7.ขอโทษ
“เจ้าไม่คิดว่าการจากไปทั้งๆที่ชีวิตของเจ้าไม่ได้พบเจอกับความสุขมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเสียดายอย่างนั้นหรือ เจ้ายังไม่ได้ยิ้มแย้มและออกไปท่องโลกกว้างเลยนี่นา..”
อูแบร์เบือนหน้าหนีจากใบหน้าของคามีย์ สีหน้าของเขานั้นมันเฉยเมยและไร้ความรู้สึก
“ท่านเองก็ต้องการใช้ประโยชน์จากข้าไม่ใช่รึไง ท่านเองก็ต้องการดื่มเลือดของข้า แล้วทำให้ข้าเป็นทาสของท่าน มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างนั้นหรือ? ให้ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขงั้นหรือ? ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกันในเมื่อการส่งมอบเลือดของข้าให้ท่าน มันจะทำให้ท่านเป็นนายส่วนข้าเป็นทาส ชีวิตของข้าก็คงเหมือนเดิม คือต้องเชื่อฟังคำของคนผู้หนึ่ง แล้วแย้มยิ้มราวกับไม่เคยพบเจอความเจ็บปวด ใช้ใบหน้าที่สวยงามนี้อวดโชว์อยู่ในตู้กระจกเพื่อทำให้ท่านอารมณ์ดีที่ได้มองเห็นใบหน้าของข้า แล้วมันจะแตกต่างอะไรกันท่านแม่มด มันจะแตกต่างอะไรกับสิ่งที่ข้ากำลังเผชิญหน้าอยู่!!"
คามีย์นั่งลงที่พื้น เธอจับมือของอูแบร์ขึ้นมากุมเอาไว้ มันเถียงไม่ออกในตอนที่เขากล่าวว่าเธอเองก็คิดจะใช้ประโยชน์จากเขา เพราะว่ามันเป็นเรื่องเช่นนั้นจริงๆ ..แต่ว่าเธอยังอยากให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปนะ
“มันจะต่างกันแน่นอน เพราะสิ่งที่ข้าจะมอบให้เจ้ามันคืออิสระ เป็นทาสอย่างนั้นหรือ ข้ามีสาวใช้มากมายแล้วไม่ต้องการทาสอะไรแบบที่เจ้าคิดสักหน่อย..แน่นอนว่าเจ้าอาจจะไม่เชื่อ แต่ข้าคิดว่ามันน่าเสียดายมากเกินไป หากว่าเจ้าจะตายไปทั้งอย่างนี้..”
เขามองเธออย่างเคร่งขรึม
“คำหวานเหล่านั้นท่านคิดว่าข้าพึ่งเคยฟังเป็นครั้งแรกหรืออย่างไร ท่านก็แค่หลงใหลในรูปลักษณ์ของข้าเท่านั้น..หากท่านเข้ามาที่นี่แล้วไม่คิดทำสิ่งใดก็ออกไปเถอะครับ เพราะหากท่านยังอยู่ในห้องนี้อีก ข้าก็ต้องทำตามหน้าที่ของข้า”
เขาลุกขึ้นพร้อมกับสะบัดเสื้อคลุมสีดำของเธอออกในทันที ร่างกายของเขาผอมแห้งจนน่าตกใจ ผิวกายสีขาวซีดราวกับไม่เคยพบเจอกับแสงแดด..
เขากำลังยืนเปลือยเปล่าต่อหน้าเธอ แต่น่าแปลกที่เธอไม่ได้คิดอยากจะทำเรื่องเช่นนั้นกับเขาเลย..อาจจะเป็นเพราะความสงสารที่กำลังกัดกินหัวใจอยู่
“ข้า..แค่สงสารเจ้าก็เท่านั้น..แค่รู้สึกว่าเจ้ามีแววตาที่มัน..ไม่เหมาะสมกับหน้าสวยๆ นั่นเลย”
อูแบร์หลุบตาลงเล็กน้อย เพื่อมองหน้าของแม่มด..แววตาที่เธอกำลังมองมาที่เขามันคือแววตาที่แสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ เป็นแววตาที่ไร้ซึ่งอาการเสแสร้ง..
แต่เขาไม่ได้ต้องการความสงสารจากใครเลย ท่านแม่และน้องชายกำลังมีชีวิตที่ดี เพราะทางร้านสุราได้ส่งเงินค่าทำงานของเขาไปให้ทั้งสองคน ท่านแม่ที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอในช่วงเวลาที่เขาไปหา ท่านจะโอบกอดเขาเอาไว้แน่นพร้อมกับกล่าวขอบคุณหลายครั้งติดๆ กัน
“เพราะเจ้าแท้ๆ เลยอูแบร์ เพราะลูกก็เลยทำให้น้องกับแม่อยู่อย่างสบาย เชื่อฟังเจ้าของร้านแล้วตั้งใจทำงานให้ดีนะ”
แม้แต่แม่ของเขายังไม่มีความสงสารหรือว่าเห็นใจให้เขาเลย ท่านไม่เคยเอ่ยถามว่าเขาทำงานอะไร ไม่เคยเอ่ยถามว่าเขาเหนื่อยหรือไม่..ไม่เคยเอ่ยถามว่าเขาไหวรึเปล่ากับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน
เขาตั้งใจทำงานและหาเงินให้ท่านแม่มานานมากแล้ว ท่านเองก็น่าจะพอมีเงินเก็บเอาไว้ใช้ชีวิตต่อจากนี้แล้วล่ะ ฉะนั้นแล้วต่อให้วันเกิดครบอายุสามสิบของเขาจะมาถึง..ต่อให้เขาจะตายจากไปแต่ท่านแม่และน้องชายก็ยังคงมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายเหมือนเดิม..
นั่นคือสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้น เพราะการตายมันคงหมายถึงว่าเขาคงได้พักผ่อนเสียที
“ข้าจะมีความสุขอย่างแน่นอนครับ ในวันเกิดครั้งที่สามสิบของข้า เพราะอย่างนั้นท่านแม่มดไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวเรื่องของข้าอีกแล้ว..”
เมื่อกล่าวจบเขาก็ย่อตัวลงเพื่ออุ้มคามีย์แล้วเดินไปที่เตียง
“จะนอนเฉยๆ ก็ได้นะครับ แต่ข้าคิดว่าข้าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้เงินหนึ่งพันเหรียญทองของท่านสูญเปล่า”
ดะ..เดี๋ยวสิ เธอไม่ได้ต้องการแบบนี้นะเฟ้ย!!
คามีย์จับมือที่กำลังพยายามถอดชุดเธอออกเอาไว้แน่น
“ข้าไม่มีอารมณ์ที่จะทำเรื่องอย่างว่าหรอกนะคะ”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะข้าสามารถทำให้ท่านเพลิดเพลินได้อยู่แล้วครับ..ช่วยอยู่นิ่งๆด้วยครับ”
เธอยื่นหน้าผากของตัวเองลงไปแนบลงบนหน้าผากของเขา..ในยามนี้ใบหน้าของเขาใกล้ชิดกันมากเสียจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
“..ข้าไม่คิดนอนกับเจ้าในวันนี้หรอกนะ แต่หากเจ้าคิดว่าเจ้าควรจะทำอะไรสักอย่าง เช่นนั้นขอแค่จูบเดียวก็พอ”
สตรีที่จ่ายเงินมูลค่าหนึ่งพันเหรียญทองที่สามารถซื้อคฤหาสน์ได้ แลกกับจูบเพียงครั้งเดียวอย่างนั้นหรือ?
เช่นนั้นเขาจะยินยอมส่งมอบจูบมูลค่าหนึ่งพันเหรียญทองให้แก่เธอก็แล้วกัน ในชีวิตนี้อูแบร์จะจดจำเอาไว้ว่าเขามีค่ามากมายขนาดนั้น
คางมนถูกเชยขึ้นมาตามด้วยริมฝีปากของเขาที่แนบประกบลงไป เธอหลับตาพริ้มเพื่อรอรับจุมพิตแสนหวานของเขา อูแบร์จูบปิดปากของเธอจนสนิทพร้อมกับฝังความเสน่หาลงไป เขารู้สึกถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าวขณะบดเบียดริมฝีปากเขาหากัน ปลายนิ้วของเธอกำลังเลือนไล้มาโอบล้อมรอบลำคอของเขาราวกับไม่คิดยินยอมให้เขาละไปจากริมฝีปากนั้นง่ายๆ
ให้ตายสิ อันที่จริงเธอไม่ต้องกอดเขาเอาไว้แน่นเช่นนั้น เขาก็ไม่คิดที่จะผละริมฝีปากออกไปอยู่แล้ว..และที่มากกว่านั้นคือเธอกำลังปีนขึ้นมานั่งลงบนตักของเขา..แม้ในขณะจูบแต่อูแบร์ก็เก็บซ่อนรอยยิ้มที่พึงใจเอาไว้ไม่ได้เลย
สตรีตรงข้ามกล่าวว่านางไม่ต้องการนอนกับเขา แต่ทว่าพอเอาเข้าจริง เธอกลับเป็นฝ่ายบดเบียดเข้าหาเขาเลยนี่นา..
คิดซะว่านี่คือของขวัญจากพระเจ้าก็แล้วกัน การได้สัมผัสแม่มดผู้งดงามและเย้ายวนผู้นี้..คงเป็นรางวัลความอดทนของเขาแน่ๆ
คามีย์ขยับริมฝีปากเพื่อเปลี่ยนมุมให้ลึกล้ำขึ้น ลิ้นที่สอดเข้ามาพัวพันทำให้ร่างกายร้อนขึ้นตามลำดับ เธอโอบกอดเขาเอาไว้แน่นก่อนจะค่อยๆ ปรือตาขึ้นมา..
ขอโทษนะอูแบร์ แต่ข้าไม่อยากให้ทุกอย่างมันจบลงเพียงแค่คืนนี้..ข้าไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ข้าจะสามารถมาประมูลตัวเจ้าแข่งกับคนอื่นได้อีกรึเปล่า เพราะอย่างนั้นมีแค่คืนนี้เท่านั้นที่ข้าต้องทำให้เจ้าเป็นของข้าน่ะ
เมื่อคิดได้ดังนั้นคามีย์ก็ขบกัดลงไปที่ปลายลิ้นของอูแบร์อย่างแรง
“อะ..อื้อ!!”
