บทที่ 4 เก็บของ
“คุณหมอคะ ส่งตัวแม่ของรินไปผ่าตัดได้เลย” หลังจากเธอไปเบิกเงินที่ธนาคารเสร็จจึงรีบตรงไปยังโรงพยาบาลทันทีเพื่อแจ้งแพทย์เรื่องผ่าตัด
“ได้ครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ลลิตาเดินออกจากห้องพักแพทย์หลังจากเข้าไปคุยเรื่องการผ่าตัดมารดา เธอรู้สึกโล่งใจมากอย่างน้อยสามารถช่วยชีวิตแม่
หญิงสาวเดินเรื่อยเปื่อยกระทั่งชนเข้ากับชายชุดดำหน้านิ่งคนหนึ่ง จ้องมองเธอด้วยสายตาไร้ความรู้สึกใด ๆ
“มีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ” ถามคนตรงหน้าที่เอาแต่จ้องเธอนานนับนาที
“ผมชื่อหวังปิงลูกน้องของคุณหลี่เหว่ย มารับคุณรินตาคำสั่งนายท่าน”
“เดี๋ยวก่อนสิคุณหวังปิง ฉันยังจัดการธุระยังไม่เสร็จ”
“ไม่ต้องห่วงครับ ที่เหลือผมจัดการต่อเอง”
ลลิตาอึ้งกับคำพูดชายชุดดำตรงหน้า ไม่คาดคิดเลยหลี่เหว่ยจะไม่ยอมเสียเวลากับเธอแม้แต่นิดเดียว เขากำลังกดดันทำให้เธอลำบากใจ นี่สินะเขาว่าคนเราไม่ควรเอาตัวเองไปยุ่งกับพวกมาเฟีย เธอจะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว
“เชิญคุณลลิตาครับ” หวังปิงผายมือแก่หญิงสาว
“ค่ะ” ลลิตาเดินตามหลังหวังปิงไปยังรถตู้ที่จอดหน้าโรงพยาบาล
ระหว่าวกำลังก้าวขึ้นรถเพื่อนั่งเบาะหลัง ก็หยุดชะงักเมื่อสายตากลมโตปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของหลี่เหว่ยจ้องมองมายังเธอด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้เลย
“ขึ้นรถสิ มัวแต่ยืนเหม่อทำไม”
“ค่ะ ๆ” เธอแทบขึ้นรถไม่ทัน เท้าเล็ก ๆ ย่างกรายไปนั่งข้างชายหนุ่ม
ลลิตานั่งเงียบ ๆ ไม่กล้าเปล่งประโยคใด กลัวจะโดนตำหนิเหมือนเมื่อสักครู่ ก็เขาน่ากลัวและยังโหดเหี้ยมสิ้นดี ไม่รู้ว่าหลังจากนี้เธอจะเจอเขารูปแบบไหนอีก แค่คิดเธอก็รู้สึกเหนื่อยล้า
เมื่อต่างฝ่ายต่างพากันเงียบไม่มีเสียงใดเปล่งออกมา เธอรู้สึกอ่อนล้าร่างกายทั้งวันจนผล็อยนอนหลับในที่สุด
หลี่เหว่ยมองคนตัวเล็กข้างกาย นัยน์ตาคมกริบสำรวจทั่วใบหน้าหวานอย่างละเอียด เธอค่อนข้างตัวเล็ก ผิวขาว ปากอมชมพู ผมยาวดกดำ เขาเอื้อมมือหนาแตะแก้มหญิงสาวแผ่วเบา จนรู้สึกหมั่นไส้แก้มนุ่มแทบอยากสัมผัส แต่ความคิดไวไม่เท่าการกระทำเมื่อจู่ ๆ หลี่เหว่ยโน้มใบหน้าหล่อจุมพิตพวงแก้มขาวเนียน แล้วกลับมานั่งประจำดั้งเดิมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หวังปิงลอบสังเกตพฤติกรรมเจ้านายหนุ่มผ่านกระจกหน้าได้รู้ว่าหลี่เหว่ยได้กระทำการจาบจ้วงกับหญิงสาว ปกติเขาไม่เคยเห็นหลี่เหว่ยทำเช่นนี้กับใครมาก่อนหรือบางทีเธออาจจะเป็นคนที่เจ้านายเลือกแล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นหวังปิงก็หยุดมองแล้วหันกลับมาสนใจเส้นทางต่อ
“ถึงแล้วครับ” เมื่อมาถึงที่หมายหวังปิงรีบรายงานหลี่เหว่ยทันที ชายหนุ่มไม่ตอบสิ่งใดแก่บอดี้การ์ด แต่กลับหันมาสนใจหญิงสาวแทน ที่ตอนนี้นอนขี้เซาไม่ยอมตื่นสักที
“ตื่นได้แล้วลลิตา”
“ถึงแล้วรอคะ” เสียงทรงอำนาจปลุกหญิงสาวให้ตื่นด้วยอาการสะลึมสะลือ
“อืม”
