ตอนที่ 1-2
แล้วยังตัดใจไม่ได้ว่าจะเอาสีฟ้าหรือสีเหลือง แต่สีเขียวก็เข้าที สุดท้าย เขาเลยสอยมาเจ็ดสี สั่งมาจากร้านค้าออนไลน์ชื่อดัง ยิ่งทำให้ดิโน่ตัวน้อยแลดูเหมือนลูกไดโนเสาร์แสนน่ารัก และจะน่ารักมากกว่าหากหมอนี่ลดการคันเหงือก และไล่กัดไม่เลือก
หลังจากหาข้อมูลเรื่องพัฒนาการของทารกมาอ่าน เขาคิดว่าดิโน่กำลังมันเขี้ยว เพราะจุกนมถูกกัดเป็นรู บางวันมีรอยขาด เช่นเดียวกับเมื่อครู่ หัวนมแท้รุ่นแม่ให้มาของเขาก็เกือบจะกลายเป็นเหยื่อของลูกไดโนสาร์จอมตะกละไปเสียแล้ว
มือเล็กๆ ไล่จับนิ้วของเขาเดวิด แต่พอมันไล่จับ เดวิดก็แกล้งยกนิ้วหนี ให้เด็กน้อยไล่คว้าอากาศ “ความไวของนายน้อยไปแล้วไอ้อ้วน”
หากลองเทียบดูมือของดิโน่ใหญ่กว่านิ้วชี้ของเขาเพียงนิดเดียว “ถ้าคราวนี้นายงับนิ้วฉัน และเอาเข้าปากไปกัดอีก ฉันจะจับนายยัดใส่กล่องไปรษณีย์ส่งด่วนไปที่คฤหาสน์แบรดลีย์ให้คนอื่นเลี้ยงแทน”
เขาไม่รู้หรอกว่าเจ้าหมอนี่ฟังรู้เรื่องไหม แต่ท่าทางแหงนหน้ามองเขาตาค้าง ทำปากหงึกๆ ราวกับจะเบะ เหมือนว่าเขาคือยักษ์ที่กำลังรังแกเด็ก และจะจับเด็กกินทำให้เดวิดเผลออมยิ้ม
“เจ้าลูกไดโนเสาร์ลงพุงรู้มาก ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก ฉันแค่แหย่นายเล่น”
“แอ้..” เด็กน้อยร้องอ้อแอ้แล้วมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น แล้วส่งยิ้มให้
“เด็กอะไรรู้มากเกินไปแล้ว” เดวิดส่ายหน้าไปมา ระอาในพฤติกรรมของเจ้าแสบที่เอาตัวมาติดแหง็กให้เขาต้องอุ้มไปไหนด้วยทั้งวัน
“ดิโน่ นายอยู่กับฉันมาเดือนกว่าแล้ว ฉันมีอะไรจะบอกนาย ฉันไม่ใช่ไอ้เฮงซวยที่แม่ของนายด่าก่อนเธอจะวิ่งหนีเตลิดไปหรอกนะ” เดวิดชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “มองหน้าฉันให้ดี ฉันจะบอกให้ว่าฉันไม่ใช่...”
แต่พอเห็นเด็กน้อยตัวป้อม ดวงตาใสแจ๋วจ้องหน้าเขาเขม็ง แล้วยิ้มปากบาน หัวเราะคิกคิก เดวิดเลยพูดต่อไม่ออก
‘เขาไม่ใช่แด๊ดดี้ ของดิโน่’
เขาคือ เดวิด เป็นพี่ชาย ฝาแฝด ของ แดเนียล แบรดลีย์ ซึ่งไอ้หมอนั่นอาจเป็นแด๊ดดี้เฮงซวยที่แท้จริงของเด็กคนนี้ แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นเพราะต้องรอให้แดเนียลกลับมาตรวจดีเอ็นเอเทียบกับไอ้เจ้าอ้วนนี่ก่อน แต่มองหน้ามันไปมาก็มีส่วนคล้ายพวกเขาพี่น้องอยู่มาก
‘เจ้าอ้วน หน้าตานาย ดูไปดูมาก็คล้ายๆ พวกฉันตอนเด็ก แต่ฉันและน้องๆ ของฉันไม่มีใครอ้วนเท่านายสักคน อ้วนผิดเผ่าพันธุ์ เด็กอะไรวะ มีหัวแล้วตัวเลย’
‘ถ้าอยากใช้นามสกุลแบรดลีย์ หน้าตาพอได้ แต่รูปร่างนายต้องปรับปรุงบ้างนะอ้วน’
เดวิดลืมตัวไปว่าตอนเขาได้ดิโน่มาอยู่ เจ้าหนูนี่ไม่ได้ตัวใหญ่แลดูเป็นทารกยักษ์เท่าเวลานี้ เขาเลี้ยงมาเดือนเศษไม่คิดว่าเด็กจะโตขึ้นมาก เขาปลูกแอปเปิลเก่ง สงสัยว่าจะเลี้ยงเด็กเก่งด้วย ถึงสมบูรณ์ โตไว ท่าทางฉลาดอีกด้วย
ที่จริงเดวิดไม่ใช่สายรักเด็ก ออกจะไม่ชอบ ค่อนข้างรำคาญมากด้วยซ้ำ ไม่เคยฝันว่าอยากจะมีลูกหรือหลาน เพราะเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘เด็ก’ มักจะมีอารมณ์แปรปรวนคล้ายๆ กับพวกผู้ป่วยไบโพลาร์ เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวหัวเราะ ไม่พอใจก็ร้องเสียงดัง บางทีก็อออกอาละวาดกว้างข้าวของ อารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย ดูน่ากลัวพิกล ผิวก็ยังดูบอบบาง ไม่ได้กร้านแดดเหมือนเขา บางครั้งต้องหาครีมมาโชลมให้ตั้งแต่หัวจรดเท้า พวกเด็กนี่เรื่องแยะจริง งานก็ทำยังไม่ได้ แต่ร้องหม่ำ หม่ำ กันทั้งวัน ใช้เงินกันก็เก่ง ค่าตัวแพงเวอร์
ถ้าให้คนอย่างเดวิดเปรียบเทียบคำว่าเด็กกับอะไรสักอย่างเขาคิดว่าเด็กคือตุ๊กตามีชีวิตราคาโคตรแพงหนึ่งเดือนที่รับเจ้านี่มาเขาต้องเรียกช่างมาตกแต่งภายในให้บรรยากาศเหมาะสมสำหรับเด็กทารก เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างต้องเข้ากับเด็ก เสื้อผ้า อาหาร ทุกอย่างต้องดีที่สุดเหมาะสมกับเด็ก เจ้าภาระตัวน้อยผลาญเขาไปหลายแสนดอลลาร์ นี่เขาขายแอปเปิลไปกี่ผลถึงได้เงินขนาดนี้
‘เขาไม่ได้งก แค่เป็นมหาเศรษฐีที่รู้จักใช้เงิน’
คนที่ต้องทำงานในฟาร์มม้า และยังต้องดูแลสวนแอปเปิลซึ่งมีคนงานนับพันทำให้เขาต้องเจียดเวลาอันน้อยนิดมาคอยดูแลไอ้อ้วนไปด้วย เพราะไม่ค่อยไว้ใจคนอื่น
เจ้าดิโน่จึงเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อยในระยะหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่เขาจะทำอย่างไรได้ ถึงจะไม่แน่ใจว่าใช่หลานหรือไม่ แต่เพื่อมนุษย์ธรรมอันน้อยนิดที่เขามี และอีกอย่างความบังเอิญไอ้อ้วนนี่ดันมีหน้าตาเข้าเค้าว่าจะเป็นหลานชายแท้ๆ ของเขาอย่างมาก เหมือนออกจากเบ้าเดียวกันเลย แต่ผิดตรงรูปร่าง เขาและน้องๆ ตอนเด็กตัวผอมแห้ง แต่หน้าตาหล่อๆ แบบดิโน่นี่แหละ
เขาจะเอามันไปไปโยนเป็นภาระให้ใครต่อได้นอกจากเลี้ยงเอาไว้เองแล้วรอจนกว่าจะเจอไอ้น้องชายตัวแสบ เมื่อนั้นจะจับตรวจดีเอ็นเอให้รู้เรื่อง
“เอาละ เจ้าอ้วนไม่ต้องมามองหน้าฉันแบบนี้ ยังไงซะกว่าจะเจอแดเนียลแด๊ดดี้ไร้ความรับผิดชอบของแก ฉันสัญญาว่าจะดูแลนายอย่างดี แม้ว่าฉันจะต้องอดออกไปแฮงก์เอาต์ทุกศุกร์ และอด...กับสาวๆ ก็เถอะ” อย่างหลังนับว่าโหดสำหรับเขา
ที่ต้องเลิกแฮงก์เอาต์และอดไปคลุกวงในกับสาวสวย เพราะสองสามวันแรกที่เขาพาเจ้าดิโน่กลับมาที่วอชิงตัน เขาเพิ่งรู้ว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเด็กเลี้ยงยากกว่าม้าพันธุ์ดีตั้งเยอะ หากเขาไม่เลิกดื่มแอลกอฮอล์ทุกวันหลังเลิกงาน เจ้าอ้วนเด็กน้อยคนนี้อาจจะได้ชิมนมรสบรั่นดี หรือวิสกี้ เข้าไปแทน ถึงตอนนั้นไม่อยากจะคิดว่าถ้าลุงกับหลานต้องเมาไปพร้อมกัน
‘นรกแน่’
‘เพราะฉะนั้นลุงจึงต้องยอมเลิกเหล้าเพื่อหลาน’
‘แต่ขอย้ำว่าชั่วคราวเท่านั้นนะ จนกว่าแด๊ดดี้ตัวจริงของมันจะกลับมา’
กร๊อบ กร๊อบ
เสียงกัดแอปเปิลดังมาแว่วๆ เป็นเสียงที่แสดงถึงความสดกรอบแบบที่เจ้าพ่อแห่งวงการแอปเปิลเดาได้ทันทีว่าเป็นการกัดคำโตๆ ลงบนผลแอปเปิลกาล่าที่กัดคำเดียวไม่เคยพอ
กร็อบ กร๊อบ
เสียงกัดคำโตๆ ยังดังต่อเนื่อง ทำให้เดวิดส่งสัญญาณให้เจ้าแสบดิโน่ที่เวลานี้ถูกเดวิดยัดกลับเข้าไปในเป้อุ้มเด็กซึ่งทำจากผ้าเนื้อดีซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ทำเครื่องสนามของทหาร เขาเช็กสายล็อกว่าแน่นหนาเรียบร้อยดี แล้วยกนิ้วชี้จรดริมฝีปากส่งสัญญาณให้ดิโน่หุบปากซะ
“ดิโน่อย่าร้องนะ เดี๋ยวฉันจะพานายไปไล่จับหนูที่มาแอบกินผลผลิตในสวนของเรา” เขาจะไม่แปลกใจหรอกว่ามีคนแอบมาขโมยผลผลิต เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของทางสวน ไม่มีคนมาทำงาน ยกเว้นคนงานที่ประจำอยู่ที่คฤหาสน์ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของ Wonder Orchard แห่งนี้
