บทที่ 3 สัญญาจ้าง
หลี่เหว่ยกลับมาถึงคฤหาสน์ เขาไม่สามารถหยุดคิดถึงหญิงสาวได้สักนิด แม้จะพยายามสลัดความคิดออกจากหัวก็ไม่พ้นยังคงเพ้อหาถึงหญิงสาว ดังนั้นไม่รอช้าจะต่อสายหาลูกน้องคนสนิท
“มาหาฉันที่ห้องหน่อย” หลี่เหว่ยจิตใจอยู่ไม่เป็นสุขกระวนกระวายใจอย่างมากเกี่ยวกับหญิงสาว เขาต้องรู้ให้ได้เธอคือใครกันแน่
เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น ไม่ต้องบอกว่าเป็นใครก็ทราบได้ทันที เพราะเขาเองเป็นฝ่ายเรียกหาคนข้างนอก
“เข้ามา” เอ่ยพูดเสียงเรียบ
หวังปิงตรงไปยังโซฟาที่มีเจ้านายหนุ่มนั่งคอยอยู่ ก่อนจะเอ่ยถามทันใด
“นายท่านมีอะไรให้ผมจัดการครับ”
“แกไปสืบประวัติผู้หญิงคนนั้นมาหน่อย คนที่เดินชนฉันที่โรงพยาบาล ขอด่วนที่สุด”
“ครับ” หลังจากหลี่เหว่ยสั่งการเสร็จเรียบร้อย หวังปิงจึงเดินออกไปจากห้อง ตอนนี้เหลือเพียงแค่หลี่เหว่ยเท่านั้นที่ยังคงนั่งนึกทบทวนกับสิ่งที่กำลังกระทำต่อไปนี้
เช้าวันต่อมาหลี่เหว่ยกำลังนอนหลับบนเตียงสนิทฝันถึงลลิตา ก็ต้องสะดุ้งตื่นทันทีเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มือหนาเอื้อมรับโทรศัพท์ คงเป็นใครไม่ได้นอกจากหวังปิงคนเดียวเท่านั้น เพราะปกติมักจะไม่มีใครกล้าโทรหาเขาในเวลาเช้าแบบนี้ และถ้าไม่มีเรื่องสำคัญหวังปิงจะไม่มีทางรบกวนเด็ดขาด
“ว่าไง” เอ่ยถามเสียงเรียบแฝงด้วยความเคร่งขรึม
(ผมได้ประวัติเธอคนนั้นแล้วครับ)
“ดีมาก เดี๋ยวฉันลงไป”
(ครับนายท่าน ขอโทษที่รบกวน)
“อืม” หลังจากวางสาย หลี่เหว่ยลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวทันที เวลานี้ไม่มีกะจิตกะใจจะนอนต่อแล้ว
หลังจัดการธุระในช่วงเช้าเสร็จสิ้นทุกอย่างก็มานั่งคอยลูกน้องคนสนิทในห้องรับรองแขก
“นี่ครับนายท่าน” หวังปิงเดินเข้ามาพร้อมยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลแก่เจ้านายหนุ่ม
หลี่เหว่ยรับซองเอกสารจากมือลูกน้องคนสนิท เขารีบเปิดข้อมูลดูอย่างไว สายตาคมไล่กวาดอ่านข้อมูลบนกระดาษขนาดเอสีทีละบรรทัด
ลลิตา รติกาล ชื่อเล่นริน จบจากมหาลัยพีเคด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คณะบริหารระหว่างประเทศ สาขาภาษาจีน หลี่เหว่ยอ่านข้อมูลลลิตาจนจบ ต้องยอมรับเลยว่าเธอคนนี้ดีกรีไม่ธรรมดา ระหว่างอ่านไปเรื่อย ๆ สายตาคมสะดุดเข้ากับข้อความหนึ่งเขียนว่า เธอต้องการเงินจำนวนเจ็ดแสนบาทเพื่อผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจให้มารดา
หลี่เหว่ยยิ้มร้ายมุมปาก เขารู้แล้วว่าจะจัดการกับเธออย่างไรดี
“หวังปิง ไปเอาตัวเธอมา”
“ครับนายท่าน ผมจะรีบจัดการให้เดี๋ยวนี้”
ชายหนุ่มนอนเอนหลังพิงโซฟาตัวใหญ่ มองกระดาษในมือพลางยิ้มร้ายอย่างคนเจ้าเล่ห์
มุมหนึ่งของโรงพยาบาล ลลิตายืนสนทนากับแพทย์เบื้องหน้า
“คุณริน จะให้ทางเราส่งตัวคนไข้ไปผ่าตัดเมื่อไรครับ หากปล่อยไว้นาน คนไข้จะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวได้” แพทย์เจ้าของไข้อธิบายแก่ลลิตาให้เข้าใจกับโรคของมารดา
“รินขอเวลาสองวันค่ะ”
ลลิตาเดินคอตกไปยังหน้าโรงพยาบาลด้วยจิตใจห่อเหี่ยว เธอไม่รู้จะหาเงินจำนวนมากมายจากไหนดีจะให้ยืมภูวิชก็ไม่กล้าพอ อีกอย่างเขาไม่อยู่ด้วยเพิ่งบินไปดูงานต่างประเทศ
แต่ต่อให้เขาอยู่เธอก็ไม่กล้ายืมอยู่ดีเพราะเกรงใจ เขาเคยช่วยเธอหลายครั้งแล้ว หนนี้จึงไม่อยากเอาภาระไปให้เขา ขอหาทางออกเองดีกว่า
ทันใดนั้น
รถตู้คันหนึ่งจอดตรงหน้าเธอ ก่อนจะมีชายชุดดำสองคนเดินลงมาหาเธอพร้อมโป๊ะยาสลบ
ลลิตาพยายามขัดขืนสุดขีด สุดท้ายยาเริ่มออกฤทธิ์ สติของเธอเลือนรางเต็มทีก่อนดับวูบ
“รีบพาขึ้นรถเร็วเข้า” หวังปิงตะโกนบอก ก่อนลูกน้องจะรีบพาร่างเล็กขึ้นรถตู้ตามคำสั่งหวังปิงและรีบจากไปทันใด มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์ที่มีหลี่เหว่ยคอยอยู่
ลลิตาปรือตาขึ้นชักช้าและกวาดตามองรอบกายอย่างไม่คุ้นเคย เธอจำได้ว่าตอนนั้นกำลังเดินออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปทำงานร้านอาหารเหมือนทุกวัน อยู่ ๆ มีรถตู้คันหนึ่งหยุดตรงหน้าพร้อมชายชุดดำสองคนแล้วภาพเหล่านั้นก็ตัดหายไป
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” เสียงหวานพึมพำ เธอพอจะคาดเดาได้แล้วว่าตัวเองถูกจับตัวมาเนื่องจากถูกมัดมือมัดขา แต่ไม่รู้ว่าคนที่จับตัวเธอมาต้องการอะไรกัน
“เป็นไงเรียบร้อยดีไหม”
“เรียบร้อยดีครับนายท่าน”
“ใครกัน” ลลิตาได้ยินเสียงคนพูดคุยกันหน้าห้อง เสียงนั้นไม่ใช่ภาษาไทยแต่เป็นภาษาจีน
เธอจำได้ไม่เคยมีปัญหากับใครเลยโดยเฉพาะคนจีน หญิงสาวพยายามฟังเสียงพูดแต่เงียบลงแล้ว ทันใดนั้นมีเสียงคนผลักประตูเข้ามาก่อนเธอจะทำแสร้งเป็นหลับ
“ยังไม่ตื่นอีกเหรอ” หลี่เหว่ยก้มมองคนตัวเล็กโดนมัดไปทั่วร่างกายก่อนสั่งให้หวังปิงแก้มัดเชือก
“แก้มัด”
“ครับ”
ลลิตารู้สึกเหมือนขาและแขนได้รับอิสระ เธอจึงลืมตาขึ้นทันทีและเตรียมจะวิ่งหนี ทว่าเพียงไม่กี่ก้าวก็ถูกกระชากจนเซแล้วเข้าไปอยู่ในวงแขนของใครคนหนึ่ง
“คุณ!!” เธอตกใจมาก คาดไม่ถึงผู้ชายคนนี้คือคนเดียวกันที่เจอโรงพยาบาล
หลี่เหว่ยยิ้มร้ายมองคนตัวเล็กในอ้อมแขน ยิ่งได้เห็นเธออยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ ยิ่งทำให้เขาอยากสัมผัสร่างกายนี้มากเหลือเกิน แถมกลิ่นกายของเธอยังหอมมากทำเขาหวั่นไหวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เมื่อได้สติรีบโวยวาย เธอมองเขาอย่างพิจารณาเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเขาต้องจับเธอมาด้วยทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน หรือเขาจะโกรธตอนเธอเดินชน แต่ตอนนั้นเขาก็ดูเหมือนไม่ได้ต่อว่าอะไร
“หยุดดิ้นก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน ลลิตา!!” สั่งเสียงเข้ม หลี่เหว่ยพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง ยิ่งร่างกายเธอสัมผัสตัวเขามากเท่าไร ยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มไปหมด จนอยากปราบพยศเธอประเดี๋ยวนี้
“คุณ…” ลลิตากำลังจะโต้เถียงแต่ต้องปิดปากสนิท เมื่อเจอสายตาดุจ้องเขม็ง
“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” ยอมปล่อยคนตัวเล็กเป็นอิสระแล้วหมุนตัวไปนั่งตรงโซฟา
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ พาฉันไปส่งเดี๋ยวนี้นะ”
“เธอแน่ใจเหรอลลิตา ว่าเธอไม่มีอะไรจะคุยกับฉัน” หรี่ตามองปฏิกิริยาคนตรงหน้า
“ก็ฉันไม่มีจริง ๆ นี่คะ”
“ฉันมีข้อเสนอบางอย่าง”
“ฉันไม่ต้องการ ขอตัวก่อนนะคะ” ไม่ว่าเป็นเรื่องอะไรเธอก็ไม่อยากได้ยินทั้งนั้น ลลิตารีบหมุนตัวออกจากที่นี่แต่ต้องสะดุดกับประโยคถัดมาจากปากเขา
“เธอต้องการเงินเจ็ดแสน รักษาแม่ไม่ใช่เหรอ”
ลลิตาหยุดเดินทันทีก้าวไปต่อไม่ได้ เธออยากได้เงินเจ็ดแสนไปรักษาแม่ตามที่เขาพูดจริง ๆ แต่ไม่รู้เขาจะเสนออะไร ต่อให้มันร้ายแรงแค่ไหนเธอก็ยอมทั้งนั้น ขอแค่แม่เธอหายเป็นปกติและกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง เธอตัดสินใจหันหน้ามาเผชิญกับเขาอีกครั้ง
“คุณมีข้อเสนออะไร”
“มานั่งก่อนสิ” หลี่เหว่ยผายมือเชิญให้หญิงสาวนั่งลงตรงโซฟาตรงข้ามเขา พร้อมยื่นเอกสาร
ลลิตารับซองเอกสารมาเปิดอ่าน ทันทีที่เธอไล่อ่านทุกบรรทัดตาก็ลุกวาว ข้างในเป็นสัญญาจ้างให้แต่งงานกับเขาโดยในสัญญาระบุว่า
เธอต้องทำหน้าที่เป็นภรรยาของเขาโดยไม่มีข้อกังขาใด ร่วมถึงเรื่องบนเตียง ซึ่งเขาจะให้เงินเดือนเธอด้วยทุกเดือนเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ห้ามไม่ให้เธอบอกเลิกสัญญาระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ไม่อย่างนั้นต้องชดใช้เงินคืนเขา
“สิบล้านเหรอ” ลลิตาตะโกนเสียงดังพลางจ้องมองสัญญาในมือเรียว
“ใช่ตามที่สัญญาระบุ ห้ามบอกเลิกสัญญาไม่อย่างนั้นต้องคืนมาสิบล้าน”
“ฉันไม่ยอมรับ” ลลิตาวางสัญญาจ้างลงบนโต๊ะกระจก เตรียมจะหมุนตัวหนี
“เธอไม่อยากได้เงินแล้วเหรอ” ยกยิ้มมุมปากพลางช้อนตามองร่างเล็ก
“เซ็นตรงไหน” เมื่อไม่มีทางเลือกจำใจต้องเดินกลับไปหาเขา
“ตรงนี้เลย” หลี่เหว่ยยื่นสัญญาจ้างแก่หญิงสาวอีกครั้ง ครั้งนี้เธอยอมเซ็นอย่างไม่ลังเล เขารู้จุดอ่อนเธอตั้งแต่แรกแล้วจึงใช้เรื่องเงินเจ็ดแสนมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้หญิงสาวยอมรับ
“เสร็จเรียบร้อยแล้ว ไหนเช็คเงินสดเจ็ดแสนล่ะ” ลลิตาไม่อยากจะพูดมาก เธออยากได้เงินไปรักษาแม่เร็ว ๆ ครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายยอมลดศักดิ์ศรีเพื่อเงิน
หลี่เหว่ยยื่นเช็คเงินสดจำนวนเจ็ดแสนบาทแก่หญิงสาวพลางช้อนตามองลลิตา เขาไม่ชอบผู้หญิงแบบเธอเลยที่ยอมทุกอย่างเพื่อเงิน เพราะแบบนี้ไงเขาถึงไม่เชื่อความรักและไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง
“อย่าลืมมาทำหน้าที่นางบำเรอของฉันล่ะ”
“ค่ะ” ตอบเสียงอ่อน แอบเจ็ดจี๊ดกับคำพูดของคนตรงหน้า ในสายตาเขาก็เป็นได้แค่นั้นสินะ
