3
ยากที่จะยอมรับลูกสาวตัวจริง
"ปล่อยให้ผู้ใหญ่มานั่งรอนานสมแล้วที่มาจากบ้านนอก" ทันทีที่ฉู่อิงหย่อยก้นลงบนเก้าอี้คนเป็นมารดาบังเกิดเกล้าก็ด่าทอบุตรสาวเช่นนี้
"ขอโทษค่ะที่ทำให้ทุกคนต้องรอ" ฉู่อิงเอ่ยอย่างสุภาพใบหน้าไร้ความโกรธ ต่างจากหลันเจียงนัก
"หลันเจียงแกเป็นแม่ประสาอะไร หลานสาวของฉันเพิ่งกลับมาจากสถานที่ที่ไม่ใช่บ้านของเธอทั้งที่เธอโดนสลับตัวไป เป็นความผิดของหลานสาวฉันอย่างนั้นรึ แกมันเสียสติไปแล้วหลันเจียง" ปู่ฉู่หานอารมณ์เสียอย่างมาก เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าหลันเจียงจะเป็นคนเช่นนี้
ทั้งโต๊ะอาหารพลันเงียบสงบราวกับป่าช้าจริง พี่ชายทั้งสามคนถึงกับกลั้นหายใจ ฉู่ลั่วกุมมือมารดาไว้ ฉู่ฉงหัวเสียยิ่งนัก
"พ่อครับผมขอโทษแทนภรรยาด้วยครับ" ฉู่ฉงไม่รู้จะสรรหาคำใดมาด่าภรรยาโง่ที่ไม่ไหวเอนไปตามทิศทางลม
"แกก็ไม่ต่างจากภรรยาแกมากโง่สิ้นดี" ปู่ฉู่ด่าได้เผ็ดร้อนเสียจริง
"ปู่คะหนูหิวข้าวแล้วค่ะ" ทุกคนต่างกลั้นหายใจเมื่อฉู่อิงเอ่ยคำนี้ออกมาพวกเขาอยากจะบอกว่าฉู่อิงช่างโง่เขลาเหลือเกิน ฉู่ลั่วยิ้มเยาะในใจรอดูความพินาศของฉู่อิง รอดูว่าปู่ฉู่จะลงโทษนังแพศยานี้อย่างไร
"หลานรักหิวอย่างนั้นรึ ปู่คีบเนื้อปลาให้แล้วกัน" ทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะมอบให้ฉู่อิงเพียงผู้เดียวบนโต๊ะอาหาร
พี่ใหญ่ฉู่ต้าตกใจไม่น้อยเหตุใดคุณปู่ถึงเปลี่ยนเป็นคนละคนเช่นนี้เล่า รึว่านังเด็กสารเลวเอายาให้คุณปู่กิน ทุกคนในห้องอาหารนั้นต่างคนต่างคิดไปต่าง ๆ นา ๆ
สองปู่หลานกินข้าวกันไปหัวเราะกันไปอย่างมีความสุข
ฉู่หานกับหลันเจียงต่างไม่อยากจะเชื่อว่าคุณพ่อจะยิ้มจะหัวเราะได้ หลันเจียงเป็นสะใภ้มาสามสิบปีแล้วเพิ่งเห็นพ่อสามีมีความสุขก็ครั้งนี้ สองปู่หลานทำให้คนทั้งห้าเป็นอากาศไปแล้ว...
ฉู่ลั่วเข้ามาในห้องอย่างอารมณ์ไม่ดี นางกำลังจะปาข้าวของแต่แม่นมเซียงเข้ามาพอดี
"คุณหนูของบ่าว" แม่นมเซียงเป็นน้องสาวของหลูเหนียงเรื่องสับเปลี่ยนเด็กแม่นมเซียงรู้ดีแก่ใจเป็นที่สุด
"แม่นมฉันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว" ฉู่ลั่วกอดแม่นมเซียงไว้
"คุณหนูยังมีบ่าวอย่างไรเล่า บ่าวไม่ยอมให้คุณหนูคนนั้นมาแทนที่คุณหนูของบ่าวได้" มีเพียงแม่นมเซียงดีกับนางมากจริง ๆ
"ขอบคุณแม่นม" ฉู่ลั่วไม่ยอมให้นังแพศยาอยู่ในคฤหาสน์อย่างสงบแน่นอน นางจะต้องทำให้นังแพศยาร้อนรน ใบหน้าสวยระบายไปด้วยรอยยิ้ม...
คืนนั้นฉู่อิงยังคงไม่นอนเพราะกำลังจะไลฟ์สดดูดวงลูกดวงของนาง นางต้องเร่งทำภารกิจช่วยเหลือมนุษย์ให้สำเร็จเสียที
“คืนนี้ก็มีคนรออีกสินะ...” นางพึมพำกับตนเอง แล้วเปิดมือถือเข้าสู่โหมดไลฟ์สดอีกครั้ง
หน้าจอสว่างขึ้นพร้อมเสียงแจ้งเตือนถล่มเข้ามาไม่ขาดสาย
ยอดผู้ชมพุ่งทะลุห้าพันภายในไม่กี่นาที
“สวัสดีค่ะทุกคน” เสียงของฉู่อิงนุ่มลึกแต่เยือกเย็น “วันนี้ ฉันจะรับดูดวงให้หนึ่งคนเหมือนเดิม บอกวันเดือนปีเกิดกับเวลาเกิดให้ชัดเจน แล้วฉันจะเลือกเอง”
คอมเมนท์หลั่งไหลราวสายฝน
“ฉันชื่อไป๋หลาน เกิด 12 ธันวาคม 1997 เวลา 23:50 ที่มณฑลซานซีค่ะ คุณเซียนช่วยดูให้หน่อยได้ไหม”
ดวงตาของนางเป็นประกายเมื่อเห็นข้อมูลนี้
มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นแตะหน้าจอ เลือกชื่อของไป๋หลานขึ้นมา
“คุณไป๋หลาน...” ฉู่อิงพูดเรียบ ๆ “คุณเป็นธาตุน้ำ แต่เกิดยามจื่อปลายคืน พลังหยินในดวงชะตาหนาแน่นมาก...บอกตามตรง คุณเห็นเงาคนที่ไม่มีตัวตนอยู่บ่อย ๆ ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะมันมักยืนอยู่ปลายเตียงฉันตอนตีสาม ฉันคิดว่าแค่ฝันไป”
“ไม่ใช่ฝันค่ะ วิญญาณที่ติดตามคุณ...เป็นผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดนักเรียนเก่า ๆ หน้าซีด เธอตายเมื่อสิบปีก่อน”
คอมเมนท์เริ่มแตกตื่น
“เอาแล้วไง”
“ขนลุกเลย ใส่ชุดนักเรียน?”
“ฉันอยากออกจากไลฟ์แต่ก็ออกไม่ได้!”
“ฉันขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ”
ฉู่อิงพูดต่อ “คุณไปเจอเธอโดยบังเอิญตอนไปเที่ยวภูเขาเมื่อสองปีก่อน ที่วัดร้างหลังนั้นมีวิญญาณเร่ร่อนมากมาย แต่เธอเลือกตามคุณ เพราะเธอรู้สึกว่าคุณ ‘คล้าย’ กับตัวเองในอดีต”
“งั้นฉันควรทำยังไงดีคะฉันนอนไม่หลับมานานแล้วค่ะ”
“เธอไม่ได้ต้องการทำร้ายคุณ เธอแค่เหงา...” นางเอื้อมหยิบขวดน้ำมนต์สีใสที่เตรียมไว้บนโต๊ะ
“คืนนี้เวลา 3 ทุ่ม จุดเทียนสามเล่มหน้ากระจก แล้วพูดกับเงาตัวเองว่า ‘เจ้าจากไปได้แล้ว เจ้าจะพบทาง’ ”
นางหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดต่อเบา ๆ ว่า “ถ้าเธอร้องไห้ อย่าหันกลับไปมอง ไม่ว่าเธอจะเรียกยังไง”
“โอ้พระเจ้าฉันจะทำตามค่ะ ขอบคุณคุณเซียน ขอบคุณจริง ๆ”
ฉู่อิงพยักหน้าเบา ๆ ปิดไลฟ์โดยไม่พูดคำอำลา มือเย็นเฉียบแม้จะอยู่ในห้องที่ไม่ได้เปิดแอร์
จบไปอีกหนึ่งภารกิจวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ คืนนี้นางก็ขอตัวนอนก่อนแล้วกัน คืนนี้ต้องไปบอกท่านปู่เทพเซียนเสียหน่อย
ในฝันของนางท่านปู่เทพเซียนสวมชุดขาวขอให้นางทำดีต่อไปก้าวผ่านอุปสรรคในชีวิตไปได้ฉู่อิงยิ้มรับอย่างมีความสุข
