5.หลวงฉัตร
“พี่อนงค์รู้ได้ยังไงคะ”
ทออรุณถามเอ่ยพี่สาวขณะที่สบตากันกับเพื่อนสนิทซึ่งดูจะช็อคไม่แพ้กัน เพราะขนาดบัวที่นอนอยู่ห้องเดียวกันก็ยังรู้เรื่องไม่หมดเลยด้วยซ้ำ แต่พี่อนงค์ที่อยู่ถึงจังหวัดชุมพร ห่างจากกรุงเทพถึงเจ็ดร้อยกิโลเมตรกลับรู้เรื่องได้
‘เณรฉัตรเพิ่งมาบอก พูดพันนี้แสดงว่าเขาพูดเรื่องจริงใช่ไหม” (น้องฉัตรมาเพิ่ง พูดแบบนี้แสดงว่าพูดเรื่องจริงใช่ไหม)
ทว่ายามที่พี่อนงค์เอ่ยชื่อคนๆหนึ่งขึ้นมา ข้อสงสัยที่เคยปัดตกไปเพราะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็พาลทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักนิ่ง เธอปล่อยผ้าห่มที่เอามาคลุมกายร่วงลงไปกองบนตัก
อึ้งจนไม่มีเวลาได้ใส่ใจด้วยซ้ำว่าบัวยังนั่งอยู่ตรงหน้า และกำลังยกมือขึ้นมาปิดตาตัวเองเสียวุ่นวาย
“ไอ้…หลวงฉัตรเป็นคนบอกพี่เหรอ” หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อยยามที่เอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยคำนำหน้าซึ่งเคยเรียกตามประสาคนเคยหมางใจกัน ก่อนจะเปลี่ยนคำเรียกเป็นคำที่คิดว่าเหมาะสมและจะไม่โดนพี่สาวเอ็ด
ผู้ชายคนนั้น…
ฉัตร ฉัตรจักร ไวศรวณ
เป็นคนบอกเรื่องนี้กับพี่อนงค์งั้นเหรอ แล้วรู้ยังไง อย่าบอกว่าที่เธอรู้สึกว่าเสียงของคนที่มาช่วยมันคุ้นมากนั้น…
ไม่สิ แต่อีกฝ่ายจะมาช่วยกันทำไม
‘ใช่น่ะสิ ไม่งั้นพี่จะรู้ได้ยังไง ตอบพี่มาสิอรุณว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องจริงไหม’ พี่อนงค์ยังมีน้ำเสียงร้อนรน ได้ยินอย่างนั้นทออรุณจึงตอบรับในลำคอ แล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์เมื่อคืนแบบเดียวกันที่เล่าให้เพื่อนฟัง
ด้วยความที่ยังขวัญเสียทั้งเจอเรื่องเกินความคาดหมายหลายอย่าง เธอจึงยังพูดผิดๆถูกๆจนบัวต้องช่วยเล่าให้พี่สาวฟังแทนในบางครั้ง พี่อนงค์ฟังเรื่องทั้งหมดแล้วก็เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะขอเปิดกล้องเพื่อดูรอช้ำที่ว่า
วินาทีแทรกที่ทออรุณส่องให้ดูรอยนิ้วมือที่ปรากฏอยู่ทั่วร่างกาย และสภาพไม่ได้สวมเสื้อผ้าที่บอกว่าตื่นมาก็เป็นแบบนี้ พี่สาวคนโตก็ถึงกับร้องไห้ออกมาเสียงสั่น
‘ตอนแรกพี่ก็ยังไม่ได้เชื่อขนาดนั้นนะ เพราะอยู่ๆเขาก็ขับรถมาบอกที่บ้าน แต่พอมันเป็นเรื่องจริงแบบนี้พี่ก็ชักกลัวนะอรุณ’ทำเอาคนเป็นน้องพาลน้ำตาไหลไปด้วย รู้สึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำผิดที่ทำให้เป็นห่วงขนาดนี้
“กลับบ้านเราเถอะน้อง พี่ลองถามเณรฉัตรแล้วว่ามีทางแก้ไหม เขาบอกว่าน้องต้องมาเอาน้ำมันผีนั้นออก ไม่งั้นคราวนี้มันอาจจะกินจากข้างใน แล้วเอาไปได้จริงๆ’
“กะ กินจากข้างในเลยเหรอ” หญิงสาวละล่ำละลัก ทว่าเมื่อเห็นว่าพี่อนงค์ไม่มีท่าทีล้อเล่นเลยจึงเงยขึ้นสบตากับบัวอีกรอบพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มตัว
‘ใช่ พี่เคยเห็นเพื่อนของญาติแม่ตายเพราะน้ำมันผีมาแล้ว เขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ก็เลยไม่ได้สนใจไปขับออก ก่อนไหลตายก็ป่วยกระเสาะกระแสะมานาน รู้ไหมว่าตอนที่ตายไปแล้วตับใตไส้พุงเน่าหมดทั้งที่เพิ่งตายไม่ถึงวันด้วยซ้ำ’
“...”
‘กลับเถอะนะ เสียพ่อแม่ไปแล้วอย่าให้พี่ต้องเสียน้องไปอีก เราเหลือกันแค่สามคนพี่น้อง อรัญก็ไปอยู่ไกลตั้งออสเตรเลียคนหนึ่งแล้ว น้องอย่าทิ้งพี่ไปอีก ฮึ่ก!’ พอพี่อนงค์เริ่มร้องไห้แรงขึ้นทั้งสองคนก็พาลกระอักกระอ่วน
ทออรุณอ้าปากทำท่าจะบอกพี่สาวเรื่องที่บัวจะพากลับสุรินทร์ไปหาพ่อครู ทว่าด้วยเหตุผลใดก็ไม่อาจทราบได้ เพื่อนสนิทกลับยื่นมือมาจับแขนและส่งสายตามาห้ามเอาไว้
“พี่อนงค์คะ คุณฉัตรคนนั้นเขาจะช่วยขับน้ำมันผีให้อรุณได้ใช่ไหม”
‘ใช่น้องบัว เขาเป็นหมอไสยขาวมีครูหมอประจำตัวด้วยบ้านนี้เก่งจนดังไปหลายจังหวัดเลยนะ เณรฉัตรบอกว่าควรให้อรุณกลับบ้านมาทำพิธีในช่วงที่มันยังอ่อนแอ’
ทออรุณได้แต่ฟังไปมองบัวทีมีสีหน้าแปลกๆไป เพื่อนเธอในตอนนี้คล้ายมีอะไรบางอย่างในใจจนเธอต้องยอมเงียบ เดี๋ยววางสายแล้วอาจจะต้องคุยกันยาว
“หนูเข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวหนูจะเป็นคนพาอรุณไปส่งเองนะคะ พี่อนงค์ไม่ต้องเป็นห่วง”
‘พี่ขอบคุณนะน้องบัว นั่งเครื่องกันมาเลยนะเดี๋ยวพี่จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง’
“โอเคค่ะ สวัสดีค่ะพี่อนงค์”
ทออรุญได้แต่มองบัวกดวางสายเองอย่างไม่เข้าใจว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรกันแน่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนกรานจะพาเธอกลับสุรินทร์ให้ได้ แต่พอตอนนี้กลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแถมบอกว่าจะเป็นคนพาเธอไปส่งด้วย
“ฉันไม่เข้าใจ แกไม่อยากพาฉันกลับสุรินทร์ด้วยแล้วเหรอบัว ก่อนหน้านี้แกบังคับฉันด้วยซ้ำทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนใจล่ะ”
“แกไม่สงสัยเหรอว่าคุณฉัตรอะไรนั่นเขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
“...”
“ฉันอยู่ห้องเดียวกับแกแท้ๆยังฟังแกเล่าไม่ทันจบเลย แต่เขากลับรู้ก่อนแล้วไปเล่าให้พี่อนงค์ฟัง แถมคุยกันไปถึงทางแก้แล้วด้วย มันแปลว่าเขาต้องรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนไง”
“รู้ตั้งแต่เมื่อคืน…”
“ใช่ นี่ถ้าแกไม่พูดเรื่องโดนสาดน้ำมันผีฉันก็อาจจะคิดว่าเขาเป็นคนทำของใส่ถึงได้รู้เร็ว แต่พอรู้เรื่องนั้นฉันกลับคิดว่าเขาคือคนที่มาช่วย แกก็คิดเหมือนกันใช่ไหมล่ะ”
ทออรุณเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า เพราะพอเมื่อมาย้อนคิดแล้วเธอก็จำเรื่องเมื่อคืนได้มากขึ้น ไม่ใช่แค่เสียงที่คล้ายแต่ยังรวมไปถึงสำเนียงการพูดที่ผู้ชายคนนั้นใช้ด้วย พูดทองแดงขนาดนั้นคนใต้แน่นอน
“...อืม จริงๆเมื่อคืนฉันก็คุ้นๆเสียงอยู่เหมือนกัน”
“ที่ตอนแรกฉันอยากพาแกกลับสุรินทร์ด้วยก็เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าแกโดนอะไรมา การไปหาพ่อครูใหญ่มันเป็นทางที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะคิดได้ แต่ในเมื่อตอนนี้รู้แล้ว ฉันเลยคิดว่าแกโดนของทางใต้ให้พ่อครูคนใต้แก้มันย่อมดีกว่า”
“แกคิดงั้นเหรอ”
“ใช่ ถ้าเขาเป็นคนที่ช่วยแกเมื่อคืนจริง ฉันว่าเรามีหวังที่เขาจะช่วยแกได้ทั้งเรื่องผีที่จะจับทำเมีย และผีผู้หญิงที่จะเอาชีวิตแก”
ทออรุณได้แต่นั่งฟังที่เพื่อนพูดนิ่ง เมื่อลองมาคิดๆดูแล้วเรื่องมันก็ดูจะจริงอย่างที่บัวว่า อีกฝ่ายคลุกคลีอยู่กับเรื่องพวกนี้มานานแน่นอนว่าสิ่งที่พูดต้องเชื่อได้อยู่แล้ว ที่สำคัญคือเธอมั่นใจว่าบัวไม่ได้หวังร้าย
เพราะแบบนั้นใบหน้าสวยจึงพยักรับคำอีกฝ่ายไป
“...อืม ฉันเชื่อแก”
“งั้นแกเริ่มเก็บของเลย เดี๋ยวเราไปเก็บของกันที่ห้องฉัน” พูดจบบัวก็ลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าจากในตู้มาให้เธอสวมใส่ แล้วเอาไม้แขวนเสื้อเขี่ยเสื้อผ้าที่ถูกถอดเมื่อคืนไปทิ้งถังขยะบอกว่าอาจเป็นของอาถรรพ์ควรเอาไปทิ้งให้ไกล
ด้านอรุณเองเมื่อสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เริ่มเก็บเสื้อผ้าที่เหลือใส่กระเป๋า เก็บไปในใจก็คิดไปทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นไปด้วยตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเย็นวาน รวมถึงเมื่อคืนที่ทำให้เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
ไม่คิดเลยว่าชีวิตในวัยยี่สิบห้าจะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้คิดวนเวียนอยู่แบบนั้น จึงไม่ได้เห็นเลยว่าบัวบูชาที่ยืนรออยู่ไม่ไกลนั้นกำลังมองมาอย่างพินิจพิเคราะห์
หญิงสาวหน้าคมในชุดนอนแขนยาวขายาวยกแขนขึ้นกอดอกมองแผ่นหลังเล็กของเพื่อน ในใจคิดถึงเรื่องที่รู้มาทั้งหมดตั้งแต่ลืมตา
เพราะอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้มีเซ้นส์เหมือนพี่ชายและคนอื่นๆในตระกูล แต่ก็พอมองออกว่าอะไรเป็นอะไร เพราะแบบนั้นจึงรู้ว่าเพื่อนตัวเองไม่ได้รอดมาด้วยความบังเอิญ
แล้วมันก็ไม่ใช่คนมีวิชาอาคมทุกคนจะมีความสามารถถึงขั้นถอนจิตมาช่วยคนที่อยู่ไกลขนาดนี้ได้ คนที่ทำได้ต้องฝึกทั้งสมาธิและฝึกวิชาอาคมมาอย่างหนัก
ต้องทั้งดวง ทั้งจิตแข็ง ถือศีลเคร่งครัดและเป็นผู้มีบุญาธิการมาจากอดีตชาติมากล้น ไม่เพียงเท่านั้น ต้องมีดวงจิตผูกพันธ์กันมากถึงสามารถรับรู้ได้ถึงอันตรายที่เกิดในฝันของอีกคน และมาช่วยได้ทันเวลา
ของแบบนี้มันก็มีแต่คู่แท้ หรือไม่ก็คนที่รักมากๆแบบสลักจิตสลักใจเท่านั้นแหละที่ทำได้
ผู้ชายชื่อฉัตรนั้นอาจมีข้อใดสักข้อหรือไม่ก็มีทั้งคู่ เผลอๆถ้าได้แต่งงานผูกดวงชะตา คนๆนี้ก็ดวงใหญ่มากพอจะมาข่มสิ่งชั่วร้าย เก่งพอที่จะส่งวิญญาณพวกมันลงนรกไม่ให้เข้ามากล้ำกลายเพื่อนเธอได้อีก
