บทที่ 5 ทำหน้าที่ Nc+
ลลิตาลากกระเป๋าเข้ามาในห้องนอน หลังจากป้าวาดเดินจากไปโดยทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง เธอกวาดสายตามองรอบห้องที่มีเตียงกว้างขนาดหกฟุตปูด้วยผ้าลูกไม้สีทองอยู่กลางห้อง บนเตียงมีหมอนจัดเรียงสวยงามอย่างเป็นระเบียบ เธอนั่งลงบนเตียงนอนพร้อมเอนกาย
“เหนื่อยจังเลย” เพียงไม่นานหญิงสาวก็หลับง่ายดาย
เช้าวันต่อมา หลี่เหว่ยออกจากคฤหาสน์ตั้งแต่เช้า เขาแทบไม่ได้เจอลลิตาตั้งแต่เมื่อวานหลังจากพาหญิงสาวมายังคฤหาสน์ เขาติดประชุมเกี่ยวกับนำเข้าอุปกรณ์
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม” หลี่เหว่ยถามบอดี้การ์ดหลังจากเขามาถึงยังห้องประชุม
“เรียบร้อยดีครับนายท่าน อีกสักครู่คุณดิเรกจะเข้ามาพบนายท่านในห้องนี้ครับ”
ชายหนุ่มนั่งรอได้สักพักเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมชายวัยห้าสิบและมีลูกน้องตามเข้ามาสองสามคน
คุณดิเรกคือเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังลูกค้ารายใหญ่ในประเทศไทยสนใจสั่งอุปกรณ์การแพทย์จากหลี่เหว่ย ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“สวัสดีครับคุณหลี่เหว่ย” คุณดิเรกทักทายชายหนุ่มหลังจากเดินเข้ามา
“สวัสดีครับคุณดิเรก เชิญนั่ง” ผายมือเชิญแก่ผู้มาใหม่
“ผมได้ยินชื่อเสียงคุณมานานแล้ว ไม่คิดว่าคุณจะดูดีกว่าที่ผมคิดไว้อีก”
“ผมว่าเรามาคุยเรื่องธุรกิจกันดีกว่า” หลี่เหว่ยเปลี่ยนเรื่องคุย เขาไม่ชอบเสียเวลากับสิ่งไร้สาระ
“ครับ”
ร่างเล็กบิดกายไปมาบนเตียงก่อนลงจากเตียงเดินไปยังห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่างจึงย่างเท้าออกจากห้องและลงบันไดทีละขั้น
“ไปไหนกันหมด” กวาดสายตามองรอบ ๆ เมื่อในห้องโถงไร้ผู้คน ก่อนจะตัดสินใจไปเยี่ยมมารดา
ขณะหญิงสาวกำลังก้าวเท้าจะออกจากคฤหาสน์ ทันใดนั้นเสียงป้าวาดก็ดังขึ้น
“เธอจะไปไหน!”
“รินจะไปโรงพยาบาลค่ะ” เธอหันหลังไปตอบหญิงวัยกลางคน
“ไปทำไม”
“รินจะไปเยี่ยมแม่ค่ะ”
“เธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น นายท่านสั่งไม่ให้เธอออกจากที่นี่”
“ทำไมคะ” คิ้วโก่งสวยขมวดเข้าหากัน เธอเริ่มไม่พอใจที่โดนบังคับไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น แม้กระทั่งเยี่ยมแม่โรงพยาบาลก็ไม่ได้
“ไม่ต้องถาม ขึ้นห้องไปเดี๋ยวนี้เป็นแค่นางบำเรอของนายท่าน ไม่มีสิทธิ์มาถามมาก” ป้าวาดต่อว่าคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงรุนแรง ทำคนฟังหน้าซีดเผือดและเจ็บจี๊ด
สุดท้ายลลิตาจำใจต้องเดินขึ้นไปบนห้องตามคำสั่งของป้าวาด เธอเสียใจเหลือเกินกับคำพูดของหญิงวัยกลางคน ทำไมกันป้าวาดทำเหมือนเกลียดชังเธอและยังดูถูกกัน
“แม่คะ รินจะทนให้ได้นะคะหลังจากรินหลุดพ้นจากที่นี่ รินจะไม่ทำตัวไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้อีกแล้ว” มือเรียวกำผ้าปูเตียงแน่น พยายามกลั้นน้ำตาสุดฤทธิ์ เธอไม่อยากร้องไห้หรือแสดงความอ่อนแออีกต่อไป เธอจะอยู่ที่นี่ให้ครบหนึ่งปีตามสัญญาหลังจากนั้นจะได้อยู่กับแม่ตามต้องการสักที
ร่างสูงใหญ่บนเตียงหนานุ่มพลิกกายไปมาอย่างร้อนรน ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแทนที่เขาจะหลับแต่กลับคิดถึงใครอีกคนที่นอนข้างห้อง ทั้งที่เขาควรจะหลับเพราะเหนื่อยจากงานทั้งวันและดันไม่หลับ
สุดท้ายเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงและเปิดประตูออกไปหาลลิตา โชคดีเธอไม่ได้ล็อกห้องจึงเข้าไปข้างใน
“หลับแล้วเหรอวะ” ดวงตาคมกริบปรายตามองคนตัวเล็กบนเตียงขนาดคิงไซซ์ ซึ่งโคมไฟสลัวจากหัวเตียงทำให้เขาเห็นเรือนร่างงามชัดเจน เธอสวมใส่ชุดนอนผ้าซาตินแบบบาง ทำเอาอารมณ์เขาพลุ่งพล่านทันใด
“ยั่วกันเหรอลลิตา” หลี่เหว่ยค่อย ๆ ก้าวขึ้นเตียงและไปนอนซ้อนหลังหญิงสาว ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ตามปลีน่องไล่ขึ้นมายังสะโพก
“อื้อ นุ่มฉิบหาย” เขารู้สึกดีเหลือเกินได้สัมผัสได้ร่างกายคนตัวเล็ก หลี่เหว่ยก้มหน้าซุกซอกคอหอมกรุ่นและกดจูบหนัก ๆ ไม่วายดูดดื่มอย่างแรง
“อื้อ” เสียงครางต่ำในลำคอ
“ลลิตา” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบข้างหูคนตัวเล็ก แต่เธอยังคงหลับสนิท จนชายหนุ่มพลิกร่างเล็กให้นอนหงายก่อนคร่อม
“ถ้าไม่ตื่นก็จะลักหลับนี่แหละ” หลี่เหว่ยจับคนตัวเล็กปลดเสื้อผ้าออกเรือนร่างงดงาม จนเธอไม่มีสิ่งใดห่อหุ้ม
“สวยเหลือเกิน” เขามองคนใต้ร่างอย่างชื่นชม ก่อนริมฝีปากหยักได้รูปจะงับยอดปทุมถันและดูดกินอย่างหื่นกระหาย
“อื้อ” คนหลับร้องครางอย่างสุขใจ หลี่เหว่ยยิ่งตวัดเลียดอกบัวตูมแรง ทั้งดูด ทั้งกัด ทำเอาลลิตาสะดุ้งตื่น
“ว้าย”
“เงียบลลิตา ฉันเอง”
“คุณหลี่เหว่ย”
“ฉันเอง” ว่าพลางแล้วก็ตักตวงความหวานจากยอดถันสีหวานต่อ
