั่วคราว
พลอยญาวีเบนสายตาไปยังผ้าม่านโปร่งบางฉลุลายงดงามที่ปิดสนิท ก่อนจะเหวี่ยงขาลงจากเตียงนอน แล้วเดินไปหยุดอยู่ที่ริมหน้าต่างบานใหญ่ นิ้วเรียวเกี่ยวผ้าม่านให้แง้มออกเพียงเล็กน้อย
เมื่อมองลงไปข้างล่างก็พบว่ามีชายชุดดำหลายคนเดินวนเวียนอยู่ในบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งนั่นทำให้ความคิดของเธอติดลบ สำนึกรู้โดยทันทีว่าที่นี่ไม่ใช่วิมานแห่งความฝัน เพราะมันคือนรกในความเป็นจริงต่างหาก
พลอยญาวีไม่อยากรอช้าอีกแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว เธอรีบก้าวตรงไปยังประตูห้อง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้ แต่ยังไม่ทันเดินไปถึงจุดหมาย ผู้หญิงร่างเล็กทว่าดูทะมัดทะแมงปราดเปรียวก็เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน ฝ่ายนั้นสวมเสื้อเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงขาเดฟสีเดียวกัน เธอส่งยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร
“ตื่นแล้วเหรอคะ”
“คุณเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหน”
พลอยญาวีเรียกหาคำตอบทันที รู้สึกโล่งอกเล็กน้อยที่อีกฝ่ายเป็นคนไทยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าสำเนียงการพูดจะค่อนไปทางต่างชาติบ้างก็ตาม
“ขอโทษนะคะที่ฉันยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ แต่ถ้าคุณอยากรู้จริงๆ รีบไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วลงไปที่ห้องอาหารดีกว่า” โมนิก้าแนะนำ
“ไม่! ฉันจะไม่ทำอะไรจนกว่าจะรู้ว่าใครเป็นคนพาฉันมาที่นี่!” พลอยญาวีตะคอกลั่น
“ผมเป็นคนพาคุณมาเอง”
เสียงห้าวทุ้มที่ดังแทรกขึ้นทำให้สองสาวหันกลับไปมอง ธีโอยืนอยู่หน้าประตูห้องที่เปิดทิ้งเอาไว้ด้วยสีหน้าเรียบเฉียบ
เขาพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้โมนิก้ากลับออกไปเสีย เมื่อสมุนสาวรับทราบและผละจากไป เจ้าของร่างสูงก็ก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาคู่สวยมองพลอยญาวีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ยังไม่อาบน้ำอีกเหรอ” เขาถาม
“ถ้าคุณดูไม่ออก ฉันก็ช่วยไม่ได้” เธอกวนประสาท
“ห้ามพูดจากวนอารมณ์แบบนี้กับผม คุณไม่มีสิทธิ์”
“แล้วคุณล่ะ คุณมีสิทธิ์อะไรลักพาตัวฉันมาไว้ที่นี่” พลอยญาวีกำหมัดแน่น เรื่องที่ธีโอขโมยจูบเธอไปเมื่อคืน เธอยังจำได้ดี รวมทั้งถ้อยคำน่ารังเกียจของเขา เธอก็ไม่มีทางลืม
“ผมมีสิทธิ์ในฐานะที่เป็นเจ้าหนี้คุณ และอีกไม่นานผมก็จะกลายเป็นเจ้าชีวิตคุณ” คนพูดไม่ได้สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“นี่คุณ!”
“เลิกบ้าแล้วไปอาบน้ำแต่งตัวซะ วันนี้เราจะไปที่บ้านอิศรเดชา”
“คุณจะไปที่นั่นทำไม”
พลอยญาวีนึกถึงคำขู่ของชายหนุ่มขึ้นมาได้ ฉะนั้นเธอจึงกลัวว่านมรุ่งและชาติชายอาจจะไม่ปลอดภัย และเธอจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นเด็ดขาด
“หึ! ผมก็จะไปจัดการกับคนที่บ้านนั้นยังไงล่ะ ในเมื่อคุณไม่ยอมรับข้อเสนอของผม” ธีโอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังกังวล เขาเลยใช้โอกาสนี้บีบเธอให้จนตรอกอีกครั้ง
พลอยญาวีนี่ก็ดื้อเสียเหลือเกิน นับตั้งแต่เติบโตสมชายชาตรี ไม่ว่าเขาต้องการผู้หญิงคนไหน พวกเธอต่างก็ยินดีและเต็มใจกันทั้งนั้น ประเภทที่วิ่งเข้ามาเสนอตัวให้เขาเองก็มีบ่อยจนนับครั้งไม่ได้ แล้วกับพลอยญาวี เธอเห็นเขาเป็นตัวอะไร ทำไมต้องทำท่าทางเหมือนรังเกียจเดียดฉันท์กันนัก
“คุณจะไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยเหรอ!” หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายตรงหน้าคือมนุษย์ที่มีเลือดมีเนื้อ และใช้หัวใจในการมีชีวิตอยู่ เพราะสำหรับเธอแล้ว ธีโอเปรียบเสมือนหุ่นยนต์เผด็จการที่ไร้หัวใจและความเมตตาเสียมากกว่า
“ยกหนี้ให้ถึงแปดสิบล้าน มันใจร้ายตรงไหนกันคุณผู้หญิง แค่แลกกับการยอมเป็นผู้หญิงของผม นั่นนับว่าคุณเป็นฝ่ายได้เปรียบมากเลยรู้ไหม คุณควรจะพูดว่าผมใจดีเกินไปมากกว่านะ อีกอย่างคุณมันก็เป็นแค่ผู้หญิงมือสอง ทำไมต้องทำเหมือนไม่เคยด้วย” คำพูดจาดูถูกศักดิ์ศรีทำให้พลอยญาวีแทบทนไม่ไหว ดวงตาของเธอแดงก่ำและจ้องมองเขาด้วยความชิงชัง สองมือกำแน่นเพื่อเตือนตัวเองให้ใจเย็น ขืนทำอะไรให้เขาไม่พอใจ เธออาจโชคร้ายถูกลงโทษเหมือนเมื่อคืนก็ได้
“ใช่! ฉันมันผู้หญิงมือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่ควรลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับฉันไม่ใช่เหรอ ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นพวกผู้มีอิทธิพล มันจะไม่น่าอายเหรอ ถ้ามาเอาผู้หญิงมีราคีอย่างฉันไปเป็นนางบำเรอของคุณ”
ป่วยการที่จะแก้ต่างให้กับตัวเอง เธอจึงใช้ข้ออ้างนี้กับเขา ด้วยความหวังเพียงน้อยนิดว่าเขาอาจจะฉุกคิดขึ้นมา แล้วล้มเลิกความตั้งใจนั้นเสีย
“ผมไม่แคร์ เพราะถ้าคุณไม่ป่าวประกาศไปทั่ว มันคงไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์”
“คุณนี่มัน...”
“เก็บปากสวยๆ นั่นไว้ให้ผมจูบดีกว่าพลอยญาวี! แม้จะมีชีวิตของคนที่บ้านอิศรเดชากับเพื่อนของคุณเป็นเดิมพัน คุณก็ยังกล้าปฏิเสธผมอีกอย่างงั้นเหรอ...อืม ตกลง ผมจะปล่อยคุณไปก็ได้ แต่คุณคงไม่มีโอกาสได้บอกลาคนของคุณหรอกนะ เพราะแค่ผมโทรศัพท์ไปหาคนของผมที่ตอนนี้คงไปถึงบ้านคุณแล้ว คนของผมก็จะจัดการทันที!” ธีโอตวาดเสียงดัง เพราะหมดความอดทนแล้ว
“ไม่นะ! คนอื่นไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ฉันต่างหากล่ะที่ต้องรับผิดชอบ อยากฆ่าก็ฆ่าฉันสิ เอาเลย! ฆ่าฉันได้เลย เพราะอย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องไปเป็นนางบำเรอของใคร” คำขู่พวกนั้นยังไม่ทำให้หญิงสาวยอมพูดคำว่าตกลงออกมาได้ สันกรามของธีโอนูนเด่นขึ้น ก่อนจะปราดเข้าไปใกล้เธอ แล้วรวบร่างบางเข้ามาปะทะกับอกกว้างในทันที
“ไม่!...ไม่ใช่นางบำเรอ แต่คุณจะเป็นผู้หญิงของผม เป็นคนที่ผมอาจจะแต่งงานด้วยเมื่อถึงเวลา!” เขาตัดสินใจบอกความจริงข้อนี้ไป เผื่อว่ามันจะทำให้คนดื้อยอมตกลงรับข้อเสนอของเขาง่ายขึ้น
“แต่งงานงั้นเหรอ?” พลอยญาวีไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร
“ใช่! เมื่อคืนผมบอกไปแล้วว่าผมจะเป็นคนกู้ศักดิ์ศรีให้คุณเอง”
“นี่หมายความว่ายังไงกันแน่ ฉันงงไปหมดแล้วนะ!” เจ้าของร่างนุ่มนิ่มพยายามดิ้นรนออกห่าง แต่ทำได้แค่เพียงยันอกกำยำของชายหนุ่มไว้เท่านั้น
“ผมรู้เรื่องทุกอย่างระหว่างคุณกับนายศศิน! ผมรู้ว่ามันพูดจาดูถูกคุณไว้ยังไงบ้าง เพราะผมเป็นคนเปิดเผยความเลวของมัน...แล้วส่งคลิปวีดิโอพวกนั้นไปให้คุณดู!”
“นี่คุณเองเหรอที่เป็นคนทำเรื่องนั้น” พลอยญาวีอึ้งจนแทบพูดไม่ออก
“ใช่! นายศศินเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของผม พอผมรู้ว่านายศศินคิดจะหลอกคุณ ผมก็เลยนิ่งนอนใจไม่ได้ ผมส่งคลิปนั่นไปเพื่อให้คุณตาสว่างทันเวลา...ที่ทำไปไม่ใช่เพื่อคุณ ไม่ใช่เพราะต้องการอะไร แต่เพราะผมเห็นแก่มิตรภาพระหว่างผมกับพ่อของคุณ”
ท้ายที่สุดธีโอก็พูดเอาดีเข้าตัว คนอย่างพลอยญาวีคงไม่เหมาะสำหรับไม้แข็ง หากเขาทำให้เธอรู้สึกว่าเขาจริงใจและมีบุญคุณกับเธอ บางทีเรื่องทุกอย่างอาจจะง่ายขึ้น
จริงตามคาด...คนที่หัวอ่อนและมองโลกในแง่ดี ยากนักที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมคนเจ้าเล่ห์ได้ในระยะเวลาอันสั้น พลอยญาวีใช้แรงทั้งหมดผลักอกกว้างออกห่าง
สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความพิศวง แต่ก็พอเรียบเรียงได้ว่าผู้ชายตรงหน้าคือผู้หวังดีที่ช่วยให้เธอหูตาสว่าง และเธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงกล้าพูดว่าจะเป็นคนช่วยกู้ศักดิ์ศรีคืนให้เธอเอง
“คุณทำแบบนี้ไปเพราะอะไร” พลอยญาวีคิดว่าเธอมีสิทธิ์ถามเขา
“ก็อย่างที่บอกไปแล้ว ผมเห็นแก่มิตรภาพที่ดีระหว่างผมกับคุณพ่อของคุณ”
“ข้อนั้นฉันรู้ แต่ถ้าเหตุผลมีแค่นั้นจริง คุณแค่ช่วยให้ฉันรู้ความเลวของศศินก็น่าจะพอแล้ว คุณไม่มีความจำเป็นต้องให้ฉันแลกตัวกับหนี้ก้อนนี้ไม่ใช่เหรอ ฉัน...”
“ใครว่าไม่จำเป็นล่ะ มันจำเป็นมาก เพราะว่า...ผมไม่อยากเห็นคุณลำบาก เมื่อตอนที่คุณพ่อคุณยังมีชีวิตอยู่ เขาพูดถึงคุณเสมอ ผมรู้ดีว่าเขารักและห่วงคุณมากแค่ไหน ความจริงก็ไม่ใช่แค่เหตุผลนี้อย่างเดียวหรอกนะ เพราะลึกๆ แล้วผมอยากเห็นไอ้หมอนั่นเจ็บปวดเสียใจ...ที่ต้องเสียคุณมาให้ศัตรูอย่างผม”
“ที่แท้ฉันก็มีประโยชน์กับคุณนี่เอง”
“ไม่เลย ไม่เชิงว่ามีประโยชน์อะไรนักหรอก ถ้าเทียบกันแล้ว ผมน่ะมีประโยชน์สำหรับคุณเยอะกว่ามาก ทั้งทำให้ชีวิตคุณและทุกคนที่บ้านคุณมั่นคงสุขสบาย แล้วยังได้ลบคำสบประมาทที่นายศศินพูดไว้กับคุณด้วย หวังว่าคุณคงไม่ลืมหรอกนะว่ามันพูดอะไรเอาไว้บ้าง”
“ฉันไม่มีทางลืมหรอก แล้วนี่คุณรู้ได้ยังไงว่าศศินพูดอะไรกับฉัน” พลอยญาวีสงสัย
“ก็วิธีเดียวกับที่ผมเอาคลิปมาให้คุณนั่นแหละ” ธีโอยักไหล่และพร้อมที่จะพูดความจริง “ผมเจาะสัญญาณผ่านกล้องวีดิโอที่คอนโดหมอนั่น แล้วคืนที่คุณไปเห็นภาพบาดตาบาดใจด้วยตัวเอง ผมก็เห็นเหตุการณ์ผ่านกล้องทุกอย่าง ได้รู้ทุกถ้อยคำที่มันพูดกับคุณ จะให้ผมพูดซ้ำให้ฟังก็ได้นะ”
