ตอนที่ 10 วันเวลาล่วงเลย
“องค์รัชทายาทใบหน้างดงาม อีกทั้งกิริยาเคร่งขรึม เป็นที่หมายปองของหญิงสาวในนครใหญ่แห่งนี้ แต่พวกเราผู้ถูกฝึกอบรมมาแล้วอย่างดี คัดจากหมื่นคนจนเหลือพัน นับจากพันคัดจนเหลือร้อย แลเหตุใดองค์รัชทายาทจึงไม่ปรายตามองพวกเรา” หนึ่งในสาวงามหันไปรำพันกับเพื่อนด้วยความสิ้นหวัง แม้ความเย็นชาขององค์รัชทายาทจะเป็นที่กล่าวขานกันมาช้านาน แต่เมื่อประสบพบด้วยตัวเองแล้ว เขากลับลึกลับยิ่งกว่า
“อย่างไร ได้ผลฤาไม่” พระมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ กล่าวถามเสนาบดีด้วยความหวัง ทว่าใบหน้าตอบกลับอย่างซีดเซียว แสดงเด่นชัดเป็นคำตอบแล้วว่าล้มเหลว
“ข้าหมดปัญญาแล้ว หลายร้อยปีมานี้ พวกเราพยายามหาชายาที่เหมาะสมให้กับโจวอี้เฟย แต่ลูกข้ากลับปฏิเสธสิ้น แล้วเมื่อใดกันเล่าข้าจะสมดังใจ” พระมหาจักรพรรดิ ถอนหายใจพลางหันกลับไปยังแท่นประทับ ด้วยความท้อใจอย่างถึงที่สุด
“ยังพอมีเวลาอีกมากพ่ะย่ะค่ะ”
“มากแค่ไหนก็เหมือนน้อยนิดเต็มที ตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกข้าไม่เคยมองหญิงใด หากถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยน
องค์จักรพรรดิ ข้าหมดอำนาจต้องขึ้นสู่ด้านบน ลูกข้าจะดำรงอำนาจสืบต่อโดยขาดชายามิได้”
“ขอองค์พระมหาจักรพรรดิอย่าได้ทรงวิตกในยามนี้ ข้าขอสัญญาว่าจะทำทุกทางเพื่อให้องค์รัชทายาทมีชายาเคียงคู่ให้จงได้ หากยามนี้องค์รัชทายาทยังไม่ยอมมองหญิงใด เราก็แค่รอเวลาอีกประมาณสองร้อยปีเศษ เมื่อแคว้นต่างๆ ส่งบรรณาการมา จักต้องตามด้วยหญิงงามมากฝีมือ ถึงเวลานั้นองค์รัชทายาทอาจเปลี่ยนพระทัยก็เป็นได้พ่ะย่ะค่ะ”
“นั่นคือความหวังสุดท้ายของข้าแล้ว ท่านเสนาบดี” พระมหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ถอนหายใจยาวเหยียด เพราะไม่ว่าจะหาสาวงามมาให้องค์รัชทายาทสักเพียงใด ท่าทีเฉยเมยของโจวอี้เฟยกลับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ไม่เคยเอ่ยถึงหญิงใด ซ้ำยังหลีกเลี่ยงอย่างถึงที่สุด ราวกับว่าเขาไม่ต้องการความรัก
หลังจากสาวงามและเสนาบดีพากันเดินออกจากตำหนัก องค์รัชทายาทจึงเงยหน้าพ้นตำราเวท พลางส่ายศีรษะไปมา เขาไม่คิดโทษผู้ใด เพราะเป็นคำสั่งตรงมาจากพระมหาจักรพรรดิ มิมีผู้ใดปฏิเสธได้ ชายหนุ่มก้มมองนิ้วมือก่อนจะรวบรวมพลังเวทระดับเจ็ดซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่สำเร็จในตอนนี้
“ถวายบังคมองค์รัชทายาทเพคะ” เพียงชั่วอึดใจ ร่างของโจวอี้เฟยก็โผล่มายังสระน้ำสีเขียวมรกต ชายหนุ่มแทรกก้าวเข้ามาระหว่างรอยต่อของสถานที่ อันเกิดจากพลังเวทที่กล้าแกร่ง เขาหันมองโดยรอบด้วยท่าทางสุขุม พลางยกมือขึ้นหนึ่งครั้ง เป็นสัญญาณเห็นพร้องว่าเหล่าขุนนางทั้งหลาย ต้องพากันหลีกหนีเดินออกจากบริเวณนั้น
สายตาคมแน่นิ่งทอดมองสระน้ำกว้าง ยามนี้แม้ยังไม่ถึงเวลาผลัดเปลี่ยนองค์มหาจักรพรรดิก็จริง แต่วันเวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว เขาหวนนึกถึงยามเด็ก มหาจักรพรรดิองค์ก่อนคือเสด็จปู่ดำรงตำแหน่งด้วยทศพิธราชธรรม ปกครองแคว้นต่างๆ ให้อยู่ในระเบียบ หากแต่วันเวลาล่วงเลยไปเหมือนหลับฝันเพียงข้ามคืน เขากลายเป็นองค์รัชทายาท ที่จะครองตำแหน่งองค์พระมหาจักรพรรดิสืบต่อ
“บัดนี้ วันเวลาล่วงเลย ข้าฝึกวิชาเวทมาจนถึงระดับเจ็ด อีกเพียงขั้นเดียวเท่านั้น ข้าก็จะสำเร็จวิชาเวททั้งหมด หากแต่ทำอย่างไร ก็มิอาจฝึกฝนสำเร็จได้” ชายหนุ่มก้มมองมือทั้งสองข้างด้วยความผิดหวัง พลางกำมือแน่น เขาอยากสำเร็จวิชาเวททั้งหมด ก่อนขึ้นรับตำแหน่งเป็นองค์พระมหาจักรพรรดิองค์ต่อไป