“อื้อ คุณจะทำอะไรฉัน ออกไปนะ” มือเล็กพยายามจะผลักหัวคนตัวโต
“อยู่เฉย ๆ ลลิตาเป็นนางบำเรอฉันต้องทำหน้าที่สิ” ได้ยินดังนั้นหญิงสาวยอมหยุดนิ่งปล่อยให้คนตัวโตจัดการตัวเอง เนื่องจากนี่คือข้อตกลงเธอจึงไม่มีสิทธิ์โต้แย้งทั้งนั้น
หลี่เหว่ยเลื่อนตัวประกบปากนุ่มแทรกลิ้นร้อนอุ่นเข้าไปตักตวงความหวานจากโพรงปากหญิงสาว เกี่ยวพันไปมากับลิ้นเล็ก
“อื้อ” ดวงตากลมโตหลับพริ้ม เธอไม่สามารถต้านทานกายแกร่งได้ เขาช่างมีอิทธิพลกับเธอเหลือเกิน สมองอยากจะผลักเขาออกไปให้พ้นแต่ใจไม่รักดี อยากให้เขาได้สัมผัสอยากให้เขาเชยชม ภายในสมองตีพันกันไปหมดจนสับสน
ชายหนุ่มจัดการถอดเสื้อตัวเองจนหมด จากนั้นเลื่อนตัวไปหยุดยังกลีบกุหลาบปิดสนิทและตวัดปลายลิ้นเลียร่องเนื้อ
“อื้อ อ๊ะ คุณหลี่เหว่ย…” เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว ร้อนรุ่มทั่วร่างกาย
“คุณจะให้ผมช่วยอะไร” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูหญิงสาว
“ฉันไม่รู้” ส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสลวยแผ่ทั่วหมอน
“พร้อมไหม” ชำเลืองมองหน้าสวยหวาน
“ค่ะ” คำตอบคนตัวเล็กทำเขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวคุ้นชินกับร่างตนเอง เขาจับจ่อแท่งเอ็นขนาดใหญ่จ่อเข้าอย่างไม่รอช้า เพราะคิดว่าหญิงสาวคงมีประสบการณ์โชกโชนมาแล้ว ไม่จำเป็นทะนุถนอมไม่อย่างนั้นเธอคงจะยอมเสนอตัวให้เขาง่าย ๆ อย่างนี้หรอก ทันทีที่แท่งเอ็นขนาดใหญ่เข้าได้เพียงครึ่งลำก็ยิ่งตอดรัดจนทำให้เขาเจ็บปวดไปหมด
ชายหนุ่มช้อนตามองคนใต้ร่าง ไม่นึกเลยเธอยังบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน เมื่อเป็นดังนั้นรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นคนแรกของเธอ
“กรี๊ด เอามันออกไป ฉันเจ็บ ฮือ ๆ” ลลิตากรีดร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด เธอรู้สึกถึงเยื่อพรหมจรรย์ฉีกขาดและรับรู้ถึงของเหลวที่ไหลออกมา มือเรียวดันอกชายหนุ่มห่าง เธอทั้งหนักทั้งอึดอัด
“ฉันไม่สามารถหยุดได้อีกแล้ว” หลี่เหว่ยกระแทกอีกครึ่งลำที่เหลือเข้ากายสาวอย่างถี่รัว เร่งจังหวะตามอารมณ์พิศวาส ชายหนุ่มปลดปล่อยอารมณ์ดิบเถื่อน กระทั่งน้ำรักฉีดพุ่งเข้าในโพรงสวาทสาว
หญิงสาวทั้งเจ็บทั้งเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน เธอกำผ้าปูเตียงแน่นปล่อยให้เขากระทำป่าเถื่อนกับร่างตัวเองหนำใจ
บทรักระหว่างเธอและเขาดำเนินการอย่างยาวนาน ชายหนุ่มไม่ยอมหยุดง่าย ๆ เธอทนไม่ไหวอีกแล้วครั้งแรกก็ถูกย่ำยีจนไม่มีชิ้นดี ด้วยความเหนื่อยและไร้เรี่ยวแรงจึงเข้าห้วงนิทราในที่สุด
ชายหนุ่มจ้องมองคนใต้ร่าง บัดนี้นอนหลับเรียบร้อย แต่เขายังไม่หยุดเพียงเท่านั้นยังคงหาความสุขกับร่างบอบบางอย่างเมามัน จนเกือบรุ่งสางเขาจึงปล่อยเธอเป็นอิสระและดึงหญิงสาวเข้าสู่อ้อมกอด
