Chapter 2 : ข้ามถิ่น (1)
ในตอนค่ำหลังจากที่ช่างแอร์ทยอยออกไปจากร้านเจียงซิน เธอก็ขึ้นห้องไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมตัวไปยังที่ทำงานอีกแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังนี้เท่าไหร่นัก
"คุณผีไห่ถัง จริงๆ แล้วคุณรอฉันที่บ้านก็ได้นะ ไม่ต้องตามมาหรอก"
'เรียกแค่ไห่ถังเถอะ'
"อ้อ...ไม่อยากให้เรียกคุณผีสินะ"
'ไม่อยาก..'
"ไห่ถังกลับไปเถอะถ้ามันร้อนขนาดนั้น จะทนอยู่ทำไมเนี่ย?"
'ผมอยากออกมาเดินเล่น'
ไห่ถังเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยี่หระทั้งที่แขนซีกขวาของเขามีแสงส้มเรืองรอง เหมือนกระดาษที่กำลังถูกเปลวไฟเผาไหม้ จนต้องทิ้งช่วงห่างจากเธอเป็นระยะ เพื่อไม่ให้อาการแสบร้อนจากเครื่องรางเผาไหม้ร่างเขาจนเป็นจุณไปเสียก่อน
"ขอล่ะถ้าคุณ..."
เจียงซินรีบปิดปากลงทันที ที่เห็นหญิงวัยกลางคนจูงมือลูกน้อยเลี้ยวมาจากมุมถนน เธอยิ้มให้กับความน่ารักของเจ้าหนูน้อย ก่อนที่พวกเขาจะเดินสวนไป เพื่อขึ้นรถประจำทางจนในที่สุดบริเวณนั้นก็ร้างผู้คนอีกครั้ง
"ถ้าเกิดว่าคุณเป็นอะไรไป แล้วจะกลับร่างตัวเองได้ยังไงล่ะ?"
'ก็...'
เขาหยุดคิดและก้มหน้ามองมือของตน ที่ยังคงร้อนวูบวาบก่อนจะเหลียวมองรอบกาย ที่ยังคงถูกดวงตาหิวกระหายของเหล่าสัมภเวสีจ้องมองอย่างไม่ละสายตา ก่อนที่เจียงซินจะตัดสินใจเดินย้อนกลับมาหาเขา โดยทิ้งระยะห่างเอาไว้กว่า 3 เมตร
"ให้ฉันกลับไปส่งที่บ้านนะ"
เขาเหลือบมองดูนาฬิกาบนข้อมือของเธอ ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาเกือบสองทุ่มถนนหนทางก็เปลี่ยวร้าง และดูอันตรายเกินกว่าที่จะให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ เดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวได้
"คุณ..."
ร่างโปร่งแสงลอยนำไปโดยที่ไม่รู้ทิศทาง หรือจุดหมายทำให้เจียงซินต้องรีบตามเขาไปติดๆ ไม่ยอมปล่อยให้วิญญาณตนนี้อยู่นอกเขตคุ้มกันของเธอ
โดยเฉพาะคืนที่มีวิญญาณเร่ร่อน เรียงรายตลอดทางกว่าครึ่งร้อยแบบนี้...
ยิ่งเดินเข้าซอยไปลึกมากเท่าไหร่ สีหน้าของไห่ถังก็มีเครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมามากเท่านั้น เมื่อตลอดสองข้างทางที่เจียงซินกำลังเดินผ่านไป คือแหล่งสถานบันเทิงที่ตกแต่งด้วยแสงไฟ และมีหนุ่มสาวแต่งกายล่อแหลมออกมายืนเรียกแขกอย่างคับคั่ง
'คุณกำลังจะไปทำงานอะไร?'
เจียงซินไม่ตอบเธอทำเพียงแค่ดึงฮู้ดมาคลุมผม และรีบย่ำเท้าไปบนถนนที่เจิ่งนองไปด้วยแอ่งน้ำ ไห่ถังกวาดสายตามองรอบตัวด้วยแววตาพิจารณา นี่อาจจะเป็นแหล่งเสื่อมโทรมที่สุดในเมืองนี้เลยก็ว่าได้
...อันตรายจนไม่มีวิญญาณเร่ร่อนสักตนอยู่แถวนี้
วูบ!!!
ร่างของไห่ถังเหมือนชนเข้ากับกำแพงบางอย่าง ที่ยืดหยุ่นยวบยาบและโปร่งแสงราวกับกำแพงน้ำ จนแทบไม่สามารถมองเห็นมันด้วยตาเปล่า และตอนนี้ร่างเล็กๆ ของเจียงซินที่เดินนำ ก็ไกลออกไปเรื่อยๆ โดยที่เขาไม่สามารถตามเธอไปได้
'เจียงซิน!!'
"ทำไมไม่ตามมาล่ะ หรือเกิดเปลี่ยนใจ?"
'ผมเข้าไปไม่ได้!'
วิญญาณหนุ่มพยายามฝ่าแนวกันเข้ามาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี แต่ร่างของเขาก็ถูกโล่กำบังดีดออกไป จนถึงกับเซถลาถอยหลังไปหลายก้าว
เธอรีบเดินย้อนกลับมาหาเขาด้วยความงุนงง แต่ทันทีที่เจียงซินเข้ามาใกล้ กำแพงนั้นก็ถูกเจาะทะลุเป็นเหมือนซุ้มประตู เหมือนกับพลาสติกใสโดนไฟ จนทำให้เขาผ่านเข้ามาได้แต่ดูเหมือนจะมีเพียงเขาที่มองเห็น
"ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย?"
'แต่เมื่อกี้มัน...'
ฝ่ามือใหญ่ลูบเบาๆ ด้านหลังที่กลับมาเป็นแผ่นฟิล์มใสที่ปิดสนิทดังเดิม นั่นทำให้ไห่ถังรู้สึกหวั่นกลัวที่จะยืนตรงนี้ต่อไป และรีบตามเจียงซินไปติดๆ
เหลือไว้เพียงเงาทะมึนที่มีเพียงศีรษะ ประดับด้วยเครื่องหัวแบบโบราณ ลอยอยู่บนยอดตึกแถวและใช้แววตาสีแดงโรจน์ มองลงมาที่ร่างของพวกเขาทั้งสองด้วยแววตาพินิจพิเคราะห์
'ร่างทรง กับวิญญาณของมนุษย์'
'ที่ยังไม่หมดอายุขัยอย่างงั้นหรือ?'
'ประหลาด'
ไห่ถังยังคงพึมพำไม่หยุดตลอดทาง จนเจียงซินต้องชำเลืองมองด้วยความอ่อนใจ
'ที่นี่มันประหลาดเกินไปแล้ว!!'
"จะมีอะไรประหลาดว่าการที่มีวิญญาณแบบคุณ อยู่บนโลกอีกเหรอ?"
จริงดังว่า...
ในที่สุดเขาก็ยอมปิดปากเงียบ และตามเธอเข้ามาภายในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ที่มีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าสามสิบคน กำลังยืนเคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลง และดื่มกินกันอย่างสนุกสนานอยู่ภายในร้านแห่งนี้ ซึ่งตกแต่งสไตล์ลอฟท์เป็นส่วนผสมของปูนเปลือย อิฐ พร้อมกับเครื่องเรือนที่คุมโทนสีเข้ม ดูมีสไตล์และเข้ากันได้อย่างลงตัว
'คุณทำงานอะไรเหรอ?'
"..."
'เป็นพนักงานต้อนรับ'
"..."
'พนักงานเสิร์ฟ หรือบาร์เท...'
เสียงของไห่ถังขาดห้วง เมื่อเห็นการ์ดร่างสูงใหญ่เดินมายืนเผชิญหน้าในระยะใกล้ จนเขาเผลอก้าวถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ
"สวัสดีครับคุณเจียงซิน"
ท่าทีนอบน้อมของชายร่างใหญ่ทำให้วิญญาณหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปม และทำได้เพียงยืนฟังบทสนทนาของพวกเขาอยู่เงียบๆ
"วันนี้พวกเก็บค่าคุ้มครองยังไม่มา แต่พวกมันมาคืนนี้แน่"
"เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปตรวจบัญชีหน่อยฝากดูแลข้างล่างด้วยนะคะ"
"ยินดีครับ"
และร่างบอบบางก็เดินเข้าไปด้านในสุดของร้าน ท่ามกลางเสียงทักทายด้วยความเคารพยำเกรงของทุกคน นั่นทำให้ความสงสัยของไห่ถังกระจ่างขึ้นมาทันที
"ที่ร้านกาแฟเป็นยังไงบ้าง กิจการรุ่งเรืองดีไหม"
บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยขึ้น ขณะที่วางแก้วใส่น้ำผลไม้สีชมพูพีชให้เธอ
"ขอบใจนะลู่เสวียน ก็เรื่อยๆ แต่วันนี้หยุดให้ช่างมาซ่อมแอร์"
เจียงซินยกน้ำผลไม้ขึ้นมาดื่มดับกระหาย จนหมดไปค่อนแก้ว
"วันนี้วันอันตราย ไม่ต้องมาก็ได้"
"ฉันรู้ว่าตอนนั้นมาถึง นายกับเหวินเกอจะคอยคุ้มกันฉัน"
ประโยคคาดหวังแกมบังคับ ทำให้บาร์เทนเดอร์พ่นลมหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ และหันไปหาของบางอย่างที่ชั้นวางด้านหลังเคาน์เตอร์
'แฟนคุณเหรอ?'
"..?"
คำถามของไห่ถังทำให้เจียงซินเกือบสำลักไม่กล้าหันไปวีนใส่เขา เพราะตอนนี้ลู่เสวียนกำลังหันมาพร้อมกับซองจดหมายในมือ
"มาส่งเมื่อเช้า แอบไปสั่งของอะไรมาอีกล่ะ?"
"ไม่ใช่ซะหน่อย นี่มัน... เอกสารจบหลักสูตรทำลาเต้อาร์ตขั้นสูงต่างหาก"
"ขั้นสูง...?"
"ทีนี้ฉันก็จะทำแบบที่มีฟองครีมรูปสัตว์แบบสามมิติ ให้ลูกค้าได้ซะที~"
ไห่ถังมองดูชายหนุ่มหน้าละอ่อน ที่กำลังคลี่ยิ้มจางๆ และลูบศีรษะของเจียงซินด้วยความคุ้นเคย ปฏิกิริยาเหล่านั้นทำให้วิญญาณหนุ่มห้ามปากของตน ไม่ให้เอ่ยแซวไม่ได้
'หล่อแล้วยังใจดีอีก'
แต่เจียงซินก็ทำเป็นหูทวนลม
'แบบนี้สเปคผมเลย'
พรู้ดดดดดด!!!
น้ำผลไม้ที่ดื่มเข้าไปพ่นออกมาเป็นฟองฝอยจนเลอะไปทั้งเคาน์เตอร์ เจียงซินหวัดสายตามองไห่ถังด้วยแววตาขุ่นเคือง ขณะที่ยื่นมือไปรับทิชชูมาซับปากของตน และช่วยลู่เสวียนเช็ดเคาน์เตอร์ด้วยความเซ็ง
"กินเลอะเทอะเป็นเด็กๆ ไปได้"
"โทษที ฝากด้วยล่ะ"
ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองทันที ไห่ถังเองก็รีบลอยตามเธอขึ้นไปติดๆ จนเธอเริ่มรำคาญใจแต่ก็ก้มหน้าเปิดแฟ้มเอกสาร ตรวจใบสั่งของโดยที่ไม่สนใจร่างวูบวาบ ที่กำลังลอยสำรวจไปทั่วทั้งห้อง
'อาชีพของคุณน่าทึ่งมาก กลางวันเปิดร้านกาแฟ ส่วนกลางคืนก็มาคุมร้านเหล้า'
เขาเอ่ยด้วยใบหน้าชื่นชม และลอยมาเท้าคางอยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม
'เหมือนเจ๊ใหญ่เลย เท่ชะมัด~'
.
.
'แถมแฟนก็หล่อซะด้วย'
หญิงสาวชำเลืองมองดูเขา และส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน
"เขาเป็นเพื่อนของฉัน"
'แต่ดูแล้วผู้ชายคนนั้น... อยากเป็นอย่างอื่นมากกว่านะ?'
สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองผ่านปอยผมด้านหน้า ทำให้หญิงสาวร้อนวูบวาบแปลกๆ แต่ก็ทำเพียงยกแฟ้มขึ้นหมายจะหวดเขาเท่านั้น
"เลิกกวนฉันซะที เห็นไหมกำลังทำงานอยู่เนี่ย!"
ไห่ถังคลี่ยิ้มออกมาจางๆ และยอมถอยออกมานั่งที่โซฟาตัวยาวแทน อันที่จริงแล้วถึงแม้ว่าเขาจะดูชื่นบานในสายตาเธอ แต่จริงๆ แล้วภายในใจกลับว้าวุ่นแปลกๆ
ตั้งแต่ก้าวพ้นกำแพงนั้นมาได้ความอึดอัดก็เริ่มก่อตัวขึ้นในอก และสัมผัสได้ถึง 'บางสิ่ง' ที่มีอำนาจเหนือกว่า กำลังกดทับพลังของเขาเอาไว้ อย่างตอนที่ทิ้งช่วงเดินห่างจากเธอ และพ้นเขตคุ้มกันของเครื่องราง ร่างโปร่งแสงของเขาก็สั่นสะเทือนเหมือนโดนคลื่นบางอย่างแทรก และหนักอึ้งขึ้นมาเหมือนกับ... จมอยู่ใต้มหาสมุทร
'ที่นี่มัน... เป็นเขตที่ลงอาคมอะไรสักอย่างไว้สินะ'
'หรือไม่ก็'
.
.
'คงมีเจ้าที่พลังวิญญาณสูงมาก ถึงได้ไม่มีวิญญาณให้เห็นเลยสักตนเดียว'
และเพื่อไม่ให้เกิดอาการเหล่านั้น เขาจึงไม่สามารถห่างจากเจียงซินได้แม้แต่วินาทีเดียว..
'เป็นผีก็ลำบากเหมือนกันนะ'
เจียงซินเงยหน้ามองวิญญาณหนุ่มที่รำพันขึ้นมา ก่อนจะก้มหน้าทำงานของตนให้เสร็จโดยเร็ว
'ก็อาจจะสบายกว่าฉันตอนนี้ก็ได้...'
เพียงแค่นึกถึงภาระอันหนักอึ้งที่ต้องแบกร้านทั้งสองเอาไว้ในมือ ร้านหนึ่งก็เพื่อความฝันวัยเด็กที่อยากมีร้านกาแฟเล็กๆ ให้คนมานั่งพักผ่อน
ส่วนอีกร้านก็คือที่นี่... ที่ที่พ่อทิ้งภาระอันใหญ่หลวงไว้ให้ แต่เธอก็ไม่อาจตัดใจปิดตัวมันลงได้ เพราะมันคืออู่ข้าวอู่น้ำของพนักงานกว่าสิบชีวิต ที่ต้องดิ้นรนหาเช้ากินค่ำ
'เกิดเป็นฉัน...'
.
.
'มันเหนื่อยจริงๆ เลยนะ'
