ตอนที่ 1-3
เมื่อดิโน่เป็นใจไม่ส่งเสียงร้อง ไม่ชี้ไม้ ชี้มือ ทำเพียงตาโตใส่สิ่งที่เดินผ่านด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เออ แบบนี้ค่อยน่ารัก น่าเลี้ยงหน่อย” เดวิดกระซิบเบาๆ ข้างหูเล็กๆ แล้วเดินลัดเลาะห่างมาไม่ไกลซึ่งมีแอปเปิลกาล่า ปลูกเรียงเป็นแนวยาว
“อร่อยจัง หวาน กรอบ ไม่เคยกินแอปเปิลอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย”
‘เดือนนารา’ กัดอีกคำอย่างเอร็ดอร่อยบวกกับความโหยหิวที่ไม่มีอาหารตกถึงท้องมาตั้งแต่เมื่อวานจึงทำให้กินหมดไปจวนหมดผลโดยไม่รู้ตัว เธอกินโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกสายตาคู่คมมองอย่างประณามราวกับว่าเธอคือ อีฟ ผู้ผิดคำสัญญาต่อพระเจ้า ขโมยกัดกินแอปเปิลในสวนอีเดน แต่เขาก็จ้องเธออย่างทึ่งๆ ตาไม่กระพริบจนกระทั่ง ไอ้อ้วนฟาดฝ่ามือมาที่แก้มของเขาอย่างแรง
“ไอ้อ้วน ตบหน้าฉันทำไม”
เขาก้มลงไปดุเหลานเบาๆ แล้วมองตรงไปด้านหน้าเห็นหัวขโมยพร้อมหลักฐานคามือ
น้ำเสียงเข้มจัดของเดวิดดังขึ้น “ยัยหัวขโมย! ฉันจะจับเธอส่งตำรวจ”
เขาไม่ได้หวงแอปเปิลเพียงผลเดียวถ้าจะไปกินผลอื่น นั่นมันเป็นผลผลิตรุ่นแรกของโลก ใช้เวลาเพาะพันธุ์สิบครั้งกว่าจะได้ต้นกล้า และออกลูกมาแค่สิบผล แล้วเธอเป็นใคร มาจากไหน การบุกรุกเข้ามาแบบนี้จะให้เรียกว่าอะไรถ้าไม่ใช่ขโมย
ผลไม้สุดอร่อยที่เหลือไม่ถึงครึ่งผลหล่นจากมือเล็กขาวสะอาด หญิงสาวที่หันกลับมาเป็นลมล้มพับไปต่อหน้าเดวิด ทำให้เจ้าของ Wonder Orchard สวนแอปเปิลที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาไม่คิดว่าตนเองจะได้เจอสโนวไวท์ขี้ขโมย ตัวเป็นๆ
“เฮ้! เธอจะมานอนตายตรงนี้ไม่ได้นะ เพราะตำรวจจะเข้าใจว่าแอปเปิลของฉันมีสารพิษตกค้าง ทั้งที่ Wonder Orchard เป็นสวนแอปเปิลออร์แกนิก”
‘เขาไม่กลัวยัยนี่ตาย กลัวถูกกล่าวหาว่าแอปเปิลมีพิษต่างหาก’
เดือนนาราค่อยๆ ปรือตาตื่นขึ้นมาช้าๆ หลังจากเป็นลมหมดสติไปหลายชั่วโมง ดวงตากลมโตกวาดมองรอบด้านแล้วขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยปนระแวงว่าเธออยู่ที่ไหน เมื่อมองสำรวจจึงพบว่าภายในห้องที่เธออยู่มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่มีเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นอยู่ครบ กลางเก่ากลางใหม่ลักษณะเหมือนเป็นบ้านพักคนงาน “บ้านของใครกัน แล้วใครพาเรามา” เดือนนาราพึมพำในลำคอ ตอนนี้เธอรู้สึกหิวน้ำมากเหลือเกิน
ก่อนหน้าจะหมดสติไป เธอนั่งรถประจำทางระหว่างเมืองเดินทางมาไกลจากโอเรกอน เพื่อมาพบกับเจ้าของสวน Wonder Orchard แต่เพราะความหิวที่ไม่ได้กินอะไรเลยเมื่อมาพบแอปเปิลสีแดงสดลูกใหญ่จึงทำให้เธอเด็ดมากินโดยไม่ทันได้ขออนุญาตเจ้าของ
ร่างบอบบางเดินไปที่ประตู เธอต้องหาใครสักคนให้เจอเพื่อถามว่าที่นี่ใช่สวน Wonder Orchard หรือไม่ ทว่ามือเรียวบางกำลังเอื้อมจับที่บิดประตูแต่บานประตูก็ถูกผลักเข้ามาเสียก่อน
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงห้าวกับใบหน้าคล้ำแดดของคนที่เปิดประตูเข้ามาทำให้เดือนนาราตกใจ
“คะ คุณเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหน”
คนมาใหม่กวาดมองสาวน้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า “ที่นี่คือสวน Wonder Orchard ว่าแต่คุณเป็นใคร ไม่ใช่คนแถวนี้นี่ หน้าตาก็ดีไม่น่าเป็นขโมยเลยนะ” ชายหนุ่มที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคนงานบอกอย่างเสียดาย
“ฉันไม่ใช่ขโมย ฉันต้องการพบกับเจ้าของสวนนี้ คุณช่วยพาฉันไปพบเขาหน่อยสิ ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับเขา” เดือนนาราบอกความต้องการของตัวเองทันที เธอเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจคนที่นี่ขึ้นมา
“เรื่องสำคัญอะไร บอกผมมาก็ได้ ผมเป็นหัวหน้าคนงานที่นี่”
คนฟังรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันต้องการคุยกับมิสเตอร์แบรดลีย์เจ้าของสวนนี้ ถ้าไม่ใช่เขา ฉันไม่คุย” เดือนนารายื่นคำขาด แล้วจ้องเขม็งไปที่คนที่ยืนขวาง เธอต้องการคุยเรื่องสำคัญ ถ้าคุยจบได้เร็วเธอก็จะได้รีบกลับ
“คุณเดวิดไม่มาพบหัวขโมยอย่างคุณหรอก คุณเดวิดสั่งให้ผมจับตัวคุณไว้แล้วรอส่งสถานีตำรวจเช้าพรุ่งนี้ ข้อหาบุกรุกและลักทรัพย์”
“บุกรุกและลักทรัพย์” เดือนนาราครางด้วยความตกใจ “แต่ว่าฉันไม่ใช่ขโมย แค่กินแอปเปิลไปสองลูกถึงกับจับส่งตำรวจเลยเหรอ ไม่โหดไปหน่อยหรือไง ไหนว่าสวน Wonder Orchard เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในสโปแคนไงล่ะ ทำไมแค่นี้ถึงกับหวงด้วย” เดือนนาราโวยวาย “หรือเอาอย่างนี้ แอปเปิลผลนั้นราคาเท่าไร ฉันจ่ายเงินให้ก็ได้” เดือนนาราหยิบแบงก์ดอลลาร์ส่งให้แม้ราคาแบงก์ที่ยื่นให้จะมากกว่าราคาแอปเปิลก็ตาม แต่ผู้ชายคนนั้นก็ยังไม่ยอมรับ
“ทำไมไม่รับไปล่ะ” เดือนนาราถามเสียงแข็ง
“อย่าเสียเวลาเลย รอไปพบตำรวจพรุ่งนี้เถอะ คุณเดวิดเกลียดหัวขโมยที่สุด คนที่กล้าขโมยแอปเปิลในสวนนี้ศพสุดท้ายถูกฝังไปเมื่อปีก่อน จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาขโมยแอปเปิลที่สวนอีกเลย”
“แต่ฉันไม่ใช่ขโมย ฟังกันบ้างสิ” เดือนนาราพยายามอธิบาย แต่ว่าผู้ชายคนนี้ก็ไม่ยอมฟัง “กรุณาฟังฉันหน่อย ฉันไม่ใช่ขโมยจริงๆ เชื่อฉันเถอะ”
คนที่ได้รับคำสั่งให้มาเฝ้าขโมยส่ายหน้า เขามองผู้หญิงตรงหน้าแล้วดูอย่างไรก็ไม่น่าจะใช่หัวขโมย เธอดูตัวเล็ก บอบบาง เหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตอนที่เจ้านายอุ้มเธอเข้ามาที่บ้านพักคนงาน เขายังคิดว่าเธอเป็นสโนวไวท์เสียอีก
“ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอก คุณเดวิดสั่งมาแล้วให้พาคุณไปส่งตำรวจพรุ่งนี้”
“ไม่นะ ไม่...”
เสียงประตูปิดดังปัง ไม่มีใครฟังคำอธิบายทำให้เดือนนาราเข่าอ่อนยวบ อยากจะกรีดร้องออกมาให้สุดเสียงด้วยความโมโห นี่เธอจะต้องมาติดคุกที่อเมริกาหรือนี่ จะทำยังไงดี ทำไมไม่มีใครฟังเธอบ้างเลย
เดือนนาราเม้มปากแน่น ดวงตากลมโตมองไปที่หน้าต่างห้อง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย เธอแค่หิวจนตาลายแล้วหลงมาอยู่ในสวนแอปเปิลเลยต้องทำผิดเด็ดแอปเปิลมากิน
เดือนนาราไม่แน่ใจว่าคนที่สะพายเด็กไว้ด้านหน้าใช่มิสเตอร์เดวิด แบรดลีย์ เจ้าของสวนนี้หรือไม่ เพราะเธอยังไม่ทันมองเขาเต็มตา แต่เพราะความตกใจผสมกับความเหนื่อยล้าที่อดนอนมาหลายวันก่อนที่จะเดินทางมาเลยทำให้เป็นลมไปเสียก่อน
ฉันจะต้องพบคุณให้ได้มิสเตอร์แบรดลีย์
