04 | จูบแรก
ประตูห้องถูกเปิดกกว้างภายในมืดสลัว ก่อนที่ร่างสูงจะเดินไปยังสวิทซ์ไฟเปิดมันจนสว่างจ้า ยุทธภพซื้อคอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุงและย้ายมาอยู่ได้สองปีแล้วหลังจากที่เลิกราจากแฟนคนเก่า
“อยู่ได้นะ!”ชายหนุ่มถามคนตัวเล็กที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาขาเรียวยาวก้าวเดินไปยังตู้เย็นหยิบเครื่องดื่มออกมาสองกระป๋องและเดินกลับมาหาเธอ
“กินไหม! แล้วระบายความในใจให้ฉันฟัง”กชกรเอาแต่ก้มหน้างุดจนเขาต้องถอนหายใจ หากเจ้าหล่อนไม่พูดอะไรเลยคงจะอกแตกตายแน่จึงเปิดเบียร์ยื่นใส่ในมือบาง
“…..”หญิงสาวยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไรกระดกเบียร์เข้าปากรวดเดียวเกือบหมดกระป๋อง ดวงตากลมโตสั่นระริกมีน้ำคลออยู่ที่หน่วยตาเตรียมพร้อมจะไหลออกมาอย่างง่ายดาย
“รู้ไหมคะว่าทำไมดิวถึงกินเหล้ากินเบียร์ เพราะต้องอยู่ในสังคมอโคจรคนเดียวถึงไม่อยากเสียรู้ใคร แต่ดิวไม่โทษแม่หรอกนะคะว่าทำไมถึงได้ทำแบบนี้ เพราะเราเกิดมาจนแต่ไม่จำเป็นต้องขายตัว”เธอตัดสินใจพูดในสิ่งที่เคยระบายให้เมวีญาฟังคราแรกให้ชายตรงหน้าฟัง
“…..”ยุทธภพมองผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปจากที่เคยคิดว่าเธอก็เหมือนคนอื่นทั่วไปกินเที่ยวสนุกสนาน เนื้อหนังมังสาที่เจ้าหล่อนใช้ทำงานจากที่เขามองอย่างเหยียดหยามกับเข้าใจมากขึ้นว่าทุกอย่างที่กชกรทำเพื่อเอาตัวเองรอด
“ดิวตัดสินใจหนีทุกสิ่งรอบกายออกจากบ้านโดยไม่มีอะไรติดตัว ต้องขอบคุณยัยเมย์ที่คอยอยู่เคียงข้างมาตลอดดิวก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความฝันไม่อยากจบอนาคตอยู่ที่ซ่องคนเราเลือกเกิดไม่ได้ เลือกแม่ไม่ได้ แต่เลือกจะกำหนดอนาคตตัวเองได้”เบียร์ในกระป๋องถูกกระดกดื่มจนหยดสุดท้าย
“ยังไงเธอก็ต้องขอบคุณที่ท่านให้ชีวิตเธอมานะ…”นั่งฟังเด็กสาวร่ายยาวออกมาเขาเองก็อึ้งไปชั่วขณะสมัยนี้หาผู้หญิงแบบนี้ได้อีกไหม
“ดิวดูเป็นคนกร้านโลกใช่ไหม!”เธอถามออกไปอย่างไม่คิดอะไรแต่คนฟังถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเขาเองก็เคยคิดแบบนั้น
“….”
“เปล่าหรอกค่ะนั่นมันเกาะป้องกันตัวเอง”กชกรพูดทุกสิ่งให้เขาฟังเพื่อระบายออกมา ไม่มีใครได้รู้เรื่องราวพวกนี้นอกจากเมวีญาเท่านั้นหากวันนี้ไม่มีชายตรงหน้าป่านนี้คงได้นอนกอดกระเป๋าเป้เดินทางที่เพิ่งกลับจากทะเลข้างถนนไปแล้ว
“ฉันเคยมองเธอผิดไป….”ถ้อยคำของพาทีทำให้เธอหันมองหน้าเขาคิ้วขมวดกันเป็นปมระคนสงสัยใคร่รู้ ไม่คิดว่าจะได้ยินคำขอโทษจากเขาที่ไม่เคยว่าจะปรายตามองเธอเลยด้วยซ้ำ
“ขอโทษด้วยนะที่วันนั้นไม่รู้จักเธอดีพอ!”หากไม่เห็นกับตาไม่ได้ยินกับหูถ้อยคำเมื่อครู่ที่เด็กสาวเปล่งออกมาเขาคงจะคิดว่าเป็นฉากละครน้ำเน่าก็ว่าได้ กชกรเกิดในสลัมแต่ความคิดคำพูดการกระทำชั่งดูสูงศักดิ์กว่าคนที่เกิดมาเพียบพร้อมเสียอีก
“ขอบคุณพี่พาทีนะคะที่สงสารดิว”ไม่รู้หรอกว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่แต่บุญคุณครั้งนี้เธอไม่คิดจะลืมแน่นอน รอยยิ้มละลายใจของกชกรถูกส่งมาให้ชายหนุ่มอีกครั้ง
หัวใจดวงแกร่งเต้นระส่ำก่อนจะเหยียดขาพาดโต๊ะกระจกเบือนหน้าหนี ทำไมนะทำไมเขาถึงหวั่นไหวกับเธอเช่นนี้ ไม่ยอมเด็ดขาดเขาจะไม่ยอมเป็นเหมือนพี่ชายฝาแฝดของตนที่หลงรักเมียเด็กหัวปรักหัวปรำ
“แฟนเธอล่ะบอกเขาหรือยังว่าอยู่กับฉัน”พูดกลบเกลื่อนความในใจแต่พอนึกถึงคนที่อาจจะเคยครอบครองเธอมาก่อนภายในใจก็จุกเสียดยากเกินจะอธิบาย
“ดิวไม่มีแฟนค่ะ”ให้ตายเถอะ~ เป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเธอสวยแซ่บดูร้อนแรงขนาดนี้ไม่มีชายใดเหลียวแลถึงขั้นอยากดูแลเหมือนเขาเลยหรือ
บ้าบอความคิดของเขามันบ้าบอที่สุด!!
