บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ความลับคับอก

ณ ค่ายม้าเทพในแคว้นเว่ย หลังจากอายุย่างเข้าสิบห้าปี หรูเฉินแอบได้ยินทหารในค่ายพูดเรื่องลามกกันหลายคราว ต่อมาทหารรุ่นพี่มักจะลากเอาเขาไปหอคณิกาด้วย

ชายหนุ่มได้แต่นั่งดื่มรออยู่ที่ห้อง ทีแรกเขาเอาแต่นั่งตัวแข็งปล่อยให้หญิงคณิกาลูบไล้ร่างกายเพราะปฏิเสธการมะรุมมะตุ้มพวกนางไม่ทัน ต่อมามี หญิงงามติดอันดับต้นๆ ผู้หนึ่งกลายมาเป็นผู้รู้ใจ

แม่นางนิ่งหรือนิ่งเจียวเห็นว่าคุณชายหนุ่มน้อยที่มีรูปร่างหน้าตายั่วยวนใจเหล่าสตรีแสดงท่าทางอึดอัดกับเหล่าหญิงงามที่รายล้อม นางจึงหาโอกาสกระซิบกระซาบกับเขา

“หลบพวกนางไปกับข้าเถอะ ข้าไม่ทำอันใดท่านหรอกเจ้าค่ะ?”

“เพราะเหตุใด?”

“คุณชาย ข้าเห็นท่านมาที่นี่หลายคราว ที่ท่านไม่ยอมให้สตรีพวกนั้นแตะต้องมิใช่เป็นเพราะท่านหวงเนื้อหวงตัว ความจริงท่านมีความรู้สึกลับๆ อย่างอื่นซุกซ่อนอยู่ ใช่หรือไม่?”

หรูเฉินสะดุ้ง เขาพยายามปกปิดตนเองจากสายตาทหารทั้งค่าย ไม่ค่อยเข้าใกล้บุรุษอื่นมากเกินควรเพราะเกรงว่าตนเองจะซ่อนความปรารถนาลับๆ บางอย่างเอาไว้ไม่ได้

“ท่านรู้....” คิ้วของเขาขมวดมุ่น

“ไปกับข้าเถิดเจ้าค่ะ ข้าคิดกับท่านอย่างน้องชาย ท่านเป็นทหารกล้าหากจะเปิดเผยตัวตนคงกลัวจะถูกผู้อื่นเยาะเย้ยถากถาง ข้าจะช่วยเจ้าเองนะเจ้าคะ”

สีหน้าและแววตาจริงใจของนาง ทำให้หรูเฉินเดินตามนางไปยังห้องส่วนตัว นางจึงบอกแผนให้เขาได้ฟัง

“ต่อไป จะเกิดข่าวลือว่าท่านกับข้าคือผู้รู้ใจ พวกเขาจะเลิกสงสัยในตัวท่าน คราวหน้าหากมาที่นี่ก็ให้มารอข้าที่ห้องนี้ เราสองคนก็แค่พูดคุยและพักผ่อนรอพวกเขา ท่านจะได้หลบจากสตรีที่เดินขวักไขว่ในหอโคมเขียว ดีหรือไม่?”

หรูเฉินไตร่ตรองแล้วก็เห็นดีเห็นงาม เขายินยอมจะจ่ายค่าตัวให้แม่นางนิ่งเพื่อซื้อเวลาจากนาง แต่สตรีผู้นั้นกลับขอให้เขาเพียงเลี้ยงสุราอาหารของนางแทน

“ท่านกับข้าไม่ได้หลับนอนด้วยกัน การที่ท่านแวะเวียนมาหาก็ไม่ต่างจากสหายมาเยี่ยมเยียนก็แค่เพียงคุณชายจ่ายค่าสุราอาหารก็พอแล้ว ถือว่าพวกเราจากช่วยกันและกันนะเจ้าคะ”

หรูเฉินตะลึงฟังสิ่งที่แม่นางนิ่งพูดออกมา

“แม่นาง เจ้ารู้เรื่องข้าได้อย่างไร?”

“คุณชายหรู ข้ารับแขกมาตั้งแต่อายุสิบหกนะเจ้าคะ บุรุษประเภทใดบ้างข้าไม่เคยเจอ สุภาพบุรุษ คนใจกว้าง คนจ่ายไม่อั้น คนตระหนี่ คนเลว คนโสมม คนหยาบคาย บุรุษหยาบโลน หรือแม้แต่คนถ่อย” นางยกนิ้วขึ้นกางแล้วค่อยๆ หักนิ้วลงทีละนิ้ว “ข้าเห็นท่านครั้งแรกก็รู้สึกประหลาดใจ ครั้งที่สองก็คิดว่าดูไว้ตัว ครั้งที่สามก็เห็นความผิดปกติ และครั้งที่สี่ก็หมั่นใจว่าท่านเป็นต้วนซิ่ว”

หรูเฉินถึงกับชะงัก “สายตาของเจ้าช่างแหลมคม”

“หากท่านเชี่ยวชาญวรยุทธ์ ข้าก็คือผู้เชี่ยวชาญการดูบุรุษเจ้าค่ะ”

“ในเมื่อเจ้ามองทะลุปรุโปร่งถึงเพียงนี้ ข้าก็ต้องตกลงแล้ว”

ไม่เพียงแต่กลายเป็นพี่สาวผู้ให้ความช่วยเหลือให้หรูเฉินรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกาในหอคณิกา แต่นางยังเอาตำราใต้หมอนและตำราหลงหยางออกมาให้เขาได้อ่าน คราแรกหรูเฉินเปิดเข้าไปดูได้เพียงหน้าเดียวก็ถึงกับใบหน้าแดงเป็นผลผิงกั่ว

“คุณชายหรู นี่ท่านไม่เคยมีสัมพันธ์กับผู้ใดเลยหรือเจ้าคะ?” หญิงคณิกาอันดับต้นๆ แห่งหอโคมเขียวถึงกับยิ้มอย่างเอ็นดู

ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ

“ข้าติดตามท่านพ่อไปอยู่ในกองทัพตั้งแต่เด็ก รอบข้างมีเพียงทหารและสหายร่วมรบ”

คณิกาคนงามกระเถิบเข้าไปใกล้ “บุรุษมากมายพวกนั้น ไม่มีผู้ใดที่ท่านถูกใจเลยหรือเจ้าคะ? แบบที่รู้สึกอยากจะใกล้ชิดแตะต้องน่ะ”

“ไม่เลย ข้าเห็นพวกเขาเป็นสหาย”

“อืม...ถ้าอย่างนั้น คุณชายต้องอ่านตำราเล่มนี้แล้วล่ะเจ้าค่ะ เผื่อวันหน้าท่านได้พบบุรุษต้องใจจะได้รู้ว่าต้องทำเช่นใดในยามร่วมเตียง”

ชายหนุ่มเลื่อนตำราใต้หมอนซึ่งมีภาพแสดงการร่วมรักของชายหญิงออกห่าง แล้วหันไปเปิดตำราหลงหยางที่มีภาพบุรุษเกาะเกี่ยวพัวพันกันแทน หรูเฉินข่มความอาย กลืนน้ำลายเปิดดูภาพพวกนั้นโดยไม่กล้าหันไปดูหน้าของแม่นางนิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ

เสียงของนางหัวเราะขึ้นเบาๆ “คุณชาย ท่านอ่านไปตามลำพังเถอะ ข้าขอตัวออกไปข้างนอกก่อน ตำราเล่มนี้ไม่เหมาะกับข้าเลยสักนิด”

หรูเฉินก้มหน้าผงกหัวหงึกหงัก มือและเท้าของเขาเย็นเฉียบ ยิ่งดูภาพพวกนั้น ร่างกายก็ยิ่งเกร็งขึ้น สุดท้ายทนไม่ไหวต้องขึ้นไปบนเตียง มุดผ้าห่มหาทางทำให้ร่างกายตนเองทุเลาความปวดหนึบๆ ที่ส่วนล่าง...นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาแน่ใจในตนเอง

“คืนนี้ ปลายยามซวี อย่าลืมสัญญาของเจ้า”

น้ำเสียงนุ่มนวลของท่านหมอหนุ่มทำให้หรูเฉินสะดุ้งน้อยๆ หลุดออกจากภวังค์ ขุนพลหนุ่มข่มใจตอบออกไปด้วยใบหน้ามึนตึง

“ข้าไม่ลืม ท่านเองก็อย่าลืมสัญญาของท่าน”

“อย่าลืมอาบน้ำมาก่อนด้วยเล่า ข้าชอบคนเนื้อตัวหอมสะอาด” คนร่างสูงโปร่งยิ้มยั่ว จ้องมองหรูเฉินด้วยสายตาส่อแววปรารถนา

หรูเฉินสะบัดหน้าเดินออกจากเรือนหลังนั้น ค่ายม้าแดงแห่งนี้มีการจัดเวรยามดูแลรอบๆ อย่างเข้มงวด แต่สำหรับเรือนท้ายค่ายหลังนี้ ขุนพลหนุ่มได้สั่งการให้ทหารของตนดูแลอยู่ห่างๆ

“อย่าเข้าไปใกล้เรือนท่านหมอ ห้ามรบกวนการปรุงยาเด็ดขาด”

เซียงจวิ้นคนซื่อเป็นนายกองที่เก่งกาจในการต่อสู้ รับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยรอบเรือนของอู๋ชวิน เขาหันไปมองรายรอบที่มีต้นไม้ปิดบังเรือนนี้ไว้หนาแน่น

“ไม่มีผู้ใดเข้าใกล้หรอกขอรับ มองเผินๆ ดูไม่ออกด้วยซ้ำไปว่ามีเรือนซ่อนอยู่ ต้นไม้หนาแน่นถึงเพียงนี้ ”

หรูเฉินหันหลังกลับไปมองตามสายตาของเซียงจวิ้นก็เห็นว่าทหารของตนพูดถูก

“เช่นนี้ก็ดี เจ้าให้คนตรวจตรารอบนอกก็พอ”

“ขอรับ”

หรูเฉินรู้สึกสบายใจที่ฉางตงไม่อาสามาเฝ้าแทนเพราะคนผู้นั้นหูตาว่องไว อาจจะสังเกตเห็นความผิดปกติระหว่างเขากับอู๋ชวินได้

ขุนพลหนุ่มกลับไปถึงเรือนพักด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ ผิวหน้าร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงข้อตกลงเมื่อสามวันก่อนที่ตนได้ทำกับหมออู๋จอมเจ้าเล่ห์

“ข้าต้องการเรือนปรุงยาในที่เงียบสงบ และเจ้าต้องไปนอนเป็นเพื่อนข้าจนกว่าข้าจะรักษาบิดาเจ้าเสร็จ”

“หากข้าไม่ทำเล่า?”

“ก็แล้วแต่เจ้าสิ หรือว่าเจ้าคิดจะหาทารุณข้าเพื่อให้ยอมรักษาบิดาเจ้าเล่า? อย่าลืมนะว่าเจ้ารับปากข้าก่อนจะมาที่นี่แล้วว่าจะไม่ทำร้ายข้าและคนของข้า”

หรูเฉินเม้มริมฝีปากแน่น “นั่นเป็นเพราะข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะมีเล่ห์เหลี่ยม”

ยามนั้นหรูเฉินไม่รู้ว่าตนเองเลื่อนลอยปล่อยให้คนรูปงามขยับมาใกล้และลูบไล้ลำคอของอย่างหลงใหล ก่อนจะพ่นลมหายใจเบาๆ ที่ใบหู ผิวหน้าของขุนพลหนุ่มร้อนระอุราวกำลังจะปริแตก

“คุณชายหรู แค่ข้าสัมผัสนิดๆ หน่อยๆ เจ้าก็หน้าแดงคอแดงไปหมดแล้ว ซ้ำยัง...” สายตาของหมอเลวผู้นั้นก้มลงต่ำ

“อ๊ะ!” สองมือของหรูเฉินรีบบังตรงเป้ากางเกงเอาไว้แล้วถอยกรูด

“เจ้าเองก็ปรารถนาในตัวข้า และข้าเองก็ต้องการในตัวเจ้า ข้อตกลงนี้ ข้าว่าใจเจ้าเองก็ยินดีรับเอาไว้ ร่างกายของเจ้าตอบรับแล้ว”

คำพูดพวกนั้นวนเวียนอยู่ในหัวของหรูเฉิน ขุนพลหนุ่มตื่นเต้นจนเกินระงับ เสี่ยวไป๋เห็นอาการของคุณชายตนดูคล้ายคนตกในภวังค์ก็ส่งเสียงดังขึ้นกว่าเดิมจนชวนแสบแก้วหู

“คุณชายขอรับ โต๊ะอาหารตั้งเสร็จแล้ว”

หรูเฉินสะดุ้ง เขารีบลุกจากขอบเตียงไปนั่งรับประทานอาหาร จากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำจนเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน มือเรียวคร้ามแดดที่ลูบไล้ไปทั่วร่างสั่นระริก เมื่อนึกถึงมือเรียวใหญ่ผิวขาวละเอียดราวกับหิมะของอู๋ชวิน ร่างกายของเขาก็คล้ายกับมีถ่านร้อนคอยแผดเผา

“คุณชาย ท่านควรพอแล้วนะขอรับ แช่นานกว่านี้ประเดี๋ยวจะเป็นหวัด”

*******************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel