บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 18 ปิ่นปักผม

ในตลาดแห่งนี้มีของขายหลายอย่างแปลกตา และมีสินค้าหน้าตาประหลาดอีกมากที่ไม่เคยรู้จัก ที่แปลกคือมีเครื่องดนตรีหลายชนิดทำจากไม้เนื้อดี ถูกวางไว้ให้หยิบใช้โดยไม่คิดเงิน แสดงออกถึงสัญลักษณ์ของเมืองจ้านหลิวเป็นอย่างดี ว่าผู้คนถนัดด้านการดนตรีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาหรือแม้แต่ชนชั้นกษัตริย์ก็ตาม หญิงสาวเดินวนและซึมซับเรื่องราวของผู้คนในตลาดจนพอใจ จวบจวนถึงเวลาต้องล่ำลาจากกัน

“เฟยหลง ข้าขอบใจสำหรับทุกอย่าง ถึงเวลาแล้วที่ข้าต้องให้เจ้าเดินทางกลับ” หลังจากได้ฟังคำบอกลาอันแสนเจ็บปวด เด็กชายตัวเล็กจึงก้มหน้าลง พลางกลั้นน้ำตา ซูเจินย่อตัวลงนั่งด้านหน้าด้วยกิริยาอ้อนช้อยงดงาม มองตรงไปที่ใบหน้าอันบริสุทธิ์ของเด็กชาย พลางปลดปิ่นปักผมจากศีรษะออกแล้วยื่นให้

“ปิ่นปักผมนี้ข้ามอบให้เจ้านะ”

“ท่านจะไปแล้วจริงๆ เหรอพี่สาว” เสียงคล้ายจะร้องไห้ตั้งคำถาม

“ข้าต้องไปแล้วนะเฟยหลง และหากยามยากมาเยือน ข้าอนุญาตให้เจ้าขายปิ่นปักผมนั้นได้ โดยไม่ต้องเสียดาย ขอให้เจ้าดูแลแม่ให้ดี ดูแลตัวเองให้ดีนะ” เด็กชายเอื้อมมือมารับปิ่นปักผมราคาแพงด้วยมือสั่นระริก หัวใจดวงน้อยรู้สึกอาทรพี่สาวเป็นอย่างมาก แม้มีเวลาอยู่ร่วมกันไม่นาน หากสายใยแห่งความผูกพันได้ก่อกำเนิดยากทำใจให้นางจากไปได้

“จะเป็นทหาร ห้ามร้องไห้” ซูเจินยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อยด้วยความเอ็นดู

“พี่สาว ข้าจะได้เจอท่านอีกไหม” เป็นคำถามที่หญิงสาวรู้สึกสะเทือนใจจนพูดไม่ออก พลางวาดมือปาดน้ำตาให้เด็กชายอย่างอ่อนโยน

“หากมีวาสนาต่อกัน เราจะต้องได้พบกันแน่นอน ไม่ว่านานแค่ไหน”

“เช่นนั้น ท่านดูแลตัวเองด้วย อย่าลืมกินข้าว ข้าไม่อยากเห็นพี่สาวป่วยแบบเดิมอีก”

“นับจากนี้ ข้าจะดูแลตัวเอง ลาก่อนนะเฟยหลง” ซูเจินยกมือลูบศีรษะของเด็กน้อยเป็นครั้งสุดท้าย แล้วปล่อยให้เด็กชายเดินจากไป หากแต่เขาตัดสินใจหันหลังกลับมา แล้ววิ่งเข้ามากอดลาพี่สาวเป็นครั้งสุดท้าย ซูเจินกลั้นน้ำตาไว้ในส่วนลึก มือบางตอบรับกอดแสนอบอุ่นนั้นพลางกระชับแน่น นางหลับตาลงเพื่อซึมซับความรู้สึกพิเศษ จนเวลาผ่านไปไม่สามารถยื้อไว้ ร่างของเฟยหลงเดินหายวับไปท่ามกลางเหล่าผู้คน

ซูเจินหันกลับมายังเครื่องดนตรีหลายชนิดที่วางอยู่ บัดนี้เหลือตัวคนเดียวแล้ว ขอให้เป็นลิขิตฟ้านำพาชีวิตเธอ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วผลจะออกมาอย่างไรนางยอมรับสิ้น ขอเพียงแค่ไม่ต้องกลับมายังเมืองจ้านหลิวอีก มือบางคว้าพิณขึ้นมา แล้วบรรเลงเป็นเพลงที่ลี่เซียนเคยแต่งให้ หลังจากนางดีดบรรเลงไปได้ไม่นาน เหล่าชาวบ้านต่างหยุดเดินแล้วหันมายังต้นเสียงดนตรีอันแสนไพเราะ

“ผู้ใดกัน ดีดพิณได้ไพเราะเช่นนี้ นับจากข้าเกิดมายังไม่เคยเห็น” หนึ่งในชายที่นั่งอยู่ร้านน้ำชาชะเง้อคอมอง ด้วยความใคร่รู้

“ไม่เพียงแต่ฝีมือดีดพิณเท่านั้น หากแต่ใบหน้างดงามหมดจด หาใครเทียบได้อีก” ชายอีกคนกล่าวชม พลางทำหน้าตะลึงงัน เสียงพิณยังคงบรรเลงไปเรื่อยๆ กลุ่มฝูงชนค่อยๆ รวมตัวกันมากขึ้น

องค์รัชทายาทผู้ไม่เคยสนใจผู้ใด จำต้องละจากถ้วยน้ำชาตรงหน้า หันมองไปยังต้นเสียงและกลุ่มฝูงชน พบหญิงงามคนเดิมที่ทำให้เขาไม่อาจละสายตาได้เมื่อครู่ กำลังบรรเลงเพลงท่ามกลางฝูงชนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ สายตาดำสนิทจับจ้องไปยังมือบางที่กำลังดีดพิณอยู่ การเคลื่อนไหวของปลายนิ้วเรียวยาวทั้งห้า ลื่นไหลอย่างมาก สลับไปมาโดยไม่มีติดขัด แม้มหานครใหญ่จะมีนักดนตรีจำนวนมากคอยบรรเลงขับกล่อมไม่ให้เมืองหลับใหล แต่องค์รัชทายาทยังไม่เคยเห็นผู้ใดดีดพิณได้คล่องแคล่วถึงเพียงนี้ อีกทั้งบทเพลงอันไพเราะยิ่งไม่คุ้นหู

ชายหนุ่มพินิจมองกิริยาอันอ่อนช้อยของนาง รวมถึงสีหน้าแววตาอันบริสุทธิ์ ก่อนคิ้วขมวดชนกันเมื่อจับอารมณ์ภายในที่แสดงผ่านบทเพลงรวมถึงดวงตาหวานดวงนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel