ตอนที่ 2-1 สโนวไวท์กับเจ้าชายสุดหล่อ
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตครับ” เสียงขออนุญาตตามมาด้วยเสียงเข้มที่บอกให้เข้ามาได้
“มีอะไร” คนพูดไม่ได้มองหน้าคนมาใหม่ เพราะต้องตรวจออร์เดอร์ในมือที่ฝ่ายขายของ Wonder Orchard ส่งรายงานขึ้นมา ออร์เดอร์ในไตรมาสนี้มีมากกว่าไตรมาสก่อนมาก
“คุณเดวิดครับ ผู้หญิงคนนั้นตื่นแล้ว เธอบอกว่าอยากขอพบคุณเดวิดด้วยครับ ผมถามว่าเรื่องอะไร เธอก็ไม่ยอมบอก พูดแต่ว่าจะคุยกับคุณเดวิดคนเดียว”
นิโคลัสหัวหน้าคนงานรายงานหลังจากขึ้นมาจากบ้านพักคนงาน เขาได้รับคำสั่งจากเดวิดให้ขังตัวหัวขโมยสาวไว้ที่บ้านพักคนงานก่อนจะพาไปสถานีตำรวจในเช้าวันพรุ่งนี้
เดวิดเพิ่งกล่อมดิโน่ตัวแสบหลับคาอกไปเมื่อครู่แล้วพาไปนอนในห้อง และเพิ่งได้มีเวลาตรวจเอกสาร เขาถอนหายใจแรงๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมา
“อยากจะขอพบฉันอย่างนั้นหรือ” เดวิดโคลงศีรษะ แม่สาวเอเชียร่างเล็กคนนั้นมีเรื่องอะไรอยากพบเขา เขาไม่เคยมีคู่ขาเป็นสาวเอเชียแบบหล่อนเลย หรือมีแต่ก็จำไม่ค่อยได้ หากให้จำใบหน้าสาวๆ ว่าเคยควงใครมาบ้าง เขาจำหน้าม้าแม่พันธุ์ในฟาร์มได้แม่นกว่าอีก
“ใครกัน หรือจะมาอ้างว่ายังไม่ได้ค่าตัว” เขาใช้งานหนักแต่จ่ายหนักและไม่เคยลืมจ่ายค่าตัว หรือถ้าเขาเมาหนักอาจจำเธอไม่ได้จริงๆ แต่เขาไม่มีทางลืมวางเช็คให้พวกหล่อนทุกครั้งหลังเสร็จกิจแน่นอน
“เธอไม่บอกครับว่าอยากคุยเรื่องอะไร” นิโคลัสย้ำ
“แต่ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับเธอ”
อันที่จริงเดวิดต้องยอมรับว่าแม่สาวเอวบางร่างเล็กคนนั้นมีใบหน้าสวยจิ้มลิ้มน่ามองไม่น้อย ตอนเธอถือแอปเปิลในมือดูไปแล้วเหมือนสโนวไวท์ไม่มีผิด ทั้งตอนที่เธอหมดสติล้มลงไปมันชวนให้คิดว่าถ้าเขาก้มลงไปจุมพิตที่กลีบปากนุ่มๆ แดงระเรื่อเธอจะฟื้นขึ้นมาไหม
แต่เกรงว่าเขาจะออกคำสั่งให้ดิโน่ปิดตาไม่ได้ เจ้าตัวแสบอาจจะแอบดู ซึ่งเขาไม่อยากทำอะไรแบบนั้นต่อหน้าเด็ก ถึงดิโน่จะยังไม่รู้ความก็เถอะ
ตอนนั้นนิโคลัสมันผ่านมาพอดีเพราะเขาเรียกมันเข้ามา จะเข้าไปอุ้มเธอแต่เขาห้ามไว้ก่อนและให้นิโคลัสมาอุ้มดิโน่ไปแทน ส่วนตัวเขาอุ้มเธอไปไว้ที่บ้านพัก ตอนนั้น เขายังลอบมองใบหน้าสวยนั้นหลายครั้ง ดวงตา ปาก คิ้วคาง รับกันไปหมด เนื้อตัวก็นุ่มนิ่มขาวผ่อง แถมหน้าอกหน้าใจก็อวบอิ่มพอดีตัว
“ถ้าคุณเดวิดไม่ต้องการพบเธอจริงๆ พรุ่งนี้ผมจะได้พาไปสถานีตำรวจตั้งแต่เช้านะครับ”
เดวิดหลับตาครุ่นคิดก่อนจะเรียกลูกน้องคนสนิทไว้ “เดี๋ยวก่อนนิค ก่อนไปก็พามาหาฉันอีกทีแล้วกัน ฉันอยากเห็นหน้าหล่อนอีกครั้ง”
นิโคลัสอมยิ้ม “ครับ ผมจะพาเธอมาหาคุณเดวิดตอนแปดโมงเช้านะครับ”
นิโคลัสเห็นสายตาดุๆ มองมาก็รีบก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มรู้ทัน เดวิดเริ่มจะสนใจแม่สาวเอเชียร่างเล็กคนนั้นเข้าให้แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทีท่าสนใจแบบนี้ แต่จะไม่ให้สนใจได้อย่างไร เพราะแม่สาวคนนั้นสวยน่ารักราวกับสโนวไวท์จริงๆ
เดือนนาราไม่ต้องการนอนคุก เธอไม่ใช่หัวขโมย เธอเป็นโปรแกรมเมอร์ฝีมือดี แต่วันนี้หมดสภาพต้องหยิบแอปเปิลลูกโตในสวนคนอื่นกินเพราะหิวจัดจนตาลาย แล้วแอปเปิลที่สวนนี้มันกรอบอร่อยจนหยุดไม่ได้
แต่เจ้าของอาณาจักรสวนผลไม้พันล้านที่ส่งออกไปทั่วโลกคนนี้โหดร้ายเกินไปจะจับเธอส่งตำรวจ เธอควรหนีออกไปก่อนแล้วค่อยกลับมาอธิบายให้เขาฟัง ถ้าไม่ติดว่าจะคุยเรื่องสำคัญเธอคงจะหนีไปไม่กลับมาอีกแล้ว
นึกถึงคำพูดที่เป็นเหมือนคำสั่งเสียของพี่สาวก็ทำให้หัวใจดวงน้อยฮึดสู้ ชีวิตในต่างแดนทำให้เธอรู้จักเอาตัวรอด ไม่รอคอยความตาย
เดือนนาราสำรวจรอบห้องนี้แล้วก็พบว่ามีหน้าต่างชำรุดไม่ได้ซ่อมแซม เพราะเหตุนี้หรือเปล่าถึงได้ไม่มีคนอยู่ และเจ้าของสวนเลยจับเธอมาขังไว้ในห้องนี้ก่อน
“ซวยจริงๆ แค่กินแอปเปิลแค่นี้ทำงกไปได้ ไหนตามข้อมูลว่ารวยระดับมหาเศรษฐีพันล้าน ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นสายเปย์ ที่แท้เกลือมหาสมุทรเรียกพี่ชาย” เดือนนาราเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันนึกถึงเจ้าของสวนหน้าเลือด ถ้าเรียกเก็บเงินเพื่อเป็นค่าเสียหายเธอก็จะยอมจ่ายให้ ถึงแม้จะเพิ่งเรียนจบมาแต่เธอก็มีเงินเก็บบ้าง
ด้วยการที่เดือนนาราเป็นคนขยันทำให้ผลการเรียนดีมาโดยตลอดจึงได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเมื่อมาเรียนที่อเมริกา คนขยันไม่ยอมอยู่นิ่งหนักเอาเบาสู้ ชีวิตเด็กมหาวิทยาลัยที่นี่เกือบทุกคนทำงานไปด้วยระหว่างเรียน
เดือนนาราเห็นช่องหาประสบการณ์ไปพร้อมกับรายได้จึงสมัครเข้าโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างครอบครัวของชาวอเมริกันกับผู้คนทั่วโลกหรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘ออแพร์’ เดือนนาราเคยทำหน้าที่ดูแลลูกๆ ให้กับโฮสต์แฟมิลี และช่วยเตรียมอาหารให้พวกเขาอยู่ในรัฐหนึ่ง เธอได้รับเงินจากการช่วยดูแลลูกของโฮสต์อยู่ไม่น้อย พวกเขาเป็นครอบครัวที่น่ารัก ใจดีมากและบอกว่าเธอดูแลลูกๆ ของพวกเขาได้ดี โฮสต์แฟมิลียังช่วยสนับสนุนเงินด้านการศึกษาให้อีกบางส่วนจนกระทั่งเธอเรียนจบ
เพราะชีวิตเด็กกำพร้าทำให้เธอปากกัดตีนถีบตั้งแต่เด็ก บิดามารดาเสียตั้งแต่เธออายุสิบสอง ลุงกับป้าซึ่งมีเปิดกิจการเนอสเซอรี่เลี้ยงเธอมาแต่พอกิจการขาดทุน พวกท่านก็ไม่มีเงินส่งเสียเธอ เธอจึงดิ้นรนทำงานพิเศษทุกอย่างเพื่อหาเงินส่งเสียตัวเอง
เดือนนารากลับมาสู่ปัจจุบัน ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มเมื่อหน้าต่างที่ทำจากไม้ถูกดันออกไปเพียงพอให้เธอปีนออกไปได้ หน้าต่างบานนี้มันไม่มีกลอนแต่ถูกงับปิดไว้เฉยๆ เธอเห็นจากตอนที่เดินสำรวจ
บานหน้าต่างหนาหนักถูกผลักออก
เอี๊ยด
เดือนนาราค่อยๆ ปีนออกมา และกระโดดลงกับพื้นอย่างง่ายดาย เมื่อเท้าถึงพื้นคอนกรีต เธอจึงเพิ่งเห็นว่ามันเป็นบ้านพักคนงาน เจ้าของสวนคงทำไว้ให้คนงานอาศัย สภาพยังใหม่อยู่ทุกห้องยกเว้นห้องที่เธอเพิ่งหนีออกมา เดือนนาราไม่แน่ใจว่าจะมีใครเดินมาเห็นเธอหรือเปล่า เพราะบริเวณโดยรอบเงียบมาก มองไปที่ห้องพักข้างๆ ส่วนใหญ่จะปิดไฟนอนกันหมดแล้ว
เดือนนารายิ้มอย่างโล่งอก เธอตั้งใจว่าจะหนีไปก่อนแล้วค่อยกลับมาพบกับเจ้าของสวนอีกครั้งเพื่ออธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง เธอหวังว่าเขาจะเข้าใจและเลิกคิดว่าเธอเป็นหัวขโมยเสียที