“งั้นขอตัวไปเก็บของก่อนนะคะ” เท้าเล็กก้าวลงจากรถเดินไปหยุดหน้าบ้านตัวเอง บ้านที่เธอไม่ได้กลับเกือบสัปดาห์ตั้งแต่มารดาล้มป่วย
“เข้ามาทำไมคะ” หญิงสาวหมุนตัวมองคนข้างหลังที่ไม่คิดว่าจะตามมาด้วย
หลี่เหว่ยไม่ตอบหญิงสาว เขาเดินผ่านหน้าเธอไปดื้อ ๆโดยไม่สนใจคนตัวเล็ก
“ถามไม่ตอบ หยิ่งชะมัด” ลลิตาพึมพำเป็นภาษาไทยและไม่คิดว่าชายหนุ่มจะได้ยิน แต่ต่อให้ได้ยินก็คงไม่เข้าใจ
คำพูดของคนตัวเล็กกระทบเข้าหูคนตัวโต เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้น
“คุณรอตรงนี้นะคะ” ลลิตาชี้ไปยังโซฟาตัวเก่า แล้วเดินเลี่ยงขึ้นไปบนห้องนอนเพื่อเก็บของย้ายไปอยู่กับเขาตามสัญญาจ้าง
ระหว่างเก็บของอยู่ เธอไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าขณะนี้ชายหนุ่มกำลังมองอยู่
หลังจากหญิงสาวเก็บของเสร็จกำลังจะลากกระเป๋าออกจากห้อง เธอตกใจมากที่เห็นเขายืนตรงประตูห้องและทำให้เสียหลักกำลังจะล้มลงคาพื้น ด้วยความไวของหลี่เหว่ยรีบเข้าประชิดคนตัวเล็กจึงทำให้คนทั้งสองล้มลงคาพื้นพร้อมกัน
“คุณ” ลลิตาพยายามจะดันร่างแกร่งออกห่าง แต่เขาไม่ได้สนใจก่อนโน้มหน้าจูบปากอวบอิ่ม ปากที่เธอไม่เคยให้ใครเชยชิมมาก่อน
ลิ้นร้อนอุ่นพยายามจะสอดเข้าในโพรงปากสาว แต่เธอปิดปากสนิท ทั้งทุบตีแผ่นหลังกว้างถี่รัว หนำซ้ำตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนมือหนากำลังสอดเข้ามาใต้เสื้อผ้ามาหยุดยังดอกบัวตูม เขาจัดการบีบขยำอย่างเมามันจนเผลอทำให้เธอเผยอปาก
“อื้อ” หลี่เหว่ยอาศัยจังหวะที่หญิงสาวเคลิ้ม แทรกลิ้นสากเข้าในโพรงปากสาวสำเร็จ กวาดต้อนชิมความหวานอย่างหนำใจ จังหวะที่เขากำลังจะจัดการปลดตะขอบราเซียร์ก็ได้ยินเสียงเรียกจากลูกน้องคนสนิท
“นายท่านครับ” หวังปิงเดินพรวดเข้ามาเพราะเห็นประตูห้องเปิดไว้ไม่ได้ปิด แต่ใครจะคิดเหล่าว่าจะได้เห็นภาพเจ้านายกำลังนัวเนียกับลลิตา
หลี่เหว่ยรีบผละออกจากหญิงสาวใต้ร่างทันที เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าตนได้กระทำล่วงเกินหญิงสาว
“มีอะไร” หลี่เหว่ยเดินมาหาหวังปิงหน้าประตูห้อง
“ผมแค่จะบอกว่าเรื่องที่นายท่านให้จัดการเรียบร้อยครับ”
“อืม”
“งั้นผมไปรอที่รถนะครับ” หวังปิงรีบจากไปทันใด
“เก็บของเสร็จแล้วก็ตามมา” หลี่เหว่ยพูดก่อนเดินออกจากห้อง ทิ้งหญิงสาวให้จมอยู่กับเหตุการณ์เมื่อสักครู่
“เกือบแล้วไหมล่ะริน”
หลังออกจากบ้านลลิตารถก็มุ่งสู่คฤหาสน์หรูอิง ภายในรถก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม ลลิตารู้สึกอึดอัดที่ต้องนั่งใกล้เขาเพราะภาพเหตุการณ์เมื่อสักครู่ยังคงวนเวียนในสมองหญิงสาว เธอไม่สามารถลบภาพนั้นออกจากสมองได้ ทุกครั้งที่นึกถึงสัมผัสนั้นก็รู้สึกหวิวในใจอย่างประหลาด
“นายท่านมาแล้ว” ป้าวาดแม่บ้านดูแลคฤหาสน์หรูอิงตั้งแต่สมัยแม่หลี่เหว่ยยังมีชีวิตอยู่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างเจ้านายหนุ่มลงจากรถ
“ช่วยจัดการพาเธอไปที่ห้องด้วย” หลี่เหว่ยบอกแก่ป้าวาด
“เชิญตามมา” ป้าวาดนำทางลลิตาไปยังชั้นบนซึ่งห้องของเธออยู่ใกล้กับหลี่เหว่ย
“ขอบคุณนะคะ” ลลิตาพนมมือไหว้คนตรงหน้า
