บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 หมอบัดซบ

ท่านหมอหนุ่มหัวเราะหึๆ “ข้าเป็นหมอทหาร ร่วมเดินทางออกศึกมานับครั้งไม่ถ้วน แม้จะมิได้สู้รบใช้อาวุธแต่ก็เฉียดกรายความตายมาหลายหน ที่ข้ายอมให้เจ้าลักพาตัวมาก็เพราะคิดจะช่วยเหลือคน แต่หากเจ้าคิดจะใช้ความตายต่อรองกับข้า เจ้าก็เข้าใจผิดแล้ว ยามนี้ท่านพ่อของเจ้าอาการหนักมากแล้ว เนื้อตัวของเขาซีดเซียว ดวงตาเหลือง ชีพจรเต้นแผ่วลงทุกที หากเจ้าคิดจะทำร้ายและทารุณข้า ข้าก็อาจจะเอาคืนกับบิดาเจ้าก็ได้”

“นี่เจ้า! เจ้ามิใช่ท่านหมอผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมหรอกหรือ?”

“ที่ไหนกัน? หลักการของข้าก็คือดีมาดีกลับ ร้ายมาร้ายกลับ หากข้าไม่พอใจ ข้ายินดีตายดีกว่ารักษาคน”

หรูเฉินกำหมัดแน่น เดิมทีเขาคิดว่าจับคนผู้นี้ได้แล้วจะข่มขู่ให้รักษาบิดาโดยง่าย หากเขาทำได้สำเร็จก็จะมอบเงินทองให้ตามที่เรียกร้องและส่งตัวกลับ แต่ไม่คิดเลยที่แท้เจ้าหมออู๋ผู้นี้แท้จริงจะเป็นคนชั่วผู้หนึ่ง

“บัดซบ! ข้าได้ยินคำสรรเสริญว่าเจ้ารักษาผู้คนมาทั่วทิศ คิดว่าเจ้าจะเป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่ง พูดมา! เจ้าต้องการสิ่งใด?”

“เงินทองข้าไม่ต้องการ แต่ข้าต้องการตัวคน”

“คน! เจ้าหมายถึงผู้ใด?”

“เจ้า!”

“หา!”

หรูเฉินเพิ่งรู้สึกว่าใบหน้าของท่านหมอรูปงามยามนี้ดูคล้ายปีศาจจำแลงมา ริมฝีปากบางสีชมพูคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์คล้ายแสยะน้อยๆ

“เจ้าฟังไม่ผิด การช่วยชีวิตบิดาของเจ้าในครานี้ ข้าไม่ต้องการทรัพย์สินเงินทองเป็นของตอบแทน ข้าต้องการก็แต่เพียงตัวเจ้าเท่านั้น”

สายตาที่แสดงความปรารถนาอย่างแรงกล้าของอู๋ชวินทำให้หรูเฉินรู้สึกว่าร่างกายของตนเองหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาทันควัน ตอนที่เขาเห็นท่านหมอหนุ่มผู้นี้คราแรก หัวใจของเขาแทบจะทะลุออกมานอกร่าง มันเต้นรัวกระหน่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

บุรุษตรงหน้าช่างงดงามราวกับเทพเทวาจำแลงลงมา เพียงแต่ยามนั้นในหัวของ หรูเฉินห่วงเพียงการรักษาบิดาจึงไม่กล้าสนใจความรู้สึกของตนเองนานนัก เขาไม่ยอมให้ผู้ใดได้แตะต้องร่างกายของอู๋ชวิน

...เป็นเขาที่กอดท่านหมอหนุ่มไว้ในอกและควบม้าพาคนผู้นั้นมาถึงที่นี่...

“ข้ารู้ว่าเจ้าใจเต้นรัวตอนที่กอดข้าบนม้า ซ้ำยังมีอาการตอบสนองต่อร่างกายของข้าด้วย จริงหรือไม่?”

“เหลวไหล!” ใบหน้าของหรูเฉินแดงสลับเขียว เป็นเพราะได้สูดดมกลิ่นหอมประหลาดร่างกายของอู๋ชวินตอนอยู่บนหลังม้า ทำให้ขนในร่างกายเขาลุกเกรียว บังเกิดความกำหนัดขึ้นมา กล่องดวงใจของเขาจึงได้เหยียดตึงเสียดสีกับบั้นท้ายของท่านหมอรูปงาม

“ความจริง ข้ารู้ตัวตั้งแต่เจ้าคิดจะสับคอข้าแล้ว แต่ข้าเห็นว่าเจ้ามีปณิธานจะลักพาตัวข้าอย่างแรงกล้าจึงได้ยินยอม ออกเดินทางไม่นานข้าก็รู้สึกตัวแล้ว ส่วนนั้นของเจ้ามันบอกให้ข้ารู้ว่าเจ้าคิดเช่นไรกับข้า?” ท่านหมอหนุ่มมองไปยังตำแหน่งสำคัญในร่างกายของอีกฝ่าย

“บัดซบ! หมอเจ้าเล่ห์! ที่แท้ท่านก็แสร้งไร้สติ ปล่อยให้ข้าอุ้มขึ้นลงหลังม้าอย่างนั้นหรือ?”

อู๋ชวินหัวเราะหึๆ “ก็เห็นว่าเจ้าอุตส่าห์เอาผงนิทรามาให้ข้าสูดดมจะได้ไม่คิดหนี ข้าก็เลยเล่นตามน้ำกับเจ้า ว่าอย่างไร? เจ้ายินดีรับข้อเสนอของข้าหรือไม่?”

หรูเฉินหน้าชากับคำถามของอู๋ชวิน ชายหนุ่มที่เติบโตอยู่ในกองทัพมาตั้งแต่รุ่นๆ ฝึกการต่อสู้และหมกมุ่นอยู่กับตำราพิชัยสงครามจนกลายเป็นขุนพลตั้งแต่อายุสิบเจ็ดอย่างเขา ไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกเบื้องลึกให้ผู้ใดได้รู้ กลับมาถูกเจ้าหมอชั่วผู้นี้เปิดโปง

“คุณชายหรู สีหน้าเช่นนี้ของเจ้า มิใช่ว่าเจ้า? ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่หรอกนะ”

“เพ้อเจ้อ!”

เสี่ยวไป๋แปลกใจที่แขกรับเชิญคนสำคัญถูกย้ายไปให้พักที่เรือนท้ายค่ายซึ่งดูอย่างไรก็ไม่เหมาะกับการต้อนรับท่านหมออู๋เลยสักนิด

“หมออู๋ต้องการสถานที่ปรุงยาที่เงียบเชียบ”

“จะดีหรือขอรับ? เรือนท้ายค่ายนั่นแต่เดิมเราก็ใช้เป็นห้องเก็บอาวุธ ยามนี้ก็ให้พวกคนงานที่เพิ่งมาได้พักอาศัย”

หรูเฉินรีบโบกมือ “เสี่ยวไป๋ เจ้าไม่ต้องขัดข้า ให้พวกเขาย้ายออกแล้วปรับปรุงทำเป็นเรือนปรุงยาให้หมออู๋ให้เร็วที่สุด เดี๋ยวข้าให้ฉางตงกับเซียงจวิ้นระดมคนมาช่วยเจ้า”

“ขอรับ”

นายกองฉางได้ยินชื่ออู๋ชวินก็ชักสีหน้า เขาคือหัวหน้ากลุ่มห้าคนที่ไปซุ่มรอจับตัวท่านหมอหนุ่มในตรอกมืด สุดท้ายกลับถูกอู๋ชวินซัดผงนิทราใส่ ทำให้ถูกขุนพลหรูลงโทษจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว

“ผู้ใดจะอยากไปช่วยเหลือเขาเล่า? ที่ข้าต้องเจ็บตัวอยู่นี่ก็เพราะหมออู๋นะ”

“ฉางตง คำสั่งของคุณชาย เจ้าคิดจะบ่ายเบี่ยง ไม่กลัวจะถูกลงโทษซ้ำหรือ?”

ใบหน้าของนายกองหนุ่มบิดเบี้ยว “ก็ได้”

ด้วยการระดมคนร่วมสามสิบคนทำการต่อเติมและซ่อมแซมเรือนท้ายค่าย เพียงสามวันก็กลายเป็นเรือนขนาดสามห้องน่าอยู่อาศัย อู๋ชวินถูกหรูเฉินตามตัวให้ไปดูเรือนพัก ท่านหมอหนุ่มเห็นแล้วก็รู้สึกพอใจ

“สมกับที่เป็นค่ายโจรใหญ่ ใช้เวลาเพียงสามวันก็หาเรือนพักเงียบสงบให้ข้าได้”

หรูเฉินหน้าร้อนผ่าว ข้อตกลงของเขากับอู๋ชวินรู้กันเพียงสองคน ดังนั้นเพื่อมิให้มีผู้รู้เห็นความลับของเขา จำต้องหาเรือนห่างไกลผู้คนให้กับท่านหมอหนุ่ม

ฉางตงที่ยืนอยู่กับเซียงจวิ้นได้เห็นรูปร่างหน้าตาของท่านหมอชัดๆ ถึงกับอ้าปากค้าง คืนนั้นในตรอกมืดเขามิได้เห็นว่าคนที่ตนต้องลักพาตัวงดงามถึงเพียงนี้

“ท่านหมออู๋ผู้นี้ช่างหล่อเหลาเหลือเกิน ชั่วชีวิตข้าไม่เคยเห็นคนเช่นนี้มาก่อน”

“อืม...ข้าก็เหมือนกัน ถ้าหากว่าเขาเดินอยู่ตามถนน เห็นทีหญิงสาวทั้งหลายคงจะตกตะลึงกันเป็นแถว” เซียงจวิ้นเอ่ยชื่นชม “ข้าเห็นท่านหมออู๋ทีแรก แทบจะลืมหายใจเลยล่ะ ไม่คิดเลยว่าจะมีคนรูปงามถึงเพียงนี้”

“เซียงจวิ้น เจ้าคงมิได้เป็นต้วนซิ่วหรอกนะ” ฉางตงเบือนหน้าไปมองสหาย

“ข้ามิใช่ แต่หากข้ายังไม่มีจิงจิงก็ไม่แน่ อาจจะคิดเปลี่ยนใจตอนได้เห็นท่านหมออู๋นี่ล่ะ เจ้าก็ดูสิ บุรุษผู้นี้ทั้งผิวพรรณงดงาม ใบหน้าหวานฉ่ำ น่าสัมผัสลูบไล้”

ฉางตงทำปากจิ๊จ๊ะ ส่ายหน้าเบาๆ “พอๆ อย่าให้จิงจิงได้ยินเรื่องนี้เข้าเชียว นางอาจจะถอนหมั้นเจ้าก็ได้ ข้าไม่ยอมให้เจ้าทำร้ายจิตใจญาติผู้น้องของข้าเด็ดขาด”

“เรื่องท่านหมออู๋ก็เหมือนกัน อย่าพูดให้จิงจิงได้ยินเด็ดขาด หากว่านางได้เห็นท่านหมอรูปงามผู้นี้เข้าเกรงว่านางอาจจะเปลี่ยนใจไปขอแต่งงานกับท่านหมอแทน”

อู๋ชวินเดินนำหน้าหรูเฉินเข้าไปสำรวจห้องในเรือนท้ายค่ายด้วยความพอใจ เขาหยุดยืนอยู่กลางห้องนอนที่อยู่ด้านในสุดของเรือน มองไปยังเตียงไม้ขนาดใหญ่ ก่อนจะหันมายิ้มน้อยๆ ให้กับหรูเฉินแล้วเดินไปเขย่าเสาเตียงจนมีเสียงเอี๊ยดอ๊าดพร้อมกับส่งสายตาเร่าร้อน

“คนลามก!”

แม้จะไม่เคยร่วมเตียงกับผู้ใดแต่หรูเฉินก็มิใช่บุรุษไร้เดียงสา เขาเคยอ่านตำราใต้หมอนและแอบอ่านตำราหลงหยางอยู่หลายคราว

ครั้นหรูเฉินสบตากับอู๋ชวินนานขึ้น เขาก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตนเองไม่เชื่อฟัง เท้าของเขาคล้ายกับกำลังขยับเข้าหาท่านหมอหนุ่ม หรูเฉินยกมืออีกข้างขึ้นหยิกหลังมือเพื่อเตือนตน

*****************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel