บท
ตั้งค่า

03 | ห่วงใย

ยุทธภพได้แต่หงุดหงิดกับคำพูดของคนข้างกายหญิงสาวลั่นวาจาออกมาให้เขาไหวหวั่นในรถแท็กซี่เต็มไปด้วยความเงียบได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสามคนซึ่งมีเขากชกรและโชเฟอร์

“ลุงคะ…เดี๋ยวจอดซอยข้างหน้าเลยค่ะ”เสียงใสดังขึ้นแต่ทว่าไม่สามารถทำให้เขาเมียงมองเจ้าหล่อนเลยสักนิดจนคนขับพูดประโยคหนึ่งขึ้นจึงทำให้ชายหนุ่มหูผึ่งทันใด

“ในซอยนี้ทางมันเปลี่ยวมากนะหนู แล้วอีกอย่างลุงไม่กล้าขับเข้าไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อนลุงถูกตักจี้ตรงนี้แหละ!”

“เอ่อ…คือหนูก็ไม่รู้ค่ะออกจากบ้านตั้งแต่อายุสิบห้า”จากที่คิดอยากจะกลับบ้านไปหาผู้เป็นแม่ความหวดกลัวเกาะกินในหัวใจดวงน้อยเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของคนขับแท็กซี่

“เดี๋ยวหนูเดินเข้าไปเองก็ได้ค่ะ!”กชกรตัดสินใจเด็ดเดี่ยวยังไงซะเธอก็เคยเดินเข้าออกในซอยนี้ตั้งแต่ยังเด็กคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ได้

หนุ่มนักดนตรีทำทีไม่สนใจทั้งที่บทสนทานาของคนทั้งคู่นั้นทำให้ห่วงใยคนข้างกาย ยิ่งเจ้าหล่อนเปล่งวาจาว่าจะเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยวคนเดียวยิ่งทำให้น่าเป็นห่วง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อยากจะใส่ใจเพราะยังไงเสียมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาจะว่าเป็นคนใจร้ายก็เชิญ ใครจะเป็นจะตายจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวนอกเสียจากเรื่องของครอบครัวตัวเองเท่านั้น

ปัง!

เสียงปิดประตูและร่างเล็กที่ก้าวลงจากรถแท็กซี่ค่อยๆเคลื่อนตัวออกช้าๆ สายตาคมเอี้ยวมองกระจกด้นข้างคนขับเห็นเด็กสาวเดินเข้าไปหายวับในซอยเปลี่ยว

“โธ่เว้ย! ยัยเด็กบ้า”

เท้าเล็กก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมายเพียงสิบเสาไฟเท่านั้นก็ถึงบ้านเธอแล้ว กชกรตัดสินใจไม่เช่าหอพักที่เดิมเพราะจะกลับมานอนบ้านสักหนึ่งเดือนเพื่ออยู่กับแม่ก่อนเข้ามหาลัย

ความมืดที่ถึงแม้ว่ามีเพียงไฟสลัวจากเสาไฟฟ้าแต่มันชั่งห่างกันมากนัก เสียงร้องของแมลงกลางคืนดังลั่นทำให้บรรยากาศดูวังเวงขึ้น

ตึก! ตึก!

เสียงฝีเท้าดังขึ้นแต่เธอไม่กล้าหันกลับไปมองทำได้เพียงเร่งฝีเท้าเดินเร็วขึ้น แต่เสียงนั้นยิ่งเข้าใกล้เธอเรื่อยๆ ก่อนจะคว้าหมับที่ข้อมือเล็กจนกชกรเซถอยหลังอย่างแรง

“กรี๊ด!!!...อุ๊บ”กรกชกรีดร้องด้วยความตกใจเนื้อตัวสั่นเทาหวาดกลัวแต่แล้วร่างเล็กก็ถูกตรึงกระชาก ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะกดหน้างามลงที่อกแกร่งปิดเสียงร้องโวยวายเอาไว้

“ร้องทำซากอะไร ห๊ะ!...เป็นผีหรือไงเดินเร็วฉิบ”น้ำเสียงที่แสนคุ้นเคยดังขึ้นทำให้กชกรน้ำตาคลอเบ้าจนหลั่งไหลออกมาเปียกชุ่มเสื้อยืดสีน้ำเงินของเขา

“อึก…ฮื้อ กลัวมันน่ากลัว!”เสียงสะอื้นไห้กับถ้อยคำถูกเปล่งออกมาจนยุทธภพต้องผละตัวเจ้าหล่อนให้ห่าง จ้องมองดวงหน้างามเปื้อนไปด้วยน้ำตาเรียบนิ่ง

“กลัวอะไรฉันไม่ใช่โจร…”เสียงเข้มดังกร้าวตอกใส่หน้าเธอจนคนตัวเล็กสะดุ้งโหยงทำไมเขาต้องแกล้งเธอด้วย เกลียดกันมากนักหรือไงตั้งแต่วันแรกที่เจอกันสายตาเย็นชาเช่นนี้ถูกส่งมาเสมอ

“ก็คนมันตกใจนิ…อึก แล้วทำไมยังไม่กลับ”เมื่อตั้งสติได้เธอจึงถามร่างสูง ยกมือขึ้นปาดน้ำตาจากดวงหน้าสูดน้ำมูกเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา

“อยากเดินเล่นน่ะ ปะ…บ้านเธออยู่ไหนฉันเดินไปเป็นเพื่อน~”ไม่พูดพร่ำทำเพลงหรือแม้กระทั่งอาการของเด็กสาวอ้าปากหวอด้วยความไม่เข้าใจ

“….”กชกรทำอะไรไม่ถูกเดินตามแรงกระชากของชายหนุ่มงุนงงกับเหตุการณ์เมื่อครู่เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“ชอบดิวเหรอ!”เธอพูดอย่างที่คิดก่อนเท้าแกร่งจะหยุดชะงัก คำถามของเธอยังเข้ามาในโสตประสาทเขาเองก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตอนนี้เช่นกัน

“เธอเป็นเพื่อนว่าที่พี่สะใภ้ฉัน ไอ้ตี้มันบอกให้ฉันดูแลเธอก็เท่านั้นไม่ได้รู้สึกอะไร!”มือหนาปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระเขาไม่ได้โกหกตัวเองอยู่ใช่ไหม จะเป็นไปได้ยังไงทั้งที่ในสายตาเขาเจ้าหล่อนเป็นเพียงแค่เด็กกร้านโลกเท่านั้น

“อ๋อค่ะ…แต่ช่วงนี้ความรู้สึกดิวมันแปลก หัวใจมันเต้นแรงตอนที่อยู่ใกล้พี่”เธอบอกออกไปตามความรู้สึกใช่ว่าจะไม่เคยมีแฟนมาก่อนแต่ผู้ชายพวกนั้นจะเข้ามาในชีวิตเพื่อหวังเรื่องบนเตียง เธอจึงออกห่างจากเสือผู้หญิงที่ไม่คิดจริงจัง ทว่าได้เห็นเขาและได้อยู่ด้วยกันเพียงครึ่งวันหัวใจดวงน้อยกับสั่นระรัว

“…..”คนปากแข็งได้แต่ระบายยิ้มออกมาไม่ให้เธอเห็น ชอบคำพูดตรงไปตรงมาแสดงว่าเจ้าหล่อนหวั่นไหวเมื่อได้อยู่ใกล้เขา ชายหนุ่มผิวปากเดินนำอย่างอารมณ์ดีทว่ากับเสียฟอร์มเมื่อได้ยินเสียงเล็กตะโกนไล่หลัง

“บ้านดิวหลังนี้คะ”บ้าฉิบ~ บ้านที่เธอว่านั้นไม่ต่างอะไรกับบ้านร้างสักนิด มีเพียงแสงไฟจากหยอดตะเกียบดวงเดียว พาทีหมุนตัวกลับมาก้าวเพียงห้าก้าวก็เข้าประชิดตัวเธอ

“หลังนี้เหรอ!”นิ้วเรียวยาวชี้ไปในบ้านที่ดูไม่เป็นบ้านเท่าไหร่ ถอดหายใจเฮือกใหญ่มองไปรอบๆ นี่มันเขตสลัมชัดๆ

“ค่ะ! เดี๋ยวดิวเรียกแม่ก่อนนะ”รอยยิ้มจริงจังกับสีหน้าแสดงถึงความไม่น่าอายว่าเธอเกิดมาจากที่นี่จริงๆ จนทำให้เขาแปลกใจ ผิวพรรณ หน้าตา รูปร่าง ดูจะคุณหนูขนาดนั้นทำไมมาอยู่ในที่แบบนี้ได้

“แม่แจ้จ๋า! แม่แจ้…”ร่างเล็กแกะประตูรั้วไม้ผุพังเรียกบุพการีของตน

“ใครมันมาเรียกกูเอาป่านนี้วะ!”เสียงแหบยานตะโกนตอบด้วยคำหยาบคายปรากฏร่างผอมโซดูโทรมเสียจนดูไม่ได้เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงมาที่ประตู

“แม่จ๋า…ดิวเอง”

“อีนี่กลับมาทำไมอีลูกเนรคุณ หนีออกจากบ้านตั้งแต่นมตั้งเต้า”คำพูดของหญิงวัยกลางทำให้บุคคลที่สามผงะไปกับวาจาของผู้เป็นแม่ของเด็กสาว

“ดิวจะกลับมาอยู่บ้านกับแม่เดือนหนึ่งก่อนเข้ามหาลัย”

“เออดี…กูจะพามึงไปขายซ่องพรุ่งนี้เลย!”นางแจ้ยิ้มแป้นมองดูลูกสาวที่ตนไม่ต้องการด้วยความสนอกสนใจ หลังจากหนีหายจากบ้านไปสองปีกลับมาครั้งนี้ดูสวยสง่า

“ไม่เอานะแม่!”หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธรัวก่อนที่ผู้เป็นจะเข้าประชิดตัวกระชากผมเธออย่างแรงจนเจ้าหล่อนหน้าเงยเกด้วยความเจ็บปวด

“ถ้ามึงไม่ขายตัวก็ไปจากบ้านกู!”แม่บังเกิดเกล้าชี้หน้าขับไสไล่ส่ง ยุทธภพแทบยืนไม่อยู่กับที่เดินเข้าไปจับร่างหญิงวัยกลางออก

“อ๋อ…ที่วันนั้นมึงหนีเพราะไปอยู่กับผัวมึงใช่ไหม”

“ปะ…เปล่า”

“ใช่ครับ! ผมเป็นผัวดิว”ไม่ทันที่กชกรจะได้พูดจบประโยคเสียงเข้มก็เอ่ยแทรกขึ้นมากางปีกปกป้องเจ้าหล่อนไว้ หญิงสาวมองหน้าเขาผ่านม่านน้ำตาแปลกใจระคนสงสัยว่าทำไมพี่พาทีถึงพูดแบบนั้น

“หึ! ร่านนะมึง”นางแจ้ชี้หน้าด่าเตรียมจะทำร้ายร่างกายลูกสาว ทว่าร่างสูงกับเบี่ยงตัวตนป้องการกระทำของหญิงวัยกลางเอาไว้

“แม่จ๋า…ให้ดิวอยู่ด้วยนะแค่วันนี้วันเดียว ดิวปล่อยหอให้เขาเช่าไปแล้ว”กชกรพนมมือขอร้อง หากว่าคืนนี้ไม่ได้นอนที่บ้านเธอคงได้นอนข้างถนนเป็นแน่จะไปหาเมวีญาก็เกรงใจแฟนหนุ่มของเพื่อนรัก

“เรื่องของมึงไสหัวไป!”

“ไปเถอะดิวไปกับฉัน…”เสียงพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมาดึงคนตัวเล็กให้พ้นจากรัศมีแห่งความหายนะ โดยได้ยินคำด่าทอตะโกนไล่หลังเรื่อยๆ

“อึก…ดิวไม่มีที่ไปแล้ว”กชกรร้องไห้โฮส่ายหน้าไปมาคืนนี้หากหาโรงแรมนอนคงไม่ยากแต่ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้วการเดินทางหาที่พักนั้นคงลำบากไม่น้อย

“คืนนี้นอนกับฉัน!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel