บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 พิษซากศพ

อู๋ชวินรู้สึกตัวขึ้นมาในตอนดึก ท้องของเขาร้องโครกคราก ชายหนุ่มปวดเมื่อยไปทั้งเนื้อทั้งตัว ครั้นทบทวนความจำก็พลันนึกได้ว่าเขาถูกบุรุษขี่ม้าสีน้ำตาลแดงทั้งแปดคนลักพาตัวมา

‘โจรถ่อย! ออกแรงทำร้ายข้าทำไมกัน? อุตส่าห์ตกลงแล้วแท้ๆ คอยดูเถอะ ถ้าข้าพบตัวล่ะก็จะสั่งสอนเสียให้เข็ด’

ประเมินจากการแต่งกายและม้าที่คนพวกนั้นใช้ อู๋ชวินรู้สึกว่าพวกเขาไม่น่าจะเป็นโจรถ่อยธรรมดา ม้าพันธุ์ดีรูปร่างสูงใหญ่อย่างนั้นคล้ายจะเป็นม้าศึก ท่านหมอหนุ่มลอบสังเกตปลอกกระบี่ของผู้นั้นพบว่าเป็นของดีราคาสูง บางทีคนกลุ่มนี้อาจจะเป็นคนจากสำนักยุทธ์สักแห่งที่ต้องการหมอเทวดาแต่ไม่กล้ามาติดต่อดีๆ

“ท่านรู้สึกตัวแล้วหรือขอรับ? เป็นอย่างไรบ้าง?”

อู๋ชวินมองดูชายหนุ่มใบหน้าเกลี้ยงเกลาแต่งกายด้วยชุดที่มิได้หรูหรา ท่าทางสุภาพอย่างนี้น่าจะเป็นคนดูแลที่นี่

“ปวดเมื่อยไปหมดน่ะสิ ข้าตกลงแล้วแท้ๆ หัวหน้าเจ้าช่างไร้มารยาทเสียจริง คิดจะเชิญข้ามารักษาคนก็ควรจะทำดีกว่านี้หน่อย”

“ขออภัยแทนคุณชายข้าน้อยด้วยขอรับท่านหมอ ท่านเรียกข้าว่าเสี่ยวไป๋ก็แล้วกันนะขอรับ ต่อไปข้าจะเป็นคนคอยดูแลท่านหมอ”

“เออ เสี่ยวไป๋ ข้าหิวแล้ว เจ้ามีอาหารให้ข้ากินหรือไม่?”

“ไม่ต้องห่วงขอรับ ข้าเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว” เสี่ยวไป๋รู้สึกประหลาดใจที่ท่านหมอหนุ่มรูปงามมิได้มีท่าทางหวาดกลัวทั้งๆ ที่รู้ว่านี่คือการลักพาตัว

“ข้ากินข้าวแล้ว จะขออาบน้ำด้วย เจ้าให้คนเตรียมน้ำอาบให้ข้าที”

“ท่านตื่นได้แล้ว อู๋ชวิน ยามนี้สายมากแล้ว ข้าเอาตัวท่านมาเพื่อรักษาคน มิใช่ให้มานอนพักผ่อน?”

เสียงที่ดังอยู่เหนือศีรษะทำให้อู๋ชวินงัวเงียขึ้น เขาอ่อนเพลียและปวดเมื่อยจากการเดินทางในขณะที่ต้องแสร้งไร้สติอยู่หลายชั่วยาม จึงได้เผลอนอนจนตะวันสายโด่ง

เจ้าของเสียงยืนกอดอกกางขาเล็กน้อยอยู่ตรงหน้า

“เจ้าคือคนที่ลักพาตัวข้าใช่หรือไม่?”

“ใช่ เป็นข้าเอง เสี่ยวไป๋คงบอกท่านแล้วว่าข้าแซ่หรู ตอนนี้ท่านอยู่ในฐานะเชลยของข้า รีบลุกขึ้นได้แล้ว รีบไปรักษาคน”

อู๋ชวินลืมตาขึ้นมอง ครั้นเห็นบุรุษตรงหน้าก็กระพริบตาถี่ๆ ใบหน้าเรียวได้รูป จมูกโด่งเป็นสันตรง ดวงตาคมราวพยัคฆ์ ริมฝีปากไม่บางไม่หนา ใบหน้าโดยรวมนับว่าคมคาย ผิวคร้ามแดด ท่าทางการยืนองอาจผึ่งผาย นี่คงจะเป็นคนที่เสี่ยวไป๋เรียกขานว่าคุณชาย อายุก็น่าจะน้อยกว่าเขาอยู่พอสมควร

“คุณชาย เจ้าหวังพึ่งพาข้า เหตุใดจึงไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจข้าให้มาก?”

หรูเฉินดึงแขนของอู๋ชวินให้ลุกขึ้นจากที่นอน ร่างของท่านหมอหนุ่มเซถลาเข้าไปใกล้ร่างแข็งแกร่ง อู๋ชวินคะเนได้ว่าคนที่ดึงแขนตนมีวรยุทธ์จึงได้โอนอ่อนผ่อนตาม

“อย่ามาเล่นลิ้นกับข้า ข้าบอกแล้วว่าข้าลักพาตัวท่านเพื่อให้มาช่วยรักษาคน หากรักษาดีข้าจะตบรางวัลอย่างงาม แต่ถ้าท่านทำไม่ได้ ข้าก็จะฝังท่านเสียบนเนินเขาแห่งนี้”

“โจรชั่ว! เจ้ามันไม่มีคุณธรรมเอาเสียเลย ข้ายังไม่รู้เลยว่าคนที่เจ้าต้องการให้ข้ารักษาอาการเป็นตายร้ายดีอย่างไร? ฉวยเกิดเขาสิ้นชีวิตด้วยเหตุสุดวิสัย เจ้าก็คิดจะทำให้ข้าตายไปพร้อมกับเขาหรือ?”

คุณชายผู้แข็งแกร่งได้ยินเช่นนั้นก็โมโห ใช้อีกมือสะบัดผ้าห่มออกจากร่างอู๋ชวินแล้วกระชากร่างสูงโปร่งที่สูงกว่าตนเองเล็กน้อยไปยังโต๊ะที่วางอ่างน้ำล้างหน้าและผ้าเช็ดหน้าเอาไว้

“รีบล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเข้า เจ้าต้องรีบรักษาเขาให้เร็วที่สุด จำเอาไว้ให้ดีว่าชีวิตเจ้ากับชีวิตเขาผูกติดเอาไว้ด้วยกัน”

สีหน้าเคร่งขรึมจริงจังของบุรุษหน้าตาดีแต่หยาบคายตรงหน้า ทำให้อู๋ชวินรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น แต่หมอทหารอย่างเขามิได้หวาดกลัวการข่มขู่ด้วยความตาย แต่เพราะลักษณะของคนผู้นี้ช่างถูกใจ อู๋ชวินจึงยอมคล้อยตาม

‘ครั้งนี้ไม่ผิดหวังเลยที่ยอมให้คนฉุดข้ามา เห็นทีอาจจะต้องอยู่นานกว่าทุกคราว’

“ได้ๆ เจ้าปล่อยข้าได้แล้ว” ท่านหมอหนุ่มทำหน้าเหมือนกับยอมจำนน

ห้องด้านในสุดของอาคารใหญ่ค่ายม้าแดง มีร่างของบุรุษวัยกลางคนผอมเหลืองใบหน้าตอบซีดเซียวนอนหายใจรวยริน โจรหนุ่มใบหน้าคมคายเดินเข้าไปประชิดริมเตียง เอ่ยขึ้นโดยไม่มองหน้าบ่าวรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?”

“นายท่านอาการเหมือนเดิมขอรับ รับประทานอาหารโปรดได้ทุกอย่าง เพียงแต่ไม่อาจลืมตาขึ้นได้”

หรูเฉินหันกลับไปมองคนรูปงามข้างหลัง

“อย่างที่เจ้าเห็น ท่านพ่อของข้าถูกพิษที่ไม่รู้จักเข้า ระดมท่านหมอมาสิบกว่าคนแล้วยังไม่อาจจะรักษาได้ ทั่วร่างกายซีดเซียว ไร้เรี่ยวแรง นอนหลับตานิ่งและพูดไม่ได้ แต่ยังคงรับประทานอาหารได้ตามปกติแต่ที่น่าแปลกคือร่างกายผายผอมลงเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่กินอาหารได้มาก”

อู๋ชวินปรายตาไปมองบ่าวรับใช้ “เจ้าออกไปข้างนอกก่อน”

หรูเฉินพยักหน้า บ่าวรับใช้จึงค้อมศีรษะออกจากห้องคนป่วยไป

“ท่านมีปัญหาใดหรือ?”

“ข้าจำต้องตรวจร่างกายบิดาของเจ้าอย่างละเอียด และวิธีการพวกนี้ไม่ต้องการให้ผู้อื่นได้เห็น”

“ท่านหมายถึง?”

อู๋ชวินดึงผ้าห่มออกจากร่างของนายท่านหรู เขาบอกให้หรูเฉินเปลื้องเสื้อผ้าบิดาออกจนเกือบหมด ชายหนุ่มตะลึงอยู่ครู่แต่เมื่อเห็นใบหน้าเคร่งขรึมของท่านหมอหนุ่มรูปงามก็รีบทำตาม

หรูเฉินยืนมองอู๋ชวินตรวจร่างกายของบิดาเขาอย่างละเอียดอยู่ครู่ใหญ่ ซ้ำยังใช้เข็มมาเจาะที่แขนแล้วใช้ผ้าขาวซับออกมาดูด้วยความประหลาดใจ ที่ผ่านมาหมอที่เขาพามารักษาตรวจตรวจชีพจรที่แขนและดูใบหน้าเท่านั้น

“เขาถูกพิษซากศพ”

“พิษซากศพรึ? ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน”

“นี่เป็นพิษที่ชนเผ่าลึกลับในทุ่งหญ้ามังกรใช้ บิดาของเจ้าถูกพิษไปนานเท่าใดแล้ว?”

“ตั้งแต่ปีก่อน”

“นับว่าเขามีอายุยืนยาวแล้ว ที่ผ่านมาคนที่ถูกพิษซากศพมักจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินหนึ่งเดือน นี่อาจจะเป็นเพราะบิดาของเจ้ามีร่างกายและลมปราณที่แข็งแกร่ง อีกทั้งถูกพิษในปริมาณน้อย”

“เจ้าไม่มีวรยุทธ์รู้ได้อย่างไรว่าลมปราณท่านพ่อข้าแข็งแกร่ง?”

“หมอสกุลอู๋ทุกคน ล้วนแล้วแต่ตรวจและปรับลมปราณของเหล่าจอมยุทธ์ได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องรู้และเป็นวรยุทธ์” พูดแล้วอู๋ชวินก็ใช้นิ้วเปิดตามจุดลมปราณอับในร่างกายของนายท่านหรู

“สมคำร่ำลือ ที่ข้าจับตัวเจ้ามาก็เพราะมีคนอวดโอ้ว่าเจ้าคือคนหมอเทวดา”

อู๋ชวินลุกขึ้นยืน ยืดอกขึ้นอย่างภาคภูมิ

“แน่นอนว่า สกุลอู๋ของข้า มีวิชาแพทย์ล้ำเลิศ”

“ถ้าอย่างนั้น อาการของท่านพ่อของข้าเจ้าก็คงรักษาได้” หรูเฉินหรี่ตามองคนรูปงามตรงหน้า น้ำเสียงคล้ายจะปรามาสอยู่ในที

“นั่นก็ขึ้นกับท่าทีของเจ้า”

ชายหนุ่มหน้าคมกระชากแขนท่านหมอหนุ่มรูปร่างผอมบางเข้าหาตน

“เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”

“คุณชาย เหตุใดเจ้าจึงหยาบคายไร้มารยาทกับข้าเช่นนี้? เชิญข้ามาเพื่อรักษาคน เจ้าก็ควรจะให้เกียรติข้าสักหน่อย มิใช่เอะอะก็คิดจะใช้แรง”

หรูเฉินได้ฟังก็หงุดหงิด “เจ้าเป็นเชลยของข้า ไม่กลัวว่าจะไม่มีชีวิตกลับออกจากค่ายแห่งนี้หรอกหรือ?”

********************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel