บท
ตั้งค่า

ตอนที่ ๖ ก้าวแรกในสังคมใหม่ 1

พลอยญาวียืนนิ่งอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง มันดูเก่าและโกโรโกโสจนเธอเริ่มลังเลใจ ตอนนี้ชาติชายขับรถกลับไปที่บ้านอิศรเดชาแล้ว เพราะกลัวศศินจะสงสัยเอา ฉะนั้นหญิงสาวถึงต้องยืนเคว้งอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืด

เมื่อสายลมของต้นฤดูหนาวลอยเข้ามาปะทะผิวกาย พลอยญาวีก็ยกแขนเรียวขึ้นโอบรอบเอวตัวเองไว้ อันที่จริงสภาพของเธอก็ไม่ได้ดูดีไปกว่าบ้านหลังเล็กตรงหน้าเลย ชุดกระโปรงสีดำยาวคลุมเข่ายับยู่ยี่ไปหมด ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หน้าตาก็ซีดเซียวจนดูแทบไม่ได้

พลอยญาวีไม่มีเวลาให้คิดมากอีก เมื่อเจ้าของบ้านหลังเก่าเปิดประตูออกมา ตอนนี้อีกฝ่ายแต่งตัวเสียสวยหรู ต่างจากเธอที่ดูเหมือนคุณหนูตกยากอย่างเต็มขั้น

อรรัมภาตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นเพื่อนสาวที่ขาดการติดต่อไปนานถึงสองปียืนอยู่หน้าบ้าน นับตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน สองสาวต่างก็แยกย้ายกันไป พลอยญาวีถูกบิดาส่งตัวไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ส่วนอรรัมภาต้องทำงานหาเลี้ยงน้องชาย จึงไม่สามารถหาเงินส่งตัวเองเรียนต่อได้อีก

“พลอย! นี่เธอจริงๆ เหรอเนี่ย!” อรรัมภาตรงเข้ามาสวมกอดพลอยญาวีแน่น ใบหน้าสวยที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางจัดจ้าน ดูสดใสร่าเริงขึ้นกว่าตอนแรก

“เอ่อ...เธอสบายดีนะ” หญิงสาวไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร จึงทักทายเพื่อนสนิทด้วยประโยคธรรมดาไปก่อน

“สบายดีจ้ะ แล้วพลอยล่ะ หายหน้าหายตาไปนานตั้งสองปีแน่ะ อรคิดถึงมากเลยรู้ไหม”

“เอ่อ เรียนปริญญาโทมันค่อนข้างหนักน่ะจ้ะ พลอยก็เลยไม่ค่อยได้ติดต่อหาใครเลย”

“แบบนี้ก็แสดงว่าเพิ่งกลับมาเมืองไทยน่ะสิ” อรรัมภาซักต่อ

“ใช่จ้ะ เพิ่งมาได้ไม่นานเอง ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ติดต่อหาอรเลย” สีหน้าของพลอยญาวีดูสลดลง

“ช่างมันเถอะน่า” อรรัมภาตัดบท “ถ้าไม่รังเกียจสภาพบ้านเก่าๆ ของอรก็เข้ามาข้างในก่อนสิ” ก่อนจะเชื้อเชิญเพื่อนสาวด้วยความเต็มใจ พลอยญาวีรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะเรียกร้องอะไรได้ เธอจึงพยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินตามภรรัมภาเข้ามาข้างในบ้าน

“นี่โชคดีนะที่พลอยมาทันเวลาพอดี อรกำลังจะออกไปทำงานอยู่แล้วเชียว” สาวสวยรูปร่างอวบอัดบอกกับหญิงสาว ขณะเดินแยกไปรินน้ำจากตู้เย็นมาบริการ

พลอยญาวียังยืนกอดกระเป๋าเป้อยู่ที่เดิม บ้านของอรรัมภาทั้งรกและเต็มไปด้วยเศษฝุ่น เธอจึงไม่รู้ว่ามีที่ตรงไหนพอจะให้หย่อนกายนั่งพักได้บ้าง ดูเหมือนเจ้าของบ้านจะพอมองออก ถึงได้จัดการโยนข้าวของที่วางเกะกะอยู่บนโซฟาขาดๆ ทิ้งลงบนพื้น พลอยญาวีโล่งอกมากที่ยังเห็นรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าอรรัมภา

“ขอโทษด้วยนะพลอย พอดีว่าปกติอรจะค้างอยู่ที่ผับน่ะ น้องชายอรก็อยู่ที่โน่นด้วย อรไม่ค่อยได้กลับมาบ้านหลังนี้หรอก”

“บังเอิญจังเลยนะที่พลอยได้เจออรพอดี” หญิงสาวเอ่ยพลางเอื้อมมือไปรับแก้วน้ำดื่มจากอรรัมภา จากนั้นก็ค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาที่ทั้งเก่าและขาด

“ใช่จ้ะ บังเอิญมากเลย พอดีว่าวันนี้อรกลับมาหยิบของนิดหน่อยน่ะ เราเลยได้พบกัน”

“ว่าแต่...เมื่อกี้อรบอกว่าอรไปค้างที่ผับเหรอ” พลอยญาวีเพิ่งนึกขึ้นได้

“อืม อรทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่ผับใกล้ๆ นี่เอง พลอยคงแปลกใจสินะว่าทำไมอรทำงานแบบนี้ ทั้งที่เรียนจบปริญญาตรี” อรรัมภาหยุดยิ้มให้หญิงสาว “อย่างที่รู้นั่นแหละว่างานสมัยนี้หายากมาก เงินเดือนก็น้อยจนไม่พอใช้ อรตัดสินใจทำงานที่ผับเพราะเหตุผลหลายอย่างนะ อย่างแรกก็คือมันได้เงินดีมาก อย่างที่สองคือมันอาจช่วยให้ชีวิตอรสบายขึ้นในอนาคต”

“พลอยไม่เห็นเข้าใจเลยว่ามันจะช่วยเรื่องอนาคตอรได้ยังไง”

“ได้สิพลอย นี่ลองคิดดูสิ...ถ้าวันหนึ่งมีผู้ชายที่ดีและร่ำรวยมาถูกใจอรเข้า มันก็เท่ากับว่าถูกล็อตเตอรี่เลยนะ แต่ก็อย่างว่าแหละจ้ะ...มันเป็นแค่สิ่งที่อรวาดฝันไว้เฉยๆ คงยากที่จะเกิดขึ้นได้จริงๆ ผู้ชายสมัยนี้เห็นแก่ตัวกันจะตายไปเนอะ”

พลอยญาวีเห็นด้วยกับท้ายประโยคของอรรัมภา เพราะผู้ชายเห็นแก่ตัวที่เธอรู้จักดีก็คือศศิน

“แล้วคิดยังไงถึงมาหาอรถึงที่นี่ล่ะ”

“คือ...” หญิงสาวอึกอัก “พลอยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงเหมือนกัน”

“ดูจากสภาพของพลอยแล้วมันคงไม่ใช่เรื่องดีใช่ไหม?”

อรรัมภาดึงมือบางไปกุมไว้ สีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจเกือบทำให้พลอยญาวีร้องไห้ แต่เธอพยายามหักห้ามมันไว้ด้วยการกลอกตาไปมา

“คุณพ่อพลอยเพิ่งเสียไปเมื่ออาทิตย์ก่อน” พลอยญาวีเม้มปากแน่นเมื่อพูดจบ “ทิ้งหนี้สินเอาไว้มากมายมหาศาล แล้วคนที่ต้องรับผิดชอบชดใช้หนี้พวกนั้นก็คือพลอย”

อรรัมภาพยายามทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี แม้สีหน้าจะตื่นตกใจกับการที่เพื่อนต้องสูญเสียบิดาก็ตาม

“แล้ววันนี้พลอยก็เพิ่งถูกอดีตคู่หมั้นพยายามจะขืนใจ แต่โชคดีมากที่พลอยหนีรอดมาได้ ตอนนี้พลอยมีเงินติดตัวอยู่แค่ไม่กี่พันบาท แล้วก็ไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้วด้วย เพราะแบบนี้แหละพลอยถึงต้องมาหาอร นมรุ่งบอกว่าพลอยควรหนีมาตั้งหลักก่อน เพราะผู้ชายคนนั้นอาจจะทำเรื่องเลวร้ายกับพลอยอีกเมื่อไรก็ได้”

“ตายจริง! ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้นะ” อรรัมภาไม่คิดเลยว่าเพื่อนของเธอจะต้องโชคร้ายถึงเพียงนี้

“พลอยไม่รู้จะทำยังไงต่อไปแล้วนะ พลอยอับจนหนทางจริงๆ พลอย...”

“ใครว่าหมดหนทางล่ะพลอย” อรรัมภายิ้มให้กำลังใจ “ถ้าไม่มีใครก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ไปอยู่กับอรที่ผับก็ได้ แต่ถ้าพลอยไม่อยากอยู่ในสถานที่แบบนั้น อรจะจ้างคนมาทำความสะอาดบ้านหลังนี้ให้ก็แล้วกันนะ”

“ไม่ต้องลำบากหรอกอร ตอนนี้พลอยไม่ใช่คุณหนูร้อยล้านพันล้านเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้วนะ ต่อไปพลอยคงต้องปรับตัวให้ชินกับชีวิตใหม่ สังคมใหม่...เอาเป็นว่าพลอยจะไปอยู่ที่ผับกับอรนะ ถ้าพลอยมีงานทำเมื่อไร พลอยคงจะไม่รบกวนอรอีก” พลอยญาวีตัดสินใจโดยเร็ว เธอพยายามฝืนยิ้มและกลั้นน้ำตา ทว่ามันทำได้ยากเย็นเหลือเกิน

อรรัมภาตบไหล่เพื่อนสาวอย่างให้กำลังใจ ก่อนลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อนำแก้วน้ำในมือของเพื่อนสาวไปเก็บ สีหน้าของพลอยญาวีดูเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก เธอลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า และออกไปยืนรออยู่หน้าบ้านโดยไม่พูดไม่จา ซ้ำยังลืมสนใจกระเป๋าเป้ใบเล็กอันเป็นสมบัติชิ้นเดียวไปเสียสนิท อรรัมภามองตามร่างบางอย่างห่วงใย ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้มาถือไว้เอง แล้วรีบออกไปสมทบกับพลอยญาวีที่หน้าบ้าน

สองสาวพากันเดินออกมาจนถึงหน้าซอย ปกติอรรัมภาจะเดินเท้าไปที่ผับเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งใช้เวลาราวสิบนาที แต่วันนี้เธอคิดว่าควรเรียกรถใช้บริการรถแท็กซี่ เพราะพลอยญาวีคงเดินต่อไปได้อีกไม่กี่ก้าว แค่มองภายนอกก็สังเกตได้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังบอบช้ำมากแค่ไหน และคงไม่มีอะไรช่วยฟื้นฟูจิตใจได้ นอกจากรอให้วันเวลาคืบคลานผ่านไปเท่านั้น

SunSar Pub

ผับที่อรรัมภาทำงานอยู่ค่อนข้างหรูหราและมีระเบียบ ลูกค้าส่วนใหญ่มักเป็นชาวต่างชาติที่แต่งกายดูดีมีระดับ ซันซาร์ผับมีพนักงานเสิร์ฟเป็นผู้หญิงล้วน แต่ละคนรูปร่างหน้าตาดีเทียบชั้นดารางนางแบบเลยก็ว่าได้ พลอยญาวีรู้สึกเวียนหัวกับไฟหลากสีที่ประดับประดาอยู่ทั่วทุกบริเวณ กลิ่นแอลกอฮอล์และน้ำหอมต่างรสนิยมที่แทรกอยู่ตามอากาศทำให้เกิดอาการพะอืดพะอม ดูเหมือนอรรัมภาจะสังเกตเห็นเข้าพอดี

“ไหวไหมพลอย”

“ไหวจ้ะไหว พลอยแค่ไม่ค่อยได้เข้ามาในสถานที่แบบนี้น่ะ เลยยังไม่ค่อยชินนัก” พลอยญาวีบอกยิ้มๆ

อรรัมภาไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีก แต่รีบพาเพื่อนสาวเดินผ่านโซนธรรมดาเข้าไปยังโซนวีไอพีที่มีบรรยากาศดีกว่า อย่างน้อยมันก็ช่วยให้สองสาวก็หายใจได้คล่องขึ้น

อรรัมภาทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างรีบร้อน คว้ามือพลอยญาวีให้รีบเดินตามมาติดๆ เพราะสายตาโลมเลียจาบจ้วงของลูกค้าในผับทำให้อรรัมภารู้สึกอึดอัดแทน สองสาวเดินตรงไปตามทางไม่ไกลนักก็ทะลุออกไปสู่บริเวณข้างหลังผับ มีห้องพักขนาดย่อมหลายสิบห้องเรียงกันเด่นอยู่ตรงหน้า

“เดี๋ยวก่อนอร!” เสียงห้าวทุ้มที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำให้อรรัมภาชะงัก

“สวัสดีค่ะคุณอ้น” หล่อนยกมือไหว้ทำความเคารพ เมื่อพบว่าคนที่ร้องเรียกคือผู้จัดการของซันซาร์ผับ

อัมรินทร์รับไหว้สาวเสิร์ฟคนสวย ไม่ลืมชายตามองไปยังหญิงสาวที่ยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลังเหมือนกำลังประหม่า ครั้งแรกที่เห็นอรรัมภาพาเธอเข้ามาในผับ ชายหนุ่มก็เกิดความสนใจขึ้นทันที และคิดว่าถ้าหากได้สาวสวยคนนี้มาร่วมงาน เธอจะเป็นดาวเด่นที่ช่วยเรียกแขกให้มาที่ซันซาร์ผับเพิ่มขึ้นแน่

“พาใครมาเหรอ ไม่คุ้นหน้าเลย” อัมรินทร์ถาม ขณะจ้องมองที่พลอยญาวีชนิดไม่วางตา

“เพื่อนน่ะค่ะ ชื่อพลอยญาวี” อรรัมภาแนะนำ ตอนนี้เองที่พลอยญาวีกล้าก้าวออกจากยืนตรงหน้าอัมรินทร์ ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ทั้งที่ดูจากภายนอกแล้วอีกฝ่ายอายุไม่น่าจะต่างจากมากเธอนัก

“สวัสดีครับ ผมอัมรินทร์นะ เป็นผู้จัดการของซันซาร์ผับ” ชายหนุ่มแนะนำตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแยกยิ้มมีเสน่ห์ อรรัมภาถึงกับหน้าเสีย เมื่อเข้าใจได้ว่าอัมรินทร์คงสนใจเพื่อนสาวของเธอเข้าให้แล้ว และผู้หญิงที่อัมรินทร์สนใจ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเอาให้ได้ เหมือนอย่างที่เขาเคยทำกับอรรัมภามาก่อน แล้วก็ไม่ไยดีอีก

“ค่ะ” พลอยญาวีตอบรับด้วยคำสั้นๆ แล้วยิ้มให้อีกฝ่ายตามมารยาท

“แล้วนี่คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ อย่าบอกนะว่าจะมาพักอยู่กับอร” อัมรินทร์ถามอย่างรู้ทัน

“ใช่ค่ะ คือฉันมีปัญหานิดหน่อยเลยจำเป็นต้องมาขอพักอยู่กับอรก่อนน่ะค่ะ”

“อืม แต่อรก็มีน้องชายมาพักด้วยแล้วนี่ครับ มันจะไม่คับแคบไปหน่อยเหรอ” ประโยคนี้ทำให้อรรัมภากับพลอยญาวีหันมาสบตากัน จริงอย่างที่อัมริมทร์พูด ห้องพักที่สร้างขึ้นตามปกติแล้วมีไว้สำหรับคนเพียงคนเดียว แต่นี่อรรัมภาพาน้องชายมาอยู่ด้วยแล้ว หากพลอยญาวีย้ายเข้ามาอีกคน เห็นทีคงแทบต้องแย่งอากาศกันหายใจ

“เอาแบบนี้ดีไหมครับ คุณก็สมัครเป็นสาวเสิร์ฟของที่นี่ซะสิ ผมจะได้เปิดห้องพักใหม่ให้คุณ ที่สำคัญคุณจะได้รับเงินเดือนทุกเดือนด้วยนะครับ ผมว่าคงดีกว่าอยู่เฉยๆ” อัมรินทร์เสนอ

วูบหนึ่งพลอยญาวีคิดว่าเธอควรกลับไปบ้านพักโกโรโกโสของอรรัมภา แล้วพักอยู่ที่นั่นเสีย แต่เมื่อนึกถึงจำนวนเงินเล็กน้อยที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาได้ ความคิดก็เริ่มสับสนปนเป หากตกลงยอมทำงานที่ซันซาร์ผับ เธอคงต้องยอมรับความจริงหลายรูปแบบที่จะตามมา ทั้งวาจาจาบจ้วง ทั้งการถูกลวนลามจากลูกค้ามากหน้าหลายตา พลอยญาวีไม่แน่ใจนักว่าเธอจะทำใจยอมรับได้เหมือนกับอรรัมภา

“พลอย ถ้าลำบากใจก็ช่างมันเถอะนะ เดี๋ยวค่อยหางานอื่นทำก็ได้” อรรัมภาหันไปกระซิบกับเพื่อนสาว เมื่อเห็นสีหน้าคล้ายกำลังกระอักกระอ่วนใจ พลอยญาวีนิ่งเงียบไม่โต้ตอบ และเมื่อตัดสินใจได้ว่าควรเอาอย่างไรกับชีวิตตัวเองต่อไปดี เธอก็สบตากับอัมรินทร์ตรงๆ ก่อนจะให้คำตอบ

“ตกลงค่ะ ฉันจะทำงานที่นี่”

“พลอย...” อรรัมภาดูลำบากใจไม่น้อย แต่พลอยญาวีพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องห่วง เธอมั่นใจว่าสิ่งที่ตัดสินใจถูกต้องดีแล้ว

“ดีครับ ถ้างั้นคุณพร้อมจะเริ่มงานเมื่อไรล่ะ”

“อันที่จริงฉันก็พร้อมคืนนี้เลยค่ะ แต่เรื่องเสื้อผ้า...”

“อย่าห่วงเลย ที่ห้องแต่งตัวน่าจะมีสักชุดที่คุณใส่ได้ เดี๋ยวให้อรไปช่วยเลือกล่ะกันนะครับ”

อัมรินทร์รีบแทรกขึ้น เขาอยากเห็นคนสวยหุ่นนางแบบสวมเสื้อผ้าแบบชิ้นเล็กชิ้นน้อยใจแทบขาดแล้วเหมือนกัน รับรองได้เลยว่าอีกไม่นานเกินรอ พลอยญาวีก็ต้องเสนอตัวให้เขาเหมือนสาวเสิร์ฟบางคนที่ต้องการอภิสิทธิ์พิเศษนั่นแหละ

เมื่อหมดธุระกับพลอยญาวีแล้ว อัมรินทร์ก็รีบแยกตัวไปสั่งให้แม่บ้านจัดเตรียมห้องพักให้สาวเสิร์ฟคนใหม่ พร้อมนำสัญญาว่าจ้างมาเตรียมไว้สำหรับเธอด้วย อรรัมภาพาเพื่อนสาวไปนั่งรอที่ห้องรับรองแขก ไม่นานนักอัมรินทร์ก็กลับเข้ามาพร้อมซองเอกสารสีน้ำตาล

“นี่กุญแจห้องครับ แม่บ้านทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว” ชายหนุ่มยื่นกุญแจห้องพักส่งให้

“ขอบคุณค่ะ” พลอยญาวีรับมันมากำไว้ในมือ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel