บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 17 พี่สาวงามจัง

“เจ้าเจ็บเช่นนี้ เราพักกินข้าวก่อนไหม” เด็กชายตัวเล็กหันมองห่อข้าว แล้วนึกหิวขึ้นมาจึงพยักหน้าตอบรับ ซูเจินรอบยิ้มให้กับความเดียงสาของเขา ก่อนจะแกะห่อข้าวออกมากิน ทั้งสองใช้เวลาตรงนั้นไม่นานนัก แค่พักให้เฟยหลงหายเจ็บ แล้วเริ่มเดินทางต่อ

“เดินไหวฤาไม่” น้ำเสียงอ่อนหวานกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง เฟยหลงเงยหน้ามองกิริยาอ่อนหวานของพี่สาว เขาพยายามจดจำใบหน้าอ่อนโยนนั้น และจะไม่มีวันลืม ว่านางแสนดีกับเขาเพียงใด

“ข้าเดินไหว” เฟยหลงกลั้นใจขยับตัวลุกขึ้น แล้วก้าวเท้าเดินต่อ ความจริงแล้วแผลเล็กนั้น ไม่ได้ทำให้เจ็บปวด หากแต่ความกลัวต่างหาก ทำให้เฟยหลงร้องไห้เสมือนว่าเจ็บปวดสาหัส ซูเจินสังเกตขาของเด็กน้อยอยู่ตลอดเวลา ว่าเดินต่อไปไหวไหม หากแต่เมื่อเดินมาครู่ใหญ่ไม่มีท่าทีผิดปกติใดๆ ทั้งสองจึงพากันเดินทางต่อ มุ่งตรงไปยังตลาดที่ว่า

อำนาจแห่งพลังเวทขึ้นเจ็ด ปรากฏร่างของชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน สวมชุดสีขาว ผมดำสนิทยาวจรดแผ่นหลัง หน้าตางดงามหมดจดราวกับหลุดมาจากรูปปั้น เข้ามายังตลาดของเมืองจ้านหลิว หลังจากเดินออกมาได้เพียงสองสามก้าว ชายหนุ่มสังเกตมองผู้คนโดยรอบ ชาวเมืองจ้านหลิวล้วนแต่งกายด้วยชุดธรรมดา ผู้คนร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ข้าวของเครื่องใช้ที่วางขายในตลาดเป็นสิ่งที่ชาวบ้านผลิตได้ แล้วนำมาวางจำหน่ายกันเองตามประสา ไม่ได้แตกต่างจากเมืองอื่นๆ อีกสามเมืองนัก สายตากลมหันมองไปยังร้านน้ำชาที่ตั้งเด่นหราอยู่ สองเท้าก้าวตรงไปด้วยกิริยาสง่างาม จนผู้คนเริ่มเหลียวมองเป็นตาเดียว

“เขาเป็นใคร เหตุใดงดงามเช่นนั้น ข้ามิเคยเห็น”

“นั่นสิๆ งามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า”

“เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ” ชาวเมืองส่วนหนึ่งต่างซุบซิบ แล้วมองตรงมายังองค์รัชทายาท ที่นั่งรินชาโดยไม่สนใจผู้คน เขาหวังว่าจะได้พบกับท่านผู้เฒ่าหานตงในเมืองแห่งนี้ แม้แทบเป็นไปไม่ได้เลยก็ตามที

“ไม่ทราบว่าคุณชายจะรับอะไรเพิ่มไหม” เจ้าของร้านชา เดินเข้ามาถามด้วยกิริยานอบน้อม

“ไม่ล่ะ” องค์รัชทายาทปฏิเสธสั้นๆ แล้วนั่งดื่มชาต่ออย่างใช้ความคิด มือหนาขาวสะอาดยกรินชาช้าๆ ก่อนเหลือบไปเห็นสาวงามผู้หนึ่ง สะดุดสายตาเผลอจับจ้องจนไม่อาจละได้

“พี่สาว ร้านผ้าอยู่ทางด้านนี้” เด็กชายตัวเล็กชี้มือมายังร้านขายผ้า ที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้น ด้านนอกมีชุดหลายแบบให้เลือกสรรมากมาย ซูเจินยิ้มกว้างขึ้นอย่างดีใจ ก่อนทั้งสองพากันเข้าไปเลือกชุดด้วยความตื่นเต้น สายตาหวานระริกมองหาชุดที่เหมาะ หากแต่ใช้เวลาอยู่นาน นางไม่สามารถตัดสินใจได้ จึงย่อตัวลงนั่ง ดวงตาหวานจับจ้องไปยังเด็กชายตัวเล็กอย่างตั้งมั่น

“เฟยหลง เจ้าว่าชุดไหนเหมาะกับข้า”

“ข้าไม่รู้ว่าพี่สาวชอบแบบใด แล้วถ้าข้าเลือกให้ ท่านจะชอบฤาไม่” เด็กชายถามอย่างไร้เดียงสา

“ชอบสิ” ซูเจินพยักหน้าตอบ พลางปล่อยยิ้มอันแสนสดใสออกมา

“ชุดนี้สวยไหม ข้าว่าเหมาะกับพี่สาวที่สุด” เฟยหลงหันมองรูปร่างอ้อนแอ้นของซูเจิน เพื่อหาชุดที่เหมาะสมกับนาง ในที่สุดเด็กชายเลือกชุดสีฟ้าครามแบบเดิม หญิงสาวสำรวจมองชุดขึ้นลงช้าๆ รอยยิ้มหวานแสดงความพอใจออกมาเป็นประกาย ก่อนพยักหน้าแล้วหันไปจ่ายเงินในทันที

“พี่สาวงามจัง” หลังจากนางเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย แล้วเดินออกมาอวดโฉม เฟยหลงเอ่ยปากชมพลางมองตาค้าง รอยยิ้มแสนสวยของซูเจินแย้มตอบรับอย่างอ่อนโยน

“ผ้าราคาแพงแบบนี้หายากยิ่งนัก ท่านขายให้ข้าเท่าไหร่” แม่ค้าหญิงชรา มองดูชุดเก่าของซูเจินด้วยความปรารถนาครอบครอง เพราะลวดลายการปัก พร้อมด้วยวัสดุที่นำมาถักทอเป็นสิ่งของหายาก อาจมีตำหนิฉีกขาดไปบ้างแต่ไม่ถือว่ามากมายนัก

“แล้วแต่ท่านจะให้” ซูเจินก้มมองชุดเก่าที่มือ แม้มีความทรงจำมากมาย ทว่าในเวลานี้นางต้องการทิ้งทุกอย่างไว้ที่แคว้นจ้านหลิว หลังจากตกลงค่าตอบแทนเสร็จสิ้น ซูเจินจึงพาเฟยหลงเดินไปหาพุทราเชื่อมตามคำสัญญา หญิงสาวผู้เบิกบานเดินวนอยู่ในตลาดหลายรอบ นางเกิดมาไม่เคยสัมผัสชีวิตอิสระนอกวัง และนี่คือความฝันที่กลายเป็นจริง สามารถทำตามใจตนเองโดยมีอิสระอย่างสมบูรณ์ ไม่ขึ้นกับกฎเกณฑ์ของผู้ใด ใช้สัญชาตญาณและความรู้สึกเป็นตัวดำเนินชีวิต

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel