บทที่ 4
คุณไพศาลโมโหจนตัวสั่นเทิ้ม ลุกขึ้นยืนตะโกนชี้หน้าด่าลูกสาวเพียงคนเดียวของตัวเองด้วยความโกรธจัด เสียงผรุสวาทของประมุขของบ้านดังไปทั่วบ้านจนปัทมาต้องรีบวิ่งเข้ามาดู
ละอองดาวที่ฟิวส์ขาดไปแล้วก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกันผุดลุกขึ้นยืนเถียงบิดาผู้ให้กำเนิดอย่างไม่ยอมกัน จบสิ้นสักที
“เป็นพ่อแล้วยังไงคะ เป็นพ่อไม่ได้หมายความว่าเป็นเจ้าของชีวิตลูกสักหน่อย เป็นพ่อก็ควรจะเคารพการตัดสินใจของลูกไม่ใช่หรือคะ หนูก็คนนะคะ นี่ชีวิตของหนูนะ หนูขอแค่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ได้เหรอคะ”
เพี๊ยะ!
สิ้นคำพูดของแก้วใส ฝ่ามือหนาของคุณไพศาลก็กระทบเข้าที่ข้างแก้มขาวของหญิงสาวอย่างจัง ท่ามกลางความตกใจของทุกคน แม้แต่ตัวคนตบเองก็เสียใจ แต่เพราะทิฐิทำให้ทำได้แต่กำมือตัวเองไว้แน่น
ละอองดาวพยายามกลั้นน้ำตาไว้อย่างสุดความสามารถ เธอยกมือข้างหนึ่งกุมแก้มตัวเองเอาไว้ เจ็บหน้าไม่เท่าไหร่แต่ใจของเธอมันเจ็บมากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่หัวใจเธอต้องแตกสลายเพราะพ่อ
“แก้วจะไม่กลับมาที่นี่อีก”
เสียงหวานเจือสะอื้นเค้นพูดออกมาทีละคำ เพราะเธอต้องการให้มันสลักลงไปในใจของผู้ชายที่ยืนตรงหน้าเธอนี้ให้ลึกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยหวังว่าเขาจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเธอบ้าง ก่อนจะเดินหนีออกจากห้องนั้นมาโดยไม่สนใจเสียงรั้งไว้ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
“หยุดนะ แก้วใส มาคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง”
ละอองดาวอารมณ์ดิ่งวูบลงเหวจ้ำเดินออกจากตัวบ้านก็พบเข้ากับใครบางคนที่มายืนดักรออยู่ด้วยท่าทางเอาเรื่อง
“แก้ว แกกลับมาที่นี่ทำไม แกนัดกับนนไว้ใช่มั้ยห้ะ!”
ดุจดาว ลูกเลี้ยงของคุณพ่อ อดีตเพื่อนสมัยเรียนมัธยม เดินเข้ามาผลักไหล่ของแก้วใสด้วยแรงไม่เบานัก จนหญิงสาวต้องเผลอถอยหลังไป
แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่แก้วใสอยากทะเลาะกับคนตรงหน้าเธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด จึงไม่ได้พูดอะไรออกมาและจะเดินเลี่ยงอีกฝ่ายลงจากบันไดบ้านไป
“เดี๋ยว! หยุดนะแก้ว แกนัดกับนนไว้ใช่มั้ย”
ดุจดาวใบหน้ามีแต่คราบน้ำตา รีบรั้งข้อมือของคนตรงหน้าเอาไว้เพราะร้อนใจ จนแก้วใสนั้นเริ่มจะรำคาญ จะยุ่งอะไรกับเธอนักหนา
“เปล่า”
“งั้นก็เอาโทรศัพท์มาให้ฉันดูสิว่าแกไม่ได้นัดกับนนจริง ๆ อย่าคิดว่าฉันโง่นะ”
