บท
ตั้งค่า

Chapter 6 เสือร้าย

“เงยหน้าขึ้นมองฉัน” พยัคฆ์บีบคางของข้าวหอมเชยขึ้น มองใบหน้าดุร้ายที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งของเขา

เหมือนเสือไม่มีผิด ข้าวหอมรู้สึกอย่างนั้น ตัวเธอเหมือนตกอยู่ในอุ้งมือของสัตว์ร้ายที่กำลังจะตะครุบเหยื่อ

“พ่อของเธอทำผิด ตอนนี้ยังแก้ไขได้ทัน เธอเลือกได้ว่าจะช่วยให้พ่อของเธอเป็นคนร้าย หรือช่วยให้เขากลับตัว” พยัคฆ์บอกอย่างใจเย็นลง แต่แววตาของเขายังคงความโมโหเอาไว้ชัดเจน

“ขะ...ข้าว...คือ...เอ่อ...” หญิงสาวยังอึกอัก

“ถ้าฉันเป็นคนตามมันเจอเอง รับรองได้ว่าฉันจะถลกหนังหัวพ่อของเธอด้วยมือของฉันนี่แหละ ไอ้คนทรยศแบบนั้นจะไม่ได้ตายดี” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดกับแววตามุ่งมั่นของเขาทำให้ข้าวหอมยิ่งกลัว

ข้าวหอมตัวสั่นเป็นลูกนก เอาแต่ร้องไห้เพราะเธอกลัวคนตรงหน้า สิ่งที่เขาบอกออกมาเป็นจริงทุกคำ ทุกอย่างล้วนเป็นฝีมือของพ่อ

‘มึงเป็นลูกกู มึงต้องทำตามที่กูสั่ง คนอกตัญญูต่อบุพการีไม่มีวันเจริญหรอกนะ’

คำสั่งของพ่อยังวนเวียนอยู่ในหัว เธอไม่ปฏิเสธว่าพ่อคือบุพการีที่ต้องแทนบุญคุณ แต่หัสดายุก็มีพระคุณเหนือหัว ชาตินี้คงจะชดเชยได้ไม่หมด พ่อยังมาทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้อีก

พยัคฆ์กระชากตัวหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับตัวเอง หญิงสาวกำโทรศัพท์เอาไว้แน่นเพราะข้อความสุดท้ายที่พ่อส่งมาเธอยังไม่ได้ลบออก

“ส่งโทรศัพท์เธอมาให้ฉัน” เขาสั่งเสียงเข้ม ข้าวหอมสั่นหน้า ถ้าหากว่าเขาเห็นข้อความในโทรศัพท์ เธอก็จะอยู่ในตำแหน่งผู้สมรู้ร่วมคิดกับพ่อโดยปริยาย เธอจะไม่ยอมให้เขาตกหลุมพรางพ่อของเธอเด็ดขาด

พยัคฆ์ไม่รอคำตอบ กระชากโทรศัพท์ในมือของหญิงสาวมา จากนั้นก็ยื่นไปตรงใบหน้าเธอเพื่อสแกนปลดล็อคหน้าจอและเช็คข้อมูลภายในทันที พอเห็นสายสุดท้ายพี่เพิ่งวางไปไม่กี่นาทีเขาก็ยิ่งโมโห บีบโทรศัพท์แทบจะแหลกคามือ กัดฟันกรอด หันมาจ้องหน้าข้าวหอมราวจะกินเลือดกินเนื้อ

“ฉันไม่เคยคิดว่าเธอจะทรยศ เขาบอกว่าลูกเสือลูกจระเข้เลี้ยงไม่เชื่องคงจะเป็นอย่างนี้เอง” เขาบอกด้วยน้ำเสียงปวดร้าว เพราะให้ความรักกับเด็กสาวตรงหน้ามาตลอด ตอนนี้เขาเหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ข้าวหอมจำยอม เธอพยักหน้าทั้งน้ำตา ทรุดตัวลงนั่งกองกับพื้น พนมมือไหว้เขา “ข้าวยอมแล้วค่ะ ข้าวยอมแล้ว… แต่ขอโทรศัพท์ข้าวคืนนะคะ ข้าวจะหลอกถามพ่อให้ว่าอยู่ที่ไหน”

หญิงสาวเว้าวอนเขา เธอตั้งใจจะเกลี้ยกล่อมให้พ่อกลับใจ หลังจากนั้นก็ชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองก่อ เธอจะไม่มีวันทรยศเขาเด็ดขาด

แต่นั่นก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะพยัคฆ์กำลังเปิดเช็คข้อมูลในโทรศัพท์ของข้าวหอม เห็นตำแหน่ง GPS ที่หนานคำส่งมาให้ล่าสุด เขาไม่รู้ว่าทั้งคู่คุยอะไรกันก่อนหน้านี้ แต่ก็สรุปเองจากสิ่งที่เห็นเสร็จสรรพ

“ไอ้หนานคำมันส่งพิกัดมาให้เธอ คงนัดแนะจะให้ไปเจอและหนีไปด้วยกันใช่ไหม”

หญิงสาวส่ายหน้า “ไม่ใช่นะคะ”

“โกหก! ฉันจะไม่มีวันเชื่ออสรพิษอย่างเธออีกต่อไป”

“พ่อเลี้ยงฟังข้าวเถอะค่ะ เรื่องนี้มัน…”

ยังไม่ทันพูดจบพยัคฆ์ก็กระชากแขนข้าวหอมลุกขึ้น พร้อมกับใช้แรงฉุดเธอไปที่รถ “มากับฉันเดี๋ยวนี้ จะมามัวพิรี้พิไรถ่วงเวลาให้พ่อเธอหนีหรือไง ที่เธอกลับมาวันนี้ก็เพราะเรื่องนี้ใช่มั้ย แถมยังเกาะติดฉันไม่ห่าง ฉันมันโง่เองที่ไว้ใจงูพิษอย่างเธอ”

ข้าวหอมเป็นลูกสาวของหนานคํา เธอกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงพิมาลาเอ็นดูเธอมากจึงรับมาเลี้ยงส่งเสียให้เรียนหนังสือ และตอนนี้ข้าวหอมก็เป็นนิสิตพยาบาลปีสุดท้าย ข้าวหอมเป็นเด็กเรียบร้อยมารยาทดี อ่อนน้อมถ่อมตน นั่นทำให้แม่เลี้ยงพิมาลารักเธอเหมือนลูกสาวอีกคน

พยัคฆ์กับสีหราชก็ให้ความรักและเอ็นดูเธอมาก ตอนเธอยังเด็ก เธอคือความสดใสทั้งหมดของบ้านนี้

“พ่อเลี้ยงคะ ได้โปรด..” ข้าวหอมพยายายมห้าม เธอเองก็เสียใจมาก ไม่คิดว่าพ่อของเธอจะกล้าทรยศผู้มีพระคุณได้

“ฉันไม่มีวันเชื่อผู้หญิงทรยศ ไม่รู้จักบุญคุณคนอย่างเธอหรอก การศึกษาไม่ช่วยอะไรเธอเลยใช่มั้ย”

ข้าวหอมร้องไห้สะอึกสะอื้นมาตลอดทาง พยัคฆ์มาที่บ้านหลังหนึ่งตามตำแหน่งที่หนานคำส่งให้ข้าวหอม โดยไม่ฟังคำคัดค้านของข้าวหอมแม่แต่นิด เพราะแผนการของบิดาที่เธอลบข้อความออกไปก่อนหน้านั้น ถ้าหากว่าเธอพาเขาไปที่นั่นได้ พยัคฆ์ก็จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

ข้าวหอมรู้ว่าพ่อของเธอจะล่อเขาไปที่นั่นเพื่อล้างแค้น หญิงสาวพยายามห้าม แต่ยิ่งห้ามเขาก็ยิ่งโกรธและโมโห เพราะพยัคฆ์เข้าใจไปเองว่าเป็นจุดนัดหมายที่นัดแนะให้ลูกสาวไปเจอและหนีไปด้วยกัน กว่าที่พยัคฆ์จะรู้ตัวเขาก็ขับรถมาเกือบ 3 ชั่วโมง แถวนี้น่าจะใกล้กับตะเข็บชายแดน

พยัคฆ์ค่อนข้างชินกับเส้นทางแถบนี้ เพราะเป็นเส้นทางผ่านมารดามาทำบุญที่วัดบนเขานี้บ่อย เมื่อหลายสิบปีก่อนพ่อเลี้ยงเมฆกับแม่เลี้ยงพิมาลาได้เจอกับพระธุดงค์ท่านหนึ่งที่ธุดงค์มาจากพม่า ทั้งคู่ให้ความเคารพกับและศรัทธาท่านมาก ท่านมาปักกลดอยู่บริเวณตะเข็บชายแดนตรงนี้

ผ่านไปหลายสิบปีที่ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากขึ้น จนสร้างวัดเล็กๆ อยู่บนภูเขา ซึ่งก็มีลูกศิษย์ลูกหามาทำบุญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนวัดแห่งนี้เป็นที่รู้จัก แม้จะอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมากก็ตาม

พยัคฆ์ขับรถตาม GPS มาเรื่อยๆ จนกระทั่งเลยจุดของวัดแห่งนั้นมาไกลพอสมควร ซึ่งเขาก็รู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นใกล้กับตะเข็บชายแดนเข้าไปทุกที ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอันตรายก็มีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

“ทำไมที่นี่เงียบจัง เธอหลอกฉันใช่มั้ย”

“ข้าวห้ามพ่อเลี้ยงแล้วนะคะ แต่พ่อเลี้ยงก็ไม่เชื่อ” ข้าวหอมบอกทั้งน้ำตาอาบแก้ม

เมื่อ GPS ใกล้สิ้นสุดเส้นทาง มองเห็นโกดังและบ้านหลังเล็กๆ อยู่ไม่ไกล น่าจะใช่บ้านหลังนั้น พยัคฆ์จอดรถและหยิบปืนในคอนโซลรถ เปิดประตูรถและเข้าไปในบ้าน ไม่ลืมฉุดลากข้าวหอมเข้าไปด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel