ตอนที่ ๘ ข้อเสนออัปยศ 1
แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยเข้าสู่ช่วงค่ำของวันใหม่แล้ว แต่พลอยญาวีก็ยังไม่ได้คำตอบ เรื่องที่ว่าเหตุใดเธอจึงกลับมาอยู่ที่ห้องของตัวเองได้ พยายามคิดไตร่ตรองจนปวดหัว ทว่าจนแล้วจนรอดก็ยังคิดไม่ออก เป็นไปได้อย่างไรกันที่เธอจะเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวแบบนั้น
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นสามทีซ้อน ดึงพลอยญาวีให้กลับคืนสู่ความจริง ร่างระหงในชุดเซ็กซี่ยั่วยวนน้อยที่สุดเท่าที่หาได้ตรงไปเปิดประตูทันที อรรัมภายืนยิ้มอยู่ตรงนั้น ก่อนจะก้าวเข้ามาช่วยเพื่อนสาวสำรวจตัวเองว่าเรียบร้อยพร้อมทำงานแล้วหรือยัง
“สวยมากเลยจ้ะพลอย” อรรัมภาชมอย่างจริงใจ คืนนี้เป็นการทำงานวันแรกของพลอยญาวี และเธอพนันได้เลยว่าคุณหนูตกยากคนนี้จะต้องกลายเป็นดาวเด่นของซันซาร์ผับเพียงชั่วข้ามคืนแน่
“สวยสู้อรไม่ได้หรอกน่า” หญิงสาวเอ่ยอย่างที่คิดจริงๆ แต่อรรัมภาส่ายหน้าดิก
“ไม่จริงหรอก พลอยสวยจนน่ากลัวเลยรู้ไหม”
“ตกลงว่าชมหรืออะไรกันแน่จ๊ะอร” พลอยญาวีหัวเราะในลำคอ
“เอ่อ พลอยจ๊ะ คืออรมีเรื่องอยากจะเตือนพลอยนิดหนึ่ง พลอยคงไม่ว่าอรใช่ไหม” อรรัมภาดูลังเล
“อย่าพูดแบบนั้นสิ มีอะไรก็ว่ามาได้เลย เราเป็นเพื่อนกันนะอร ถ้าไม่มีอรพลอยคงแย่ไปแล้ว” เมื่ออีกฝ่ายดึงมือเธอมากุมไว้ แล้วยืนยันว่ายินดีรับฟังทุกอย่าง เธอจึงเริ่มเข้าเรื่องทันที
“เรื่องคุณอ้นน่ะจ้ะ อรว่าพลอยระวังเขาไว้หน่อยก็ดีนะ คือว่าเมื่อคืน...” อรรัมภาไม่แน่ใจว่าควรบอกสิ่งที่อัมรินทร์พยายามทำเมื่อคืนให้เพื่อนรักฟังดีหรือเปล่า
“เมื่อคืนทำไมเหรอ? บอกพลอยมาเถอะ พลอยเองก็สงสัยบางอย่างอยู่เหมือนกัน”
“เมื่อคืนคุณอ้นวางยาพลอย แต่โชคดีที่อรไปพาพลอยออกมาจากที่นั่นได้ทัน”
“อะไรนะ!...มิน่าล่ะพลอยถึงหลับไปแบบไม่รู้ตัวเลย”
“ต่อไปพลอยอย่าไว้ใจเขาอีกนะ คนอย่างคุณอ้นน่ะ ถ้าสนใจใครเขาจะต้องเอาให้ได้”
“เฮอะ พลอยนี่แย่จังเลย ไปไว้ใจผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันได้ยังไง แม้แต่อดีตคู่หมั้นของพลอยเองก็ยังไว้ใจไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” พลอยญาวีนึกระอากับความโง่เขลาของตัวเอง
“อย่าโทษตัวเองเลยพลอย เรื่องร้ายๆ มันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปหรอกนะ”
“ขอให้เป็นอย่างที่อรพูดล่ะกัน อีกอย่างอรอย่าคิดมากเลยนะ ถึงพลอยจะไม่มีทางเลือกอื่นในตอนนี้ แต่พลอยสัญญาว่าจะไม่โง่ให้ใครเอาเปรียบได้อีกแล้ว พลอยโง่มามากพอแล้ว” คนพูดถึงกับน้ำตาคลอ อรรัมภาโอบไหล่เพื่อนสาวเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
“จริงสิ อรลืมเรื่องที่จะมาบอกพลอยไปเกือบสนิทเลย คุณทินผู้ช่วยผู้จัดการบอกอรว่ามีคนต้องการพบพลอยน่ะ เห็นว่าเป็นผู้มีอิทธิพลเชียวนะ พาบอดี้การ์ดมาอารักขาเต็มหน้าห้องวีไอพีเลย”
“ใครกันน่ะอร พลอยไม่รู้จักคนพวกนั้นซะหน่อย” พลอยญาวีเอ่ยถาม ขณะกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้าจนต้องลงเมคอัพใหม่
“เขาคงได้ข่าวจากคนที่นี่ล่ะมั้งว่ามีสาวเสิร์ฟคนใหม่ คงต้องการเรียกตัวพลอยไปดูแลน่ะจ้ะ”
“แล้ว...เขาจะทำอะไรรุ่มร่ามกับพลอยหรือเปล่า” คนสวยถึงกับหน้าเสีย
“แขกระดับวีไอพีไม่ค่อยมีพฤติกรรมต่ำทรามกันหรอกจ้ะ แต่ก็อย่างที่รู้กันแหละว่าถ้าแขกสนใจพนักงานคนไหนขึ้นมา พวกเขาจะเจรจากันเอง ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พลอยสามารถปฏิเสธได้ทันที ไม่ต้องห่วงนะ ที่นี่ไม่มีการบังคับใจแน่นอน อรเองก็ปฏิเสธทุกครั้งเหมือนกันนะ”
“โอเคจ้ะ ได้ยินแบบนี้ค่อยใจชื้นขึ้นหน่อย อรไปทำงานเถอะนะ แค่บอกหมายเลขห้องวีไอพีมาก็พอ พลอยขอเวลาทำใจอีกนิดแล้วจะออกไปเองจ้ะ”
พลอยญาวีไม่สบายใจนักที่ต้องมาทำงานประเภทนี้ จริงอยู่ที่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ไม่ต้องการได้ แต่ถ้าหากผู้ชายคนไหนพูดว่าต้องการตัวเธอ ความรู้สึกก็คงไม่ต่างจากการถูกตบหน้า
“ห้องวีไอพีหมายเลขหนึ่งจ้ะ สู้ๆ นะ แล้วเจอกันหลังเลิกงาน” อรรัมภาแตะไหล่อีกฝ่ายอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะรีบเดินจากไปเพื่อทำหน้าที่ของตัวเอง
พลอยญาวีสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรง แล้วผ่อนออกมาช้าๆ เพื่อคลายความตึงเครียด ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วดึงกระโปรงที่สั้นกุดเพียงต้นขาให้มิดชิดมากที่สุด เสื้อเกาะอกสีดำเน้นสัดส่วนของเธอให้ชัดเจนเหลือเกิน ถึงจะดูสวยเซ็กซี่จนเหลือร้าย แต่มันก็ล่อแหลมจนอาจเกิดอันตรายได้พอกัน
หลังจากทำใจอยู่นานพอแล้ว พลอยญาวีก็พาตัวเองมุ่งหน้าตรงไปยังส่วนของโซนวีไอพีทันที หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่พากันมองตามเธออย่างโลมเลีย ส่งเสียงเฮฮาอย่างชอบอกชอบใจ
หญิงสาวพยายามแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน และคิดว่าการได้ทำงานของตัวเองในห้องวีไอพี คงดีกว่าต้องมาบริการพวกผู้ชายระดับล่างที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยให้เกียรติลูกผู้หญิงสักเท่าไรนัก
พลอยญาวีหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องหมายเลขหนึ่ง บอดี้การ์ดชาวต่างชาติที่ยืนทำหน้าตาถมึงทึงอยู่เกือบสี่คน ทำให้รู้สึกหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูก แต่ยังไม่ทันที่ความมั่นใจจะหมดลง หนุ่มหล่อหุ่นล่ำเจ้าของผมสีน้ำตาลอ่อนทรงสกินเฮดก็เดินออกมาเสียก่อน
“มาแล้วเหรอครับ เชิญทางนี้เลย” ฟรานยืนนิ่งอยู่นานกับความดึงดูดของพลอยญาวี แต่เมื่อได้สติ เขาก็รีบผายมือเชื้อเชิญให้เธอเข้าไปพบบุคคลที่กำลังรอคอยอยู่อย่างจดจ่อ ซึ่งตอนนี้เริ่มหงุดหงิดแล้วที่หญิงสาวมาช้าเกินความจำเป็น
“ขอบคุณค่ะ” พลอยญาวีคิดเอาเองว่าส่วนหนึ่งที่แขกรายนี้ต้องการเรียกใช้เธอ เป็นเพราะคงรู้มาว่าเธอสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี เธอยิ้มให้ฟรานตามมารยาท ลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง
สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ น่าหลงใหล ซึ่งเดาว่าคงเป็นของผู้ชาย พลอยญาวีเพิ่งได้เห็นกับตาเดี๋ยวนี้เองว่าภายในห้องวีไอพีกว้างขวางและหรูหราเพียงใด หากจะให้เปรียบละก็ เธอคิดว่ามันไม่ต่างจากคอนโดมิเนียมเลยด้วยซ้ำ
เท้าเรียวเล็กภายใต้รองเท้าส้นสูงชะงักอยู่กับที่ เมื่อพบช่วงไหล่กว้างกำยำแบบผู้ชายนั่งเอนกายอยู่บนโซฟากำมะหยี่สีดำสนิท แขนทั้งสองข้างของเขาวางระนาบไปบนพนักโซฟา นั่งไขว้ขารอคอยการมาของเธออย่างจดจ่อ คล้ายมีแรงดึงดูดบางอย่างทำให้พลอยญาวีค่อยๆ เดินอ้อมไปหาเขาอย่างช้าๆ
ตอนแรกเธอคิดว่าแขกผู้มีอิทธิพลรายนี้คงเป็นตาแก่รูปร่างอ้วนท้วนลงพุง แต่เมื่ออีกฝ่ายหันขวับมามองอย่างรวดเร็ว หญิงสาวก็รู้ทันทีว่าตัวเองคิดผิดพลาดไปเยอะทีเดียว
ดวงตาสีเขียวอมฟ้าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ร้ายกาจจ้องมองพลอยญาวีชนิดไม่ละสายตา คิ้วเข้มได้รูปที่ก่อนนี้ขมวดเป็นปมอย่างหงุดหงิดใจคลายออกแทบจะทันที ธีโอถึงกับพูดอะไรไม่ออก เมื่อได้เห็นชัดถึงความงดงามบนดวงหน้าสวยคมแบบชาวเอเชีย
ดวงตาสีดำสนิทของเธอประสานแน่วแน่เข้ากับดวงตาสีสวยของเขา จมูกโด่งเรียวเล็กรับกับริมฝีปากที่ทาทับด้วยลิปสติกสีพีช ซึ่งเวลานี้กำลังเผยอขึ้นอย่างยั่วยวน โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจเลยแม้แต่น้อย ผิวขาวเนียนละเอียดที่แม้แต่มองด้วยตาเปล่า ก็ยังจินตนาการได้ว่ามันจะต้องนุ่มลื่นดุจแพรไหมชั้นดี
ธีโอพบเจอผู้หญิงมาจนนับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีใครสร้างความรู้สึกร้อนรุ่มให้กับเขาตั้งแต่แรกพบอย่างนี้ โสตประสาททุกส่วนตื่นตัวอย่างพร้อมเพรียง หัวใจเต้นแรงจนน่ารำคาญ แต่เขาก็พอใจที่มันเป็นแบบนี้เพราะเธอ
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” พลอยญาวีเอ่ยทำลายความเงียบ ตอนแรกเธอก็พูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน เพราะหนุ่มหล่อประหารตรงหน้าเอาแต่จ้องเธอตาเป็นมัน เขาทำเหมือนว่าชีวิตนี้ไม่เคยได้พบเจอผู้หญิงมาก่อนเสียอย่างนั้น
“อ่า...ผมโอเคดี คุณ...ช่วยจัดการเครื่องดื่มให้ผมสักแก้วจะได้ไหม” นอกจากจะสวยทรมานใจแล้ว น้ำเสียงนุ่มไพเราะก็ยังทำให้ธีโอถึงกับพูดจาติดขัด ชายหนุ่มกระแอมเบาๆ เพื่อเรียกสติตัวเอง สองมือขยับเสื้อสูทกระชับเข้าหาลำตัวให้มากขึ้น แล้ววางประสานกันนิ่งอยู่บนตัก เพราะไม่รู้จะวางมือไม้ที่เวลานี้แสนเกะกะไว้ตรงไหนดี
เขาลืมไปหมดแล้วด้วยซ้ำว่าต้องการพูดอะไรกับเธอ...
พลอยญาวีทำหน้าที่ของตัวเอง จัดการผสมเครื่องดื่มให้ชายหนุ่มตามที่อรรัมภาสอนมาอย่างดี แล้วมือขาวเนียนที่พยายามควบคุมความสั่นก็ยื่นแก้วส่งให้เขา เพียงแค่ปลายนิ้วเรียวยาวสัมผัสกัน หัวใจของต่างฝ่ายต่างก็เต้นแรงขึ้นมาอีก พวงแก้มของพลอยญาวีร้อนฉ่าไปหมด เธอหลบสายตาร้อนแรงของหนุ่มหล่อตรงหน้าด้วยการเสมองแก้วเครื่องดื่มอีกใบที่ยังว่างอยู่
“ดื่มด้วยกันสิ” ธีโอชวนคุย ลอบมองหญิงสาวผ่านแก้วเครื่องดื่มที่ยกขึ้นจ่อกับริมฝีปาก
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์” พลอยญาวีปฏิเสธโดยไม่มองหน้าเขา
“ถ้างั้นผมจะสั่งอย่างอื่นขึ้นมาให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการตัวเองเรียบร้อยดีแล้ว”
“แต่ผมคิดว่าคุณผอมเกินไปนะ น่าจะทานอาหารให้มากกว่านี้หน่อย”
ธีโอพูดอย่างที่ใจคิด แต่นั่นทำเอาพลอยญาวีหน้าแดง เพราะสำนึกได้ว่าในขณะที่เธอเอาแต่ก้มหน้าหลบเขา เขาคงสำรวจรูปร่างเธอจนถ้วนทั่วแล้ว
“ค่ะ”
“คุณทำงานนี้มานานหรือยัง”
“คืนนี้คืนแรกค่ะ” คำตอบนี้ทำให้ธีโอลอบยิ้มพึงพอใจ อย่างน้อยเขาก็เป็นคนแรกที่ได้เรียกตัวเธอมาอยู่ตามลำพังแบบนี้ แต่มันก็น่าเสียดายไม่น้อยที่ยังแพ้ศศิน หมอนั่นไม่สมควรได้แตะต้องผู้หญิงที่สง่างามดุจพญาหงส์อย่างพลอยญาวีเลยสักนิด
“ครอบครัวคุณไม่ว่าเหรอที่มาทำงานแบบนี้ ดูแล้วคุณน่าอายุไม่เท่าไรเอง” ชายหนุ่มยังแสร้งถามความเป็นมาของหญิงสาวต่อไป
“พ่อแม่ของฉันเสียชีวิตหมดแล้วค่ะ”
“ผมเสียใจที่ได้ยินแบบนั้น คุณโอเคแล้วใช่ไหม”
“ไม่เชิงหรอกค่ะ คุณพ่อฉันเพิ่งเสียไปไม่นานนี้เอง บอกตามตรงว่าฉันยังทำใจไม่ได้” พลอยญาวีบอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงเต็มใจเล่าเรื่องส่วนตัวให้ชายหนุ่มฟัง เธอรู้แค่เพียงว่าหากมีใครสักคนยินดีรับฟังความทุกข์ของเธอ เธอก็อยากจะแบ่งปันมันออกไปบ้าง ไม่ใช่เก็บซ่อนเอาไว้คนเดียวเหมือนที่ผ่านมา
“เป็นธรรมดา ตอนคุณพ่อคุณแม่ผมเสีย ผมก็แย่มากเหมือนกัน” น้ำเสียงทุ้มที่ฟังดูอ่อนโยนมากขึ้นทำให้พลอยญาวีเริ่มเงยหน้าขึ้นสบตา
“เสียใจด้วยนะคะสำหรับการสูญเสียของคุณ”
“ไม่เป็นไร ผมชินแล้วล่ะ อืม...แล้วคุณไม่มีคนรักเหรอ ผมคิดว่าเขาคงไม่พอใจนัก ถ้าแฟนสาวคนสวยออกมาทำงานกลางคืนแบบนี้ เพราะมันค่อนข้างอันตรายทีเดียว”
“ไม่มีค่ะ แล้วก็ไม่อยากจะมีด้วย”
คำตอบนี้คนพูดเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระด้างขึ้นเล็กน้อย มุมปากของธีโอยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเธอมองมาเขาก็ปรับสีหน้าให้เรียบเฉย ดูไม่ยินดียินร้ายใดๆ กับเรื่องส่วนตัวของเธอ ทั้งที่ความจริงแล้วเขากำลังใช้จิตวิทยาหลอกให้เธอแสดงความเป็นตัวเองออกมา วิธีนี้ใช้ได้ผลมานักต่อนักแล้ว
“คุณคงลำบากมากใช่ไหมถึงเลือกทำงานนี้”
“ความลำบากไม่สำคัญเท่ากับภาระหน้าที่...ที่ฉันต้องรับผิดชอบต่อจากคุณพ่อของฉันหรอกค่ะ”
“ภาระหน้าที่งั้นเหรอ?”
“ค่ะ มันเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญ ฉันต้องทำงานนี้เพราะหาเงินได้เร็ว แต่ฉันทำด้วยความบริสุทธิ์ใจนะคะ ไม่มีการดูแลแขกนอกเหนือจากนี้แน่นอน” พลอยญาวีใช้โอกาสนี้พูดดักคอเขาไว้เสียเลย
ธีโอมองสาวสวยตรงหน้าด้วยความประทับใจสุดบรรยาย คำพูดของเธอยืนยันได้ว่าเธอยังตระหนักถึงหนี้สินที่ยังค้างคาเขาเอาไว้ ซึ่งนั่นหมายความว่าถ้าหากเธอรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเขาคือเจ้าหนี้ของเธอ เธอจะต้องขอเจรจาผ่อนผัน หรือไม่ก็ขอยืดเวลาใช้หนี้ออกไป
แน่นอนว่าเธอจะไม่มีทางได้อย่างที่หวังไว้ เพราะเขาจะใช้หนทางนี้บีบบังคับให้เธอยอมมาเป็นผู้หญิงของเขา ตอนแรกธีโอไม่ได้รีบร้อนนัก ตั้งใจจะให้เวลาเธอไตร่ตรอง แต่เมื่อได้พบหน้ากันแล้ว ความคิดเขาก็สั้นลง เธอจะต้องตอบรับคืนนี้และเดี๋ยวนี้ด้วย
“ผมคิดว่าผมช่วยคุณได้”