“อืม…”ฟุ้บ~ โซฟาไหวยวบรับรู้ถึงน้ำหนักของร่างหนาที่ทิ้งดิ่งหย่อนสะโพกลงมานั่งเคียงข้าง เบียร์ในมือบางถูกดึงออกไปก่อนที่เขาจะกระดกต่ออย่างไม่นึกรังเกียจ
“เอ่อ…”ถึงขั้นกับติดอ้างพูดอะไรไม่ถูก กี่ครั้งแล้วนะที่เขาทำอะไรให้เธอแปลกใจเช่นนี้ความรู้สึกของเขาคืออะไรกันแน่
“อยากอาบน้ำไหมเพิ่งกลับจากทะเล!”ยุทธภพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบดูดวงหน้าหวานงามหยดย้อยที่ดูเหนื่อยล้ากับอะไรหลายอย่างจนเขาเองก็อดสงสารไม่ได้
“…..”กชกรพยักหน้ารับสายตาไม่ผละออกจากใบหน้าหล่อเหลาไปไหนหัวใจดวงน้อยเต้นแรงอีกครั้งเมื่อสบเข้านัยน์ตาคู่คม
“มองฉันแบบนี้สงสัยหรืออยากได้เป็นผัว!”หญิงสาวดึงสติตัวเองกลับมาก้มหน้างุดไม่กล้าจ้องมองเขา คำถามตรงไปตรงมาของชายหนุ่มฆ่าเธอทางอ้อมได้
“หึ!...สบตาฉันสิ”เสียงเค้นหัวเราะในลำคอก่อนจะช้อนดวงหน้าหวานให้สบนัยน์ตาคม เขาชอบมองแววตาของเธอมันน่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูก
“ดิวไม่กล้า! หัวใจมันเต้น....”น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความไหวหวั่นถูกเปล่งออกไป ดวงตากลมโตเบือนหนีโดยที่เขายังจับหน้าเธอเอาไว้
“แค่มองตาใจยังเต้นถ้าแก้ผ้าเข่าไม่อ่อนหรือไง”รู้สึกอยากจะแกล้งเธอขึ้นมาเมื่อเห็นอาการตื่นตระหนกของเจ้าหล่อนเรียกง่ายๆ ว่าหมาหยอกไก่ก็ไม่ปาน
“งั้นพี่พาทีมองดิวแล้วบอกสิว่าไม่รู้สะ…อื้อ”พูดไม่ทันจบประโยคปากหยักหนาก็กระแทกจูบลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว คำตอบของเขามันชัดเจนแน่แท้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ เขาชอบเด็กสาวผู้กร้านโลกคนนี้ทุกสิ่งอย่างมันเป็นภาพลวงตาทั้งที่ข้างในชั่งอ่อนไหว
“อ๊ะ….อืม!!”เสียงครางลึกในลำคอด้วยความพอใจในรสจูบไม่เดียงสา ความหอมหวานของเจ้าหล่อนกำลังทำให้เขาลุ่มหลงอย่างยากจะถอนตัว
ฝ่ามือหนาจับไหล่บางแน่นระงับอารมณ์ที่กำลังจะเตลิดของตนอย่างควบคุมไม่ได้ลิ้นหนาตวัดพัวพันกับลิ้นเล็กเมื่อเจ้าหล่อนเปิดรับเขาอย่างเต็มใจ
“อื้อ…”กชกรดึงสติของตัวเองกลับมาเมื่อมือหนากำลังลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย อากาศออกซิเจนกำลังจะหมดจนต้องผละออกจากกัน
ตุ้บ!
“พี่พาที…เดี๋ยวค่ะ”ฝ่ามือน้อยยันอกแกร่งไว้แน่นร่างเล็กถูกผลักลงนอนราบกับโซฟา จนเธอเอียงหน้าหลบด้วยความเหนียมอายครั้งก่อนมีพี่ปาร์ตี้ช่วยเอาไว้แต่ครั้งนี้โอกาสนั้นมันชั่งไกลริบหรี่
“จูบเดียวหนูดิว!”สรรพนามที่กล่าวขานเปลี่ยนไปเลือดในกายหนุ่มใจร้อนลุ่มดั่งไฟสุมฝ่ามือหนาจับหน้างามให้หันกลับมาโน้มใบหน้าลงต่ำหมายจะจูบที่กลีบปากบางระเรื่อ
ติ่งต่อง! ติ่งต่อง!
